ผมพบลาเพครั้งแรกที่สนามหญ้าหน้าบ้าน ผมเคยได้ยินมาบ้างว่าเธอสวย แต่ไม่คิดเลยว่าตัวจริงจะสวยมากขนาดนี้
ลาเพเป็นคนรักคนล่าสุดของลุงมิค มหาเศรษฐี เจ้าของร้านอาหารชื่อดัง ลุงมิคมีพร้อมทุกอย่างทั้งทรัพย์สิน การงาน ถึงจะอายุสี่สิบห้าแล้วแต่ก็ยังไม่แก่ อายุที่มากขึ้นกลับทำให้หน้าตาหล่อๆ ของลุงยิ่งดูภูมิฐาน ทุกข้อที่กล่าวมาทำให้ลุงเป็นที่ชื่นชอบของสาวๆ ผมไม่แปลกใจที่นักเขียนอายุไม่มากนักอย่างลาเพมาชอบพอกับลุง วันนี้ลาเพมาที่ร้านอาหาร ‘มายา’ ของลุงมิคเพื่อถ่ายรูปลงหนังสือเล่มล่าสุดของเธอ ร้านเป็นบ้านเก่าของลุงดัดแปลงมาเป็นร้านอาหาร บ้านของผม บ้านของลุง และร้านมายาอยู่ในรั้วเดียวกัน เชื่อมสามหลังด้วยสนามหญ้า
“ทัน ไปเจอลาเพหน่อยสิ อยากเห็นตัวจริงไม่ใช่เหรอ”
ลุงมิคเรียกผมให้ไปหา ผมตื่นเต้นนิดหน่อยที่จะได้เจอนักเขียนขวัญใจ ผมชอบนิยายของลาเพมาก มีทุกเล่ม นิยายของเธอสร้างกำลังใจ ให้แรงบันดาลใจในวันที่ผมอ่อนล้า สมัยก่อนผมถึงกับจองนิยายล่วงหน้าหลายเดือนเพราะอยากได้ลายเซ็นของเธอ แต่ช่วงสองสามปีนี้ลาเพไม่เขียนนิยายเล่มใหม่เลย
อันที่จริงการที่เธอมาถ่ายรูปลงหนังสืออย่างนี้ทำให้ผมแปลกใจ ลาเพเป็นนักเขียนที่เก็บตัวมาก ก่อนหน้านี้เธอไม่เคยให้ใครเห็นหน้า แม้แต่บทสัมภาษณ์ในนิตยสารก็มีเพียงคำสัมภาษณ์ ไม่เคยมีรูปถ่ายของเธอเลย แต่อยู่ๆ สำนักพิมพ์ก็ประกาศว่าลาเพจะออกหนังสือไลฟ์สไตล์ของตัวเอง เล่มแรกคือหนังสือสอนวิธีชงกาแฟ ภายในเล่มจะมีเทคนิคการเลือกกาแฟ อุปกรณ์ วิธีชงหลากหลายรูปแบบ และที่สำคัญจะมีรูปถ่ายของเธอลงสื่อเป็นครั้งแรก ทีมงานจากสำนักพิมพ์กำลังง่วนอยู่กับการเตรียมสถานที่ ร้านมายาตกแต่งสวยงาม เหมาะกับการถ่ายรูปลงหนังสือ
ลาเพยืนอยู่ตรงนั้น ที่สนามหญ้าด้านข้างร้าน ผมเดินเข้าไปหาลาเพ ตัวเธอเล็กกว่าที่คิด ใบหน้าสวยกระจ่าง ไม่มีรอยยิ้มบนใบหน้า ท่าทางไม่ใช่คนชอบยิ้ม แต่ก็ยังน่ามองอยู่ดี ลุงแนะนำเธอกับผมให้รู้จักกัน ลาเพสวยสะดุดตาจนทำให้สนามหญ้าอันแสนจืดชืดดูมีสีสันขึ้นมาได้ แต่จะเป็นสีอะไรนั้น ผมเองก็บรรยายไม่ถูก
ผมจ้องมองใบหน้าของลาเพ พินิจส่วนประกอบของใบหน้า ไล่ตั้งแต่ริมฝีปาก จมูก เรื่อยไปถึงดวงตา แววตาแบบนี้ หน้าตาแบบนี้ ทำให้ผมนึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่จมดิ่งอยู่ภายในใจ ผมรู้สึกเหมือนใบหน้านี้สะกดผม ชักจูงผมไป พาผมไป
ผมคงจ้องหน้าเธอนานเกินไป ลาเพมองผมอย่างสงสัย
“เราเคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่า ผมคุ้นหน้าคุณมากเลย” ผมรวบรวมความกล้าถามออกไป
“ฉันไม่เคยเจอเธอ ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามิคมีหลาน เพิ่งรู้วันนี้แหละ” ลาเพพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“ผมชอบอ่านนิยายของคุณมากเลยนะ หนังสือเล่มใหม่ที่จะออก ผมก็ชอบ ผมชอบดื่มกาแฟ คุณสอนผมชงกาแฟบ้างสิ” ผมบอกลาเพ ผมหวังอย่างนั้นจริงๆ การได้เรียนชงกาแฟกับเธอตัวต่อตัวคงเป็นอะไรที่วิเศษมาก
“ฉันไม่ว่าง ขอตัวนะ ต้องไปถ่ายรูปต่อ” ลาเพปฏิเสธคำขอของผม แล้วเธอก็เดินหนีผมไปเลย เธอเดินออกจากสนามหญ้าเข้าไปที่ร้านมายา ผมไม่เคยเจอการตัดบทสนทนาที่ไม่เหลือเยื่อใยขนาดนี้ ลาเพหยิ่งมาก ผมผิดหวังจริงๆ
เมื่อลาเพและทีมงานทุกคนเข้าไปในร้านแล้ว ผมแอบเข้าไปในห้องลับคนเดียว ผ่านทางประตูลับที่อยู่หลังพุ่มไม้ ร้านมายานั้นเมื่อเดินเข้าประตูทางเข้าจะเห็นว่าทางซ้ายมือมีตู้ปลาขนาดใหญ่สูงจรดเพดานฝังอยู่ในผนัง ที่จริงแล้วมีห้องอยู่หลังตู้ปลา เป็นห้องลับ ภายในตกแต่งราวกับเป็นบาร์ขนาดย่อม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เรียงรายเต็มตู้ติดผนัง มีเครื่องเสียงชั้นดี ตู้เย็น เก้าอี้ และเดย์เบด ผนังด้านหนึ่งของห้องลับคือกระจกมองเห็นได้ด้านเดียวซึ่งเป็นผนังเดียวกับตู้ปลา
เราสามารถเข้าไปอยู่ในห้องลับแล้วมองผ่านกระจกออกมาเห็นบริเวณภายในร้านได้ทั้งหมดยกเว้นชั้นสอง ห้องนี้ลุงมิคสร้างเอาไว้นั่งมองลูกค้า ตอนแรกผมก็ไม่รู้หรอกว่ามีห้องนี้ จนกระทั่งลุงมิคชวนผมเข้าไปนั่งดื่มเป็นเพื่อนในห้องนั้น
“ฉันจะบอกอะไรให้แกฟังนะ” ลุงพูดกับผม
“โลกนี้มันไม่ตรงไปตรงมา แกดูนั่นสิเห็นผู้ชายคนนั้นไหม ตอนแรกเขามากับผู้หญิงคนนึง พอเธอลุกจากโต๊ะ เขาก็จีบผู้หญิงอีกคน” ลุงพูดพลางจิบวิสกี้ ชี้ไปที่ผู้ชายวัยกลางคนที่กำลังควักนามบัตรส่งให้สาวน้อยหน้าใสที่อยู่โต๊ะข้างๆ ทั้งสองหัวเราะกันอย่างอารมณ์ดี
“ฉันถึงชื่อร้านนี้ว่า ‘มายา’ ฉันชอบนั่งสอดดูชาวบ้านนะ สนุกดี”
ผมมองผ่านกระจกเข้าไปร้าน ลาเพยืนอยู่ที่เคาน์เตอร์กาแฟ เธอกำลังวางท่าให้ตากล้องถ่ายรูป ผมหยิบเบียร์จากตู้เย็น เอนกายลงบนเดย์เบด กึ่งนั่งกึ่งนอน เฝ้ามองลาเพอย่างเพลิดเพลิน ผมออกจากห้องลับก่อนที่ทุกคนจะทำงานเสร็จ
...ติดตามตอนต่อไป
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in