เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เสน่หาคาตาโลเนียNuchanan
(8) แซงเกรีย
  • ลาเพสั่งแซงเกรียหนึ่งเหยือก ทำท่าจะดื่มคนเดียว ผมขอแบ่งมาลองแก้วหนึ่ง แซงเกรียสีเหมือนเลือดใสๆ ทำจากไวน์แดงผสมกับเลมอน ส้ม แซงเกรียรสหวานออกเปรี้ยว ดื่มง่าย พวกผู้หญิงคงชอบ

    “เธออายุเท่าไร ยี่สิบห้าใช่ไหม แล้วลุงเธออายุสี่สิบห้า ห่างกันแค่ยี่สิบปีเอง” ลาเพถามผม

    “ลุงเป็นลูกพี่ลูกน้องของพ่อ แก่กว่าพ่อผมสองปี พ่อผมเสียแล้วนะ พ่อผมมีผมตอนอายุสิบแปด ผมเป็นลูกคนเดียว แม่ผมเสียตอนผมยังเด็ก ผมเลยไม่มีพี่น้อง”

    ผมไม่ได้พูดถึงพ่อมานานแล้ว แม่ด้วย ถ้าลาเพไม่ชวนผมคุย ผมคงไม่ได้กลับไปคิดถึงเรื่องพวกนี้

    “พ่อเธอมีลูกเร็วนะ”

    “พ่อจีบแม่ตั้งแต่ยังเรียนอยู่น่ะ ผู้ชายตระกูลผมเจ้าชู้ทั้งนั้น ทั้งพ่อ ทั้งลุง ยกเว้นผมนะ ผมรักเดียวใจเดียว” ผมพูดความจริงนะลาเพ

    “เธอเรียนจบอะไร” ลาเพเปลี่ยนหัวข้อสนทนา

    “ซักประวัติผมใหญ่ สนใจผมเหรอ” ผมแกล้งแหย่ลาเพ

    เธอชักสีหน้า แต่มันทำให้เธอน่ามองเข้าไปอีก

    “ผมจบพฤกษศาสตร์ ก็เรียนเกี่ยวกับพืช นิเวศวิทยา พันธุศาสตร์ประมาณนี้” แล้วผมก็บอกชื่อมหาวิทยาลัย

    “เธอเรียนเก่งนี่”

    ตั้งแต่มาด้วยกัน ผมเพิ่งได้รับคำชม

    “แต่ผมเข้าเรียนปีหนึ่งตอนอายุยี่สิบเอ็ดนะ ตอนเด็กๆ ผมไม่สบาย ต้องอยู่โรงพยาบาลสองปี เลยเข้ามหาวิทยาลัยช้ากว่าคนอื่น”

    “สองปี? เธอป่วยหนักเหรอ”

    “เกิดเรื่องนิดหน่อยน่ะ” ผมพูดแค่นั้น ไม่อยากบอกอะไรมาก

    “แล้วตอนนี้เธอไม่ทำงาน”

    “ไม่อะ คือตอนเรียนผมเหนื่อยมาก เรียนยากมาก ผมเลยกะว่าเรียนจบแล้วผมจะพักสักปีสองปี แล้วค่อยคิดว่าจะทำอะไร”

    ผู้หญิงที่อายุมากกว่านี่ถามเยอะแฮะ

    “ถ้าคุณไปหาลุงแล้วไม่มีใครอยู่ มานั่งเล่นที่บ้านผมก็ได้นะ ผมอยู่คนเดียว ชายหนุ่มหน้าตาดีอย่างผมอยู่คนเดียว ผมกำลังบอกว่าคุณว่า ผมหล่อ รวย และไม่มีพันธะ” แล้วผมก็ยักคิ้วให้

    ลาเพส่ายหน้า เธออาจเริ่มระอาในความปากดีของผม


    เราสั่งทาปาสหลายๆ อย่างมากินกัน แซลมอนวางบนแผ่นขนมปังเล็กๆ แต้มด้วยคาเวียร์ แฮม โคลด์คัทเลิศรส ตามด้วยปลาย่างราดซอสไวน์ขาว ของหวานเป็นชีสเค้ก นอกจากเรื่องกาแฟแล้ว รสนิยมการกินอาหารของลาเพกับผมเข้ากันได้ดีมาก เธอดื่มเหล้าเบียร์ กินอาหารที่ผมชอบกิน

    ผมรู้สึกดีที่ได้ร่วมโต๊ะอาหารกับคนที่มีรสนิยมการกินเหมือนกัน ตอนเรียนมหาวิทยาลัย มีอยู่ครั้งหนึ่งผมไปกินข้าวที่ร้านอาหารญี่ปุ่นกับกลุ่มเพื่อน ผมสั่งข้าวหน้าปลาไหล ปลาไหลย่างแสนสวยวางตัวเรียงกันแน่นอยู่ในกล่องข้าวสี่เหลี่ยม เพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งมองปลาไหลแล้วพูดว่า “ปลาไหลมันมาก เลี่ยนมาก” พูดลากเสียงด้วยนะ แล้วทั้งโต๊ะก็มองผม

    เพื่อนผู้ชายสองสามคนรุมถามผมว่ากินปลาไหลมันเยิ้มเข้าไปได้อย่างไร กลืนลงเหรอ ผมกลายเป็นตัวประหลาดเพราะรสนิยมการกินไม่เหมือนหล่อน หลังจากนั้นสามเดือน ผมต้องทำรายงานกลุ่มกับสาวที่เกลียดปลาไหลคนนั้น เรามีความเห็นไม่ตรงกันเลย การทำรายงานทุลักทุเลมาก เกือบทะเลาะกัน


    ผมเชื่อว่าอาหารเป็นมากกว่าสิ่งที่ทำให้เราอิ่ม มันยังสามารถสะท้อนถึงนิสัยของคนเราด้วย คนที่เข้ากันได้ก็จะชอบอาหารคล้ายคลึงกัน คนที่ไม่ชอบหน้ากันจะรังเกียจสิ่งที่อีกฝ่ายกิน นี่เป็นความเชื่อของผม ลาเพจะชอบกินปลาไหลไหมนะ


    ลาเพดื่มจนหน้าแดง น่าจะเมาแล้ว เธอทรงตัวไม่ค่อยได้ ผมต้องพยุงเธอกลับห้องพัก พอเปิดประตูเข้าไป ยังไม่ทันเปิดไฟ ลาเพก็เซเหมือนจะล้ม ผมประคองเธอไปที่โซฟา เธอซบไหล่ผม เรานั่งกันบนโซฟาในความมืด มีแสงจากหน้าต่างมาพอให้เห็นสลัวๆ


    ผมคิดถึงบทสนทนาที่เราคุยกันระหว่างมื้ออาหาร เรื่องพ่อผม แม่ ลุง ผมกำลังคิดว่าลาเพมีครอบครัวหรือไม่ พ่อของเธอ แม่ของเธอ

    “เมื่อกี้ตอนที่อยู่ร้านอาหาร เราคุยกันถึงครอบครัวผม แล้วครอบครัวคุณล่ะ ผมอ่านสัมภาษณ์คุณมาหลายปี ผมไม่เห็นคุณพูดถึงครอบครัวคุณเลย” ผมถามลาเพ


    ...ติดตามตอนต่อไป

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in