เรื่อง : นิราศมหรรณพ
ผู้เขียน: ปราปต์ (สนพ. อมรินทร์, 2558)
เคยรีวิวไว้ใน fb ของตัวเองมานานแล้ว เนื่องจากวันที่่ 26 มิถุนายน เป็นวันสุนทรภู่ ก็เลยถือโอกาสหยิบเรื่องนิราศมหรรณพ ซึ่งเป็นนิยายที่มีเรื่องของงานประพันธ์ของสุนทรภู่มาเกี่ยวข้องด้วย
นิราศมหรรณพ เป็นนิยายแนวลึกลับเล่มที่สองของคุณปราปต์ที่เคยได้รางวัลชนะเลิศการประกวดนิยายสืบสวนสอบสวนของอมรินทร์จากเรื่อง กาหลมหรทึก ซึ่งเรื่องนั้นจัดว่าดีมาก เป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในสนามนิยายสืบสวนไทยได้เลย เพราะความแปลกใหม่และความอุตสาหะของคนเขียนในการหาข้อมูลและผูกปริศนาเป็นกลบท (และมีข่าวว่ากำลังจะทำเป็นละครแล้วด้วย)
สำหรับนิราศมหรรณพ เราเห็นความพยายามที่จะผลักตัวเองออกจากจุดเดิมที่เคยประสบความสำเร็จไปให้ไกลขึ้น แต่ว่าด้วยงานที่พยายามจะทำให้สเกลใหญ่ขึ้น ซับซ้อนมากขึ้น ขายไอเดียที่แหวกแนวมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็ยังอยากเก็บเอกลักษณ์เดิมที่เคยประสบความสำเร็จมาจากคราวก่อนเอาไว้ด้วย แต่มีหลากหลายแนวอยู่ในเรื่องเดียวกัน ทั้งสืบสวน เรื่องเหนือธรรมชาติ ไซไฟ แฟนตาซี และทริลเลอร์รวมอยู่ด้วยกันในเรื่องเดียว
เหมือนกาหลมหรทึก เราชอบความพยายาม ความเพียรในการหาข้อมูล ความคิดสร้างสรรค์ของคุณปราปต์ และเล่มนี้ ก็ทำส่วนของปริศนา (puzzle) ให้คนอ่านได้ร่วมคิดตามได้ดีเช่นเคย และส่วนของแฟนตาซีที่อิงกับงานของสุนทรภู่เป็นไอเดียที่เท่มาก ๆ แต่ถ้าถามถึงความกลมกล่อมในการเล่าเรื่องและความสามารถในการจูงใจให้เชื่อ ส่วนตัวให้กาหลมหรทึกมีภาษีมากกว่าพอสมควร
ในนิราศมหรรณพ คุณปราปต์ยังเล่นกับการที่มีคนตายต่อเนื่องในหลาย ๆ จุด และมีของบอกใบ้เอาไว้เหมือนเดิม ซึ่งน่าสนใจว่า ทำไมแต่ละคนต้องไปตายที่วัดแต่ละที่ ในส่วนตรงนี้ สนุกทีเดียวค่ะ เอาจริง ๆ นะ ใครชอบเดินเที่ยวในกรุงเทพฯ น่าไปตามรอยสถานที่เกิดเหตุในแผนที่ที่อยู่ในเรื่องนี้มาก
ส่วนกลวิธีการฆ่า คำโปรยปก "เสียงสังหาร คนประหลาด โศกนาฎกรรม" ถือว่าเป็น spoiler ในตัวของมันเองเลยละ คนที่อ่านนิยายสืบสวนหรือไซไฟบ่อย ๆ นี่ อ่านตอนแรกก็แทบจะเดาได้เลยว่า วิธีการฆ่าของคนร้ายคืออะไร แต่มาเงิบนิด ๆ ตอนเฉลยเกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริงของคนร้าย ถึงจะอ่านมาเรื่อย ๆ แล้วพอเดาได้ แต่ก็อดเงิบไม่ได้อยู่ดีว่า เอาแบบนี้เลยนะ ฮา
ปัญหาของตัวเองเวลาที่อ่านเรื่องนี้ จะติดอยู่เรื่องเดียวตรงที่ไม่ค่อยผูกพันกับตัวละครในเรื่องสักเท่าไหร่ เพราะยังไม่ค่อยอินกับความรักของพระเอกกับนางเอกในเรื่อง คือ จุลเกตุ กับ เชลียง เคมีของตัวละครชายหญิงคู่นี้อาจจะทำปฏิกิริยากันรุนแรงน้อยไปนิดนึง พอเฉลยเบื้องหลังของพระเอกกับความลับของนางเอกแล้วจะค่อนข้างเฉย ๆ นิดหน่อย ไม่ถึงกับกุมอกกุมใจมากมาย ส่วนตัวละครที่มีส่วนในการเฉลยปมในเรื่อง ก็ทำให้ค่อนข้างลังเลว่าจะเอาใจช่วยดีหรือไม่เอาใจช่วยดี เพราะส่วนตัวไม่ค่อยชอบคนนิสัยแบบนี้เท่าไหร่ แต่ความเก่งที่ยอมรับได้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง และด้วยความที่ตัวละครเยอะมาก (ก. ไก่สิบตัว) ความพยายามเกลี่ยบทก็เลยมากตามไปด้วย แต่พอหนัก ๆ เข้า ตัวละคนที่สร้างมาบางตัวที่เหมือนจะมีความสำคัญในตอนแรกก็หายไปเฉย ๆ บางตัวก็โผล่มามีผลกับเรื่องแบบงง ๆ ก็อาจจะมีสะดุดบ้าง
ส่วนที่ชอบมากที่สุดของเรื่องนี้ คือ ในส่วนการไขปริศนาว่าวัดที่เป็นที่เกิดเหตุมีความเกี่ยวข้องกันยังไง และตอนที่เฉลยว่า พระราชนิยมของรัชกาลที่สาม วัดเหล่านั้น และของสุนทรภู่มีความสัมพันธ์กับคนในเรื่องและคดียังไง
"ถึงม้วยดินสิ้นฟ้ามหาสมุทร ไม่สิ้นสุดความรักสมัครสมาน
แม้เกิดในใต้ฟ้าสุธาธาร ขอพบพานพิศวาสไม่คลาดคลา
แม้เนื้อเย็นเป็นห้วงมหรรณพ พี่ขอพบศรีสวัสดิ์เป็นมัจฉา
แม้เป็นบัวตัวพี่เป็นภุมรา เชยผกาโกสุมประทุมทอง"
ใครจะไปคิดว่า มีคนเอากลอนจากพระอภัยมณี ตอน พระอภัยมณีเกี้ยวนางละเวง ไหนจะนิราศเมืองแกลงอีกมาผูกเป็นนิยายลึกลับได้ อันนี้ ยอมจริง ๆ
อีกส่วนที่ชอบ คือ ส่วนของภาคผนวกเกี่ยวกับนิราศมหรรณพ กับ เรื่องของสิ่งมีชีวิตชนิดพิเศษที่เขียนในลักษณะของรายงานทางชีววิทยาทางทะเล อันนี้ก็นับว่าเด็ด เพราะแสดงให้เห็นความตั้งใจของคนเขียน ซึ่งส่วนตัวคิดว่า เจ๋งมาก เหมือน end credit ของหนังที่สนุกเลยละค่ะ (ถ้าอ่านด้วยเสียงของนักพากย์สารคดีอย่างมอร์แกน ฟรีแมน หรือเซอร์เดวิด แอทเทนโบโรห์ด้วยละก็ มันใช่มาก ๆ)
ส่วนที่ตัวเองชอบน้อยที่สุดในเรื่องนี้ คือ สำนวนที่เหมือนจะพยายามให้ได้บรรยากาศแบบนัวร์ มีจิกกัด ประชด บรรยายความดำมืดของตัวละคร แต่การตัดในส่วนที่ไม่ควรจะตัด การบรรยายล้นในส่วนที่ไม่ควรจะล้น เลยทำให้การบรรยายไม่ค่อยลื่นไหลเท่าไหร่ บางที่เหมือนใช้สำนวนผิดหรือสะกดผิดด้วยซ้ำ ถ้าตัดพวกสำบัดสำนวนที่ไม่จำเป็นออก น่าจะกระชับกว่านี้เยอะค่ะ
โดยภาพรวม คือ ก็เป็นเรื่องที่อ่านเพลินใช้ได้อยู่ โดยเฉพาะถ้าอ่านในฐานะ Paranormal Mystery และมีความน่าสนใจตรงที่จะพาเรื่องไปทางไหนและจบเรื่องแบบไหนนี่ละ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in