ในวันเดินทาง ผมยืนรอลาเพที่สนามบิน ไม่รู้ว่าลาเพจะว่าอย่างไร ผมอาจโดนด่าชุดใหญ่ ก็เธอท่าทางเอาเรื่องออกอย่างนั้น แต่ผมไม่สนหรอก ลุงให้ผมไปเที่ยวฟรี ผมก็ไปสิ แค่ต้องดูแลนักเขียนโคตรหยิ่งคนหนึ่ง มันจะเป็นอะไรไป
ลาเพเดินมาโน่นแล้ว เธอมาพร้อมกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ใส่เสื้อแขนยาวสีครีมกับกางเกงสีเทาเข้มตัวหลวม รองเท้าผ้าใบลายจุด ถ้าเธอไม่ใช่คนรักของลุง ผมคงหลุดปากทักไปว่าแต่งตัวแบบนี้คุณดูน่ารักนะ ผมยังไม่ทันพูดอะไรออกไป ลาเพก็รีบเข้ามาถาม
“มาส่งมิคเหรอ มิคอยู่ไหนน่ะ ฉันโทรไปเขาปิดเครื่อง”
“ลุงไม่ไปแล้ว เขาให้ผมไปกับคุณแทน”
ลาเพดูตกใจมาก “ก็มิคบอกว่าเขาซื้อตั๋วเครื่องบินไปสเปนแล้ว”
“คุณเห็นตั๋วเขาเหรอ”
“ไม่เห็น แต่เขายืนยันกับฉันว่าเขาซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้ว”
“ลุงเขาหลอกคุณ ที่เขาบอกว่าซื้อตั๋วน่ะ เขาซื้อให้ผม ผมมีวีซ่าด้วยนะ” ผมยื่นตั๋วกับหนังสือเดินทางให้ลาเพดู
“แล้วโรงแรมล่ะ มิคเป็นคนจองห้อง เขาส่งใบจองมาให้ฉันดูด้วย มีชื่อเขากับฉัน”
“ลุงติดต่อทางโรงแรมแล้วว่าจะไม่เข้าพัก ผมจะไปแทน นี่ไง ใบจองอันใหม่” ผมยื่นใบจองโรงแรมให้เธอดูอีก “มีชื่อผมกับชื่อคุณ หายสงสัยแล้วนะ ผมต้องไปกับคุณ ลุงมิคไม่ไป เขาไปธุระที่มาเลเซีย”
ลาเพไม่พูดอะไร หน้าเธอบึ้งมาก เธอจับหูกระเป๋าเดินทางแล้วลากมันไปเลย ทิ้งผมไว้อย่างนั้น ผมรีบเดินตามเธอไป
“ลุงเขาไม่กล้าปฏิเสธ เขาก็ส่งผมมาแทนไง ยังไงคุณก็ต้องไปอยู่แล้วนี่” ผมพูดกับลาเพ เธอไม่สนใจเลย ผมกำลังพูดกับอากาศธาตุ
บนเครื่องบิน ผมนั่งติดกับลาเพ แต่เธอก็ยังไม่พูดกับผม ความเงียบอึดอัดครอบคลุมยาวนาน เมื่อเครื่องของเราอยู่เหนือทะเล เธอขอน้ำดื่มหนึ่งขวดจากแอร์โฮสเตส เธอรับขวดน้ำมาแล้วก็ตั้งไว้อย่างนั้น อีกสักพักเธอบิดฝาขวดแต่บิดไม่ออก ผมถือวิสาสะคว้าขวดจากมือเธอ
“ผมเปิดให้” ฝาขวดบิดออกอย่างง่ายดาย เธอไม่ขอบคุณ ไม่ขอบใจ ไม่พูดอะไรเลย ไม่มองหน้าผมด้วยซ้ำ
ลาเพหยิบกระเป๋าถือมาไว้ที่ตัก ควานหาของ เธอหยิบซองยาออกมา ชั่วขณะที่ลาเพหยิบยาเม็ดออกมาจากซอง กินยาแล้วดื่มน้ำตาม ผมหายใจไม่ทั่วท้อง รู้สึกแย่ทุกครั้งที่เห็นคนกินยาเม็ด สีหน้าผมคงเหยเกมาก ลาเพหันมามองหน้าผม ผมรีบหันไปทางอื่น เราไม่ได้พูดคุยกันอีกเลย
สามพยางค์ ‘ผมเปิดให้’ เป็นคำพูดเดียวที่เรามีต่อกัน จนกระทั่งถึงบาร์เซโลนา
***
วันอังคารที่สามของเดือนพฤษภาคม ปลายฤดูใบไม้ผลิ ผมมาถึงบาร์เซโลนาพร้อมกับลาเพ จนถึงตอนนี้เธอก็ยังไม่พูดกับผม ระหว่างที่เรารอรับกระเป๋าจากสายพานสนามบิน ผมเห็นป้ายเขียนว่า “Welcome to Barcelona” เมืองบาร์เซโลนายังยินดีต้อนรับผม แต่คนที่ยืนข้างๆ ไม่ต้อนรับผมเลย คงจะดีกว่านี้ถ้าคนสวยหันมายิ้มให้ผมบ้าง
“โกรธเหรอ” ผมกลั้นใจถามลาเพ
“ครับ คำว่าครับหายไปไหน ทำไมพูดกับฉันไม่มีหางเสียง ฉันแก่กว่าเธอตั้งกี่ปี!” เธอหันมาจ้องหน้าผม
ห้าปี ลาเพอายุสามสิบ ส่วนผมเพิ่งจะครบยี่สิบห้าไปไม่กี่สัปดาห์ แต่ว่าหน้าตาของผมดูเข้มกว่าอายุจริง ผิวสีแทน โครงหน้าชัด สองอย่างนี้ทำให้คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าผมอายุเกือบสามสิบปี
ส่วนลาเพ ถึงแม้จะเดินทางมาแล้วหลายชั่วโมง แต่หน้าตายังคงสดใส ตาสวย ตาไม่โตมากแต่สวย ตาสีน้ำตาลคล้ายน้ำตาลไหม้ ปากนิดจมูกหน่อย ผิวขาวเรียบเนียนทำให้ลาเพดูอ่อนเยาว์กว่าอายุจริง ถ้าไม่เชื่อลองเรียกใครมาก็ได้ ถามว่าผมกับเธอน่าจะอายุห่างกันกี่ปี พนันได้เลยว่าคนคงคิดว่าเราอายุต่างกันไม่เกินสองปี บางคนอาจคิดว่าเราอายุเท่ากันด้วยซ้ำ
ผมไม่อยากพูดกับลาเพแบบมีหางเสียง
“ก็ผมมันคนไม่มีมารยาท อีกอย่าง คุณก็ดูเด็ก ผมไม่รู้จะพูดครับไปทำไม”
“ฉันเป็นแฟนลุงเธอนะ เป็นป้าเธอได้เลย”
“จะเป็นป้าผม ต้องแต่งงานกับลุงผมก่อน แล้วคุณแน่ใจแล้วเหรอว่าลุงเขาจะแต่งด้วย นี่เขาไม่ยอมมากับคุณด้วยซ้ำ”
ลาเพหน้าเสีย ผมไม่น่าพูดแรงขนาดนั้น
เราสองคนออกจากอาคารสนามบิน ลมฤดูใบไม้ผลิพัดมา อากาศเย็นแห้ง ผมชอบเมืองบาร์เซโลนา เคยมาสองสามครั้ง เมืองสวยน่าเที่ยว เราเรียกแท็กซี่ไปยังโรงแรม โรงแรมอยู่ใกล้พลาซาคาตาลุนยา ผมกับลาเพไปที่เคาน์เตอร์เพื่อเช็คอิน
ลาเพมีข้อเสนอให้ผม “ทัน ถ้าเธออยากจะพักห้องอื่นก็ได้นะ เดี๋ยวฉันถามให้ว่ามีห้องว่างอีกหรือเปล่า”
“ไม่ต้องหรอก พักด้วยกันนี่แหละ จองเป็นห้องชุดไม่ใช่เหรอ มีสองห้องนอน ถ้าห้องนอนเดียว ลุงเขาไม่ให้ผมมาหรอก”
เธอขมวดคิ้ว ดูท่าทางกังวลใจ
“ผมไม่ทำอะไรคุณหรอกน่า ลาเพ”
“เผื่อเธออึดอัด หรืออยากเป็นส่วนตัว”
“ผมขอไปดูห้องคุณก่อน”
ลาเพรับคีย์การ์ดจากพนักงาน เดินตรงไปที่ลิฟท์ ผมลากกระเป๋าเดินทางตามไป ลิฟท์และทางเดินสะอาดสะอ้าน เมื่อเปิดประตูเข้าไปห้องพักกว้างมาก เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีสองห้องนอนอยู่กันคนละฟาก ห้องนอนใหญ่กับห้องนอนเล็ก คั่นด้วยห้องน้ำ ห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อกับห้องกินข้าว และมีแพนทรีสำหรับเตรียมอาหารอีกด้วย
ผมเดินสำรวจห้องพัก “ไม่เป็นไรมั้ง ไม่ต้องหาห้องใหม่หรอก ผมพักที่นี่ก็ได้ ห้องนอนก็แยกกันนี่ ในห้องนอนใหญ่มีห้องน้ำด้วย ก็เท่ากับมีสองห้องนอน สองห้องน้ำ ผมไม่อึดอัดหรอก”
“ใครเป็นคนออกความคิดว่าจะจองห้องนี้” ผมถามลาเพ เห็นแปลนห้องแล้วก็สงสัย ห้องนอนทั้งสองห้องอยู่ห่างกันมาก ถ้าแยกย้ายกันไปนอนคนละห้อง จะเรียกว่าไม่ได้มาด้วยกันยังได้เลย
“ฉันเลือกเอง ฉันชอบห้องนี้ กว้างดี” ลาเพตอบ
“คุณจะมาสวีทกับลุงผม แต่จองห้องพักแบบมีสองห้องนอนเนี่ยนะ”
“เธอนอนห้องนอนเล็กนะ ฉันจะนอนห้องนอนใหญ่” ลาเพลากกระเป๋าของเธอไปทางห้องนอนใหญ่ เธอเข้าห้องไปแล้วปิดประตู
...ติดตามตอนต่อไป
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in