"ความหมายของคำสามารถเปลี่ยนแปลงผ่านกาลเวลา" ข้อความดังกล่าวสามารถเห็นผลได้ เมื่อเราได้มีการรับรู้ข้อมูลใหม่ๆเข้ามาและไปเปลี่ยนความหมายเดิมของมัน แต่ก่อนผมคิดว่าน้ำหอมคือวัตถุประเภทของเหลวที่ส่งกลิ่นหอมออกมาได้ ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องประดับตกแต่งร่างกายของมนุษย์ แต่เมื่อศึกษามาเรื่อยๆจนมุมมองผมเปลี่ยนไป ผมก็ได้ความหมายใหม่คือ เป็นงานศิลปะที่ไม่เหมือนกับศิลปวัตถุอื่นๆ
ผู้อ่านคงตั้งคำถามว่า แล้วมันแตกต่างอย่างไร? สิ่งที่แตกต่างในความคิดของผมก็คือ น้ำหอมมันมีชีวิต การมีชีวิตที่ว่าไม่ใช่หายใจได้หรือเคลื่อนไหวได้ แต่น้ำหอมมันเป็นวัตถุที่เปลี่ยนแปลงตัวมันเองได้ตลอดเวลาในประเด็นของกลิ่น ผมอยากให้ผู้อ่านลองสังเกตน้ำหอมที่ผู้อ่านมีอยู่ บางคนอาจใช้มันอยู่ทุกๆวัน แต่ก็ไม่ได้ไปใส่ใจอะไรกับมันมากนัก ขอเพียงแค่เราได้กลิ่นหอมๆจากมันก็พอ ผู้อ่านลองใช้เวลาว่างๆ นำน้ำหอมมาฉีดที่ข้อมือดูและก็ลองดมกลิ่นจากข้อมืออย่างค่อยๆ จดจำกลิ่นนี้ไว้ จากนั้นก็ทำกิจกรรมอื่นๆไปก่อน แล้วกลับมาดมใหม่อีกที ควรที่จะเว้นระยะห่างประมาณชั่วโมงจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของกลิ่นน้ำหอมที่ผู้อ่านครอบครองไว้ บางคนอาจบอกว่ากลิ่นก็เหมือนเดิมไม่เห็นมีการเปลี่ยนแปลงเลย ในส่วนนี้ผมเดาว่า ผู้ผลิตน้ำหอมกลิ่นที่ว่า ไม่ต้องการให้เกิดความเปลี่ยนแปลงของกลิ่น จึงปรุงกลิ่นน้ำหอมออกมาให้มีกลิ่นเดียวตลอดตั้งแต่ต้นจนจบ แต่บางทีอาจมีการเปลี่ยนแปลงของกลิ่นแต่เราแทบจะไม่รู้สึกตัวเลย อย่าพึ่งเสียใจไปครับ จริงๆทุกคนสามารถไปทดลองน้ำหอมที่มีกลิ่นซับซ้อนและเรียบง่ายที่ห้างสรรพสินค้า ซึ่งมีกลิ่นให้ลองมากมาย ส่วนตัวผมคิดว่ามันเป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้เกี่ยวกับน้ำหอมที่ไม่ต้องเสียเงินอะไรเลย แค่เสียเวลาเท่านั้นเอง
จากย่อหน้าข้างต้นผู้อ่านคงเข้าใจว่าทำไมผมถึงคิดว่าน้ำหอมมันมีชีวิต ก็เพราะมันมีการเปลี่ยนแปลงของกลิ่นอยู่เรื่อยๆแต่การเปลี่ยนแปลงของกลิ่นมันมีการสิ้นสุด ไม่ใช่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมาย การเปลี่ยนแปลงถูกกำหนดมาจากนักปรุงน้ำหอม เพราะฉะนั้นถ้าเราทดลองดมกลิ่นๆหนึ่งบ่อยครั้ง และใช้เวลาสังเกตการเปลี่ยนแปลงของมัน เราก็สามารถเข้าใจถึงสิ่งที่ผู้ปรุงต้องการจะสื่อออกมาให้เห็น จริงๆแล้วการเปลี่ยนแปลงมันมีความซับซ้อนมากกว่านี้ แต่ถ้าอธิบายในตอนนี้ผู้อ่านคงต้องงงแน่ๆ ไว้ผมจะมาอธิบายอีกทีนะครับ
มาต่ออีกนิดนะครับ ทำไมผมถึงคิดว่าน้ำหอมคือศิลปะ ส่วนหนึ่งแล้วก็เกิดจากย่อหน้าที่ผมอธิบายไปข้างต้นว่า น้ำหอมมันมีการเปลี่ยนแปลงของกลิ่น ทำให้มันดูมีชิวิต สิ่งที่ทำให้นำ้หอมมีความเป็นศิลปะก็คือ มันต้องถูกปรุงกลิ่นตามความคิดสร้างสรรค์ของผู้ปรุงกลิ่น ไม่ใช่ใครจะผสมกลิ่นอะไรเข้าไปก็นำมาขายได้ และการที่เราจะเข้าใจในน้ำหอมกลิ่นๆหนึ่ง เราจะต้องใช้เวลาและใช้สมาธิในการทำความเข้าใจว่ากลิ่นนี้เราได้กลิ่นอะไรบ้าง มันทำให้เรารู้สึกอย่างไรเมื่อได้ดม ทั้งหมดก็เหมือนกับการที่เราชมงานศิลปะซึ่งเราจะต้องใช้เวลาและสมาธิในการดูและเพลิดเพลินไปกับงานศิลป์เหล่านี้ น้ำหอมแตกต่างเพียงแค่เราใช้จมูกไม่ใช่ตาในการทำความเข้าใจมัน
จบไปเรียบร้อยสำหรับน้ำหอมในมุมมองของผม บางทีผมอาจจะอธิบายไม่เข้าใจต้องขอโทษไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ สรุปอย่างง่ายๆก็คือ น้ำหอมไม่ใช่เป็นเพียงแค่วัตถุ แต่มันคืองานศิลปะที่มีชีวิต และรอคอยให้ผู้ใช้ลองใช้เวลากับมันอย่างตั้งใจ และจะพบถึงความมหัศจรรย์ของมัน
23/07/2017
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in