
 2.
2.
อ่านไปได้สองบรรทัดก็รู้สึกเศร้าขึ้นมาละ ไหนจะการที่พอมีใครพยายามออกมาอธิบาย
ว่าเฮ้ย โรคซึมเศร้ามันเป็นโรคนะ มันคืออาการป่วย ซึ่งจะมาบอกว่าฮิต หรือวัยรุ่นหัดเป็นกันเยอะไม่ได้
จขกท. ก็จะมาตอบอะไรแบบนี้...
 ซึ่งเราโคตรไม่เห็นด้วย แต่ก็ไม่ได้มีความรู้มากพอจะไปแสดงความเห็น (จริงๆ คือใช้พันทิปไม่เป็น)
ซึ่งเราโคตรไม่เห็นด้วย แต่ก็ไม่ได้มีความรู้มากพอจะไปแสดงความเห็น (จริงๆ คือใช้พันทิปไม่เป็น)
ไอ้สิ่งที่รู้ ก็พอๆ กับความเห็นอื่นๆ ที่เข้าไปตอบว่าจขกท. ควรไปอ่านหนังสือเยอะๆ
หรือแบบเข้าใจคำว่าโรคซึมเศร้า กับอาการเศร้าทั่วไปไหม
ต้องแยกให้ออกนะ เพราะโรคคือสิ่งที่หมอวินิจฉัยว่าเป็นไงว้อย มันไม่ได้คิดเอาเองเท่ๆ ก็ได้นะว้อย
3.
อีกอย่างที่คิดว่าตัวเองเรียนรู้ได้ก็คือ เราไม่ควรไปตัดสินคนอื่น
เขาจะป่วยเป็นโรคซึมเศร้าจริง หรืออาจจะแค่มีอาการเศร้าซึมอย่างปกติทั่วไปก็ตาม
มันไม่มีประโยชน์ที่เราจะไปดูถูกจิตใจหรือความเปราะบางของใครเลย
โลกของแต่ละคนมันก็มีรายละเอียดไม่เหมือนกัน จะไปเหยียดว่าทำไมเขาทนเรื่องแค่นี้ไม่ได้ แม่งก็ไม่ถูก
4.
ทีนี้ก็เลยมาคุยกับพี่แอน
เล่าให้พี่แอนฟังว่า ช่วงนี้เพิ่งรู้และเพิ่งได้คุยจริงจังกับคนใกล้ตัวที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าหลายคน
ป่วยคือ ป่วยแบบที่กำลังอยู่ในการดูแลของแพทย์จริงๆ ไม่ได้คิดไปเอง
พอรู้ว่ามีคนใกล้ตัวไม่สบาย มันก็ทำให้เราพยายามหาวิธีที่จะดูแลสุขภาพ (ใจ) เขาให้ดีขึ้น
หรืออย่างน้อยก็อยากรู้ว่าอะไรที่ควรพูดไม่ควรพูด อะไรที่จะทำให้เขาสบายใจหรือไม่สบายใจ
ซึ่งเรื่องหลักๆ ที่เราไม่เคยคิด คือ คนป่วยเป็นโรคซึมเศร้าหลายคน จะต้องเจอภาวะถูกทำให้สับสน
ยิ่งถ้าเพื่อนพยายามปลอบใจด้วยการบอกว่า เฮ้ย มึงไม่เป็นไรหรอก เชื่อดิ, ใครจะป่วยกันง่ายๆ วะ
มึงแค่เครียด เรื่องเล็กแค่นี้เอง, หรือการที่ครอบครัวพยายามปฏิเสธว่าลูกหลานไม่ได้ป่วยนะ
หนูแค่ดื้อ หนูแค่เอาแต่ใจตัวเอง หนูแค่ต้องเลิกเรียกร้องความใจ บลาๆ
สิ่งพวกนี้จะทำให้คนป่วยสับสนว่าตกลงกูป่วยหรือเปล่า หรือกูมันคนไม่ได้เรื่องจริงๆ วะ
หรือหนูแค่นิสัยไม่ดี หนูเอาแต่ใจ หนูมันดื้อ... ซึ่งความคิดพวกนี้มันกวนใจเขาโดยไม่จำเป็นเลย
เราเพิ่งเข้าใจว่า ถ้าคนป่วยรู้ตัวและบอกว่าตัวเองกำลังป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ก็ควรจะเชื่อเขา
(คิดภาพว่า ถ้ามีเพื่อนมาบอกว่า เฮ้ย กูเป็นมะเร็ง เราจะไปเถียงมันเหรอ ว่ามึงไม่เป็นหรอก
มึงแม่งคิดไปเอง, ก็คงไม่ ถูกไหม...)
สิ่งที่เราพยายามหาข้อมูลคือ เราควรทำตัวยังไง
(คิดภาพว่า ก็เหมือนเวลาเพื่อนเราไม่สบาย เราก็ต้องอยากรู้ว่าเราจะดูแลเขายังไง
ซื้อไอติมให้กินได้ไหม ถ้าไข้สูงเช็ดตัวให้ได้หรือเปล่า กินนมแล้วจะเสาะท้องไหม, อะไรทำนองนี้)
พอเล่าให้พี่แอนฟัง พี่แอนก็เลยส่งนี่มาให้ดู 
ถ้าเราเข้าใจจิตใจพวกเค้าบ้าง สักหน่อย
แค่นี้ก็ดีแล้ว