เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Makers Tipsminimore
ร้ายก็รัก! 6 วิธีสร้างตัวร้ายอย่างไรให้ดีจนน่าเลิฟ
  • แน่ะ งงล่ะสิ ทำไมจู่ๆ จะเขียนเรื่องการสร้างตัวละครไรงี้ แทนที่จะเริ่มที่พระเอก ไหงมาเริ่มที่ตัวร้ายก่อน สารภาพตรงๆ เลยว่าเพราะเห็นกองถ่ายเรื่อง THOR : Raknarok  ที่บริสเบน คุณทอม ฮิดเดิลสตัน (ไอม์โลขี่ ออฟ แอ๊สการ์ด) ไปกองถ่ายและอยู่กับคริส เฮมสเวิร์ธ (ธอร์ โอดินซัน) ก็เลยไปลองหาว่าเอ๊ะ ทำยังไงเราถึงจะเขียนตัวร้ายให้คนเอาใจช่วยนะ! เพราะดูสิ คนรักโลกิเยอะเกิ๊น 

    มินิมอร์เห็นบทความของ writerdigest.com น่าสนใจจริงๆ เกี่ยวกับ 6 ข้อที่จะสร้างให้ตัวร้ายนั้นมีคุณค่า ทรงพลัง และเป็นที่จดจำ ซึ่งมีประโยชน์มาก และสรุปได้น่าสนใจมากเช่นกัน ตามอ่านได้เลย แน่นอนว่ามินิมอร์จะเขียนเสริมไปให้เหมือนเคย หาอ่านที่อื่นไม่ได้นะจ๊ะ :>

    ตัวร้ายที่มินิมอร์นำเสนอ อาจจะไม่ได้มาจากหนังสืออย่างเดียว เรียกได้ว่าเอาตัวร้ายที่มินิมอร์ชอบรู้จักกันดีมาเล่าก็แล้วกันเนอะ



    1. ตัวร้าย...ก็ยังเป็นคนและมีชีวิตจิตใจนะเอ้อ


    ข้อนี้ทุกคนอาจจะแย้งมา "แมลิฟิเซนเป็นนางฟ้าที่กลายเป็นแม่มด!" ไม่ได้หมายถึง race หรือเผ่าพันธุ์นะเธ้อออออ ใจเย็น แต่หมายถึงว่า ต่อให้เป็นตัวร้าย เขาก็ยังมีความรู้สึกนึกคิด มีชีวิตจิตใจ ไม่ต่างกับที่เวลาเราเขียนให้ตัวเอกมีปูมหลังหรืออะไรงี้

    มินิมอร์บอกก่อนว่าเวลาเราเขียนเรื่อง (โดยเฉพาะ fiction) ถ้าเราเริ่มต้นเขียนด้วยการคิดว่า "พระเอก นางเอก ตัวร้าย แม่งก็ตัวละครทั้งนั้นอะ" ความหายนะจะตามมาในไม่ช้า ไม่ว่าจะเป็นการเขียนแล้วตัน เขียนแล้วไปไม่ถูก ลองมาคิดใหม่ทำใหม่กันดีกว่า มองก่อนว่าพวกเขาก็มีชีวิต มีจิตใจ หรืออาจจะมีครอบครัวเหมือนกัน เราจะเสริมมิติหลายๆ อย่างได้ดีเลย

    ในบทความตั้งต้นแนะนำถึงคาแรคเตอร์ที่น่าสนใจมากมาย อย่างตัวร้ายเช่น แฟรงเกนสไตน์ก็ยังมีมุมที่โดดเดี่ยวเศร้าสร้อย หรืออย่าง ผู้ตรวจการฌาแวร์จากเรื่อง Les Misérables เอง แม้จะดูร้ายแต่ก็ยังเข้าใจได้ว่าเหตุผลที่กระทำนั้นเกิดมาจากความเชื่อมั่นในสิ่งที่ตนเองคิด (แค่มันสวนทางกะคนอื่นๆ ที่เป็นตัวละครหลัก)

    หรือถ้ายกตัวอย่างง่ายๆ งั่งๆ เลย สำหรับอนิเมชั่นเรื่อง Robin Hood ของดิสนีย์ ที่เป็นฉบับสารพัดสัตว์ ก็มีเจ้าชายจอห์น (อนุชากษัตริย์ริชาร์ดใจสิงห์)​ รูปลักษณ์ของเขาเป็นสิงโตหนุ่มที่แผงคอยังไม่งอกเต็ม (แสดงให้เห็นเชิงสัญลักษณ์ว่ายังไม่โต ยังไม่พร้อมไรงี้) แม้จะเป็นตัวร้ายรีดนาทาเร้นชาวบ้านอย่างไร ก็ยังมีมุมที่รักและโหยหาความอบอุ่นจากแม่ เวลาโดนใครแกล้งก็จะดูดหัวแม่โป้งแล้วร้องหาหม่ามี้ ที่แย่งชิงอำนาจพี่เพราะอยากเก่งแบบลูกที่หม่ามี้ชื่นชม นี่ไง เป็นตัวร้ายแต่ก็ยังมีมุมอื่นๆ นะ 

    หม่ามี้...
  • 2. หลีกเลี่ยงตัวร้ายแบบที่โคตรรรรจะร้าย ร้ายสุดยอด สุดโต่ง

    ร้ายแบบ โอ้โห ชีวิตนี้ไม่เคยมีเรื่องอะไรดีๆ เกิดในชีวิตเลยเหรอพี่ มัน เป็นไปไม่ได้ และ เดาง่ายเกิ๊น  อันนี้คือที่บทความต้นฉบับเขียนเอาไว้ มันน่าเบื่อเนาะ 

    การที่ตัวร้ายจะร้ายยยย จนไม่มีใครเข้าใจนางได้เลย อาจจะทำให้เรื่องไม่น่าดึงดูดหรือไม่น่าสนใจ ทางผู้เขียนบทความได้เสนอแนะไว้ว่า ลองใช้วิธีเปรียบเทียบไหม? อย่างเช่น ตัวเอกกำลังลำบากในการหาเนอสเซอรี่ให้ลูก ตัวร้ายก็กำลังหาบ้านพักคนชราดีๆ ให้พ่อแม่อยู่อะไรงี้ อาจจะได้มุมมองว่าต่างคนต่างก็มีชีวิตที่ต้องจัดการ อาจจะน่าสนใจขึ้น

    ในภาพยนตร์ต่างประเทศอาจจะหาตัวร้ายที่ร้ายไม่ลืมหูลืมตายาก มินิมอร์แนะนำให้ดูละครไทย (บางเรื่อง) ตัวร้ายร้ายได้แบบ...เอาเถอะ เอาที่สบายใจนะ

    ขอเสนอ คุณอุษา ณ ไทรโศก แอคติ้งพี่กิ๊ก สุวัจนีทำนางได้ร้ายจนเรานั่งขำ
    ขอบคุณภาพจาก ที่นี่ จ้ะ

    แต่ถ้าใครอยากดูละครที่จิกกัดละครไทยได้ดี มินิมอร์แนะนำเรื่อง "น้ำตากามเทพ" เลยจ้ะ เสียดสีได้สนุกเหลือเกิน โดยเฉพาะตอนจบ

  • 3. ถ้าจะให้ "ตัวร้าย" เป็นองค์กร โรคระบาด
    หรือสงคราม อย่าเล้ย

    ไม่ใช่มันไม่ดีนะ แต่มันจะน่าเบื่อยังไงล่ะ? ผู้เขียนบทความบอกว่าเผลอๆ มันจะทำให้นิยาย/เรื่องสั้น ของคุณกลายเป็นบทความไปซะเปล่าๆ แต่ไม่ใช่ว่าจะมีวิธีแก้นะ เพียงแค่คุณใส่ใครสักคนไปเป็นเหมือนตัวแทนของสิ่งนั้นยังไงล่ะ!

    แม้โคนันจะต่อสู่กับตัวร้ายที่เป็นองค์กรชายชุดดำ แต่ก็ยังมีโฉมหน้าของตัวร้ายในเรื่องอย่าง ยิน หรือ วอดก้า ทำให้รู้สึกไม่น่าเบื่อ (แต่ที่เบื่อเพราะมันไม่จบสักทีแวร้ ต้องสั่งให้หลานเผากงเต๊กเล่มจบไปให้ละเนี่ย) 


    หรือถ้าเป็นสายนิยาย / หนัง หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับมหากาพย์อย่าง The Lord of The Rings ที่ผู้เขียนเสนอผ่านตัวละครที่เป็นจอมมารอย่างซอรอน ซึ่งแม้ตอนนี้จะโดนทำลายจนเหลือแค่อำนาจ และลูกตาฟรุ้งฟริ้งหลุกหลิกไปมาบนหอคอย แต่เขาก็ยังทำให้เอกธำมรงค์ ซึ่งบรรจุ "อำนาจ" เอาไว้เป็นตัวเดินเรื่อง และล่อลวงให้มนุษย์ เอลฟ์ ฮอบบิท ได้หลงมัวเมาจนหลงลืมตนเองได้ แท้จริงแล้วอำนาจมืดจากมอร์ดอร์ นั้นก็ไม่ต่างจากสงครามโลก ที่แผ่เข้ามาเรื่อยๆ ผ่านอำนาจแหวนที่กัดกินผู้นำซึ่งเต็มไปด้วยความโลภ และนำพาหายนะมาสู่สันติชนทั้งหลาย (ไชร์ น่าจะเป็นตัวแทนของเสรีชนเหล่านี้) จริงๆ เรื่องนี้เหมือนใช้การเขียนเชิงสัญลักษณ์เทียบเคียงเยอะแยะมากมาย ลองไปหาดูได้จ้ะ

    แต่ถ้าอยากหาอะไรแนวนี้ดูอีกเป็นแบบตัวร้ายคือสงครามนี่แหละ แต่เอามาอยู่ในรูปลักษณ์คน/สิ่งของ อนิเมชั่นของ GHIBLI ก็มีนะ อย่าง NAUSICAA : of the valley of the wind หรือเรื่อง Laputa

    สะกดจิตทุกคน
  • 4. ช่วยให้ตัวร้ายมันฉลาดหน่อยเถอะ
    อย่างน้อยก็ฉลาดเท่าตัวเอก

    คุณเคยรู้สึกเหนื่อยหน่ายกับตัวร้ายที่ทำอะไรก็เดาได้ไปหมด รอดมาได้เรื่อยๆ เพราะดวงหรือไม่ (คือเบื่อพอๆ กับตัวเองง่าวๆ ไรงี้) อย่างประสบการณ์ตรงที่มินิมอร์เจอมาตอนดูเรื่อง The Little Mermaid ภาค 2 คือรู้สึกว่ามอร์กาน่า แม่มดน้องสาวเออร์ซูล่าไม่ฉลาดเลย (แง) ทั้งที่เออร์ซูล่าคูลกว่าเท่กว่าชัดๆ สามารถหลอกเจ้าหญิงเงือกที่อยากจะว่ายไปหาผู้ชายมาเซ็นสัญญาได้! จนในที่สุดก็บีบให้ราชาไตรตันผู้เป็นบิดา ต้องมาล้างหนี้ให้แทน! เลิศมั้ยล่ะเธ้อออ 

    เมคอัพแบบป๊อบอาร์ท เหนือกว่าใครในเจ็ดคาบสมุทร

    อย่างใน 101 dalmatians ที่มีตัวร้ายเป็นโจรอ้วนผอมอย่างแจสเปอร์ กับ มอริส คือมันฉลาดน้อยกว่าหมา! ถ้าไอ้สองตัวนี้มันเป็นตัวร้ายหลักจริงๆ บังเกิดความน่าเบื่อแน่นอน แต่โชคดีที่เรามีตัวร้ายแปลกๆ (?) และคูลๆ อย่าง ครูเอลล่า เดอ วิล อยู่ นางก็ไม่ได้ฉลาดอะไรมากมายหรอก แต่นางล่าสัตว์เอามาทำเฟอร์ละรอดมาได้ตั้งหลายปีงี้ คงไม่โง่หรอกน่า นำเสนอเพลงของนาง


    เพลงของนางที่โรเจอร์แต่งเพราะดีนะ
    หรือตัวร้ายสายที่ดูเหมือนจะตลกอย่างวาเลนไทน์ จากเรื่อง Kingsman : the Secret Service แม้พี่เขาจะฮาสุดๆ ไปเลย ดูมีความตลกในหลายอย่าง แต่ก็ต้องยอมรับว่าแก Geek จนอัจฉริยะ และมีความคิดผิดเพี้ยนในหัวไป แต่ก็เก่งแหละ! ผลิตนั่นนี่ได้ บริหารบริษัทได้ระดับนี้เลยนะ!

    แต่ตัวร้ายที่ฉลาด และมินิมอร์ชอบในช่วงหลังมานี่คือ ซีโม จาก Captain America : Civil War เพราะเขาไม่ได้เป็นซูเปอร์วิลเลียนเลย ไม่มีพลังพิเศษอะไรทั้งนั้น เป็นแค่อดีตทหารธรรมดา ที่สูญเสียครอบครัวไป และต้องการแก้แค้น ด้วยการใช้สติปัญญาและความสามารถที่มี ทำให้อเวนเจอร์แตกคอกันได้ ว่ากันตรงๆ มินิมอร์ว่านี่เป็นตัวร้ายที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดในจักรวาลหนังมาร์เวลแล้วมั้ง..

    หน้าตาโคตรไม่มีอะไร แต่พาความฉิบหายจนทีมแตกจ้า
  • 5. เคี่ยวความสัมพันธ์ให้มันงวดอีก 
    ลองให้ตัวร้ายเป็นเพื่อน หรือคนรักดูไหม?

    ผู้เขียนบอกไว้ว่า ในนิยายรักถ้าให้ตัวร้ายเป็นคนรักนางเอก ครอบครัว หรือเพื่อนสนิท มักจะสร้างความเข้มข้นให้เรื่องได้เสมอ ซึ่งก็จริงนะ เพราะเป็นบุคคลที่แทงข้างหลังทะลุถึงหัวใจได้เลย มิหนำซ้ำยังเป็นผู้ที่รู้จักตัวเอกดี เผลอๆ จะเอาเรื่องตัวเอกที่เขารู้ดีที่สุดไปใช้เพื่อทำร้ายอีก โอ้โห นี่มันเจ็บซึ้งทรวงใน

    ที่เห็นชัดๆ ก็อย่างโลกิ อนุชาของเทพธอร์แห่งแอสการ์ด สองคนพี่น้องที่เหมือนรักกันดี น้องฉลาดกว่าแต่เป็นลูกเลี้ยง เหมือนพ่อไม่รักข้าเลย แต่รักแม่ที่เลี้ยงมา ส่วนพี่ชายที่เป็นคนดี๊ดีแต่ก็ต้องยอมรับจริงๆ ว่าทึ่มกว่าน้องมาก เมื่อน้องชายเทิร์นเป็นตัวร้ายทำลายแอสการ์ด พี่ชายเลยต้องตามลงมาถึงมิดการ์ดหรือโลกมนุษย์ เพื่อตามน้องกลับไป นี่ยังสงสัยอยู่อีกนะว่าหลังจากหลอกล่อจนได้บัลลังก์แอสการ์ดไปแล้ว เขาฆ่าโอดินผู้เป็นพ่อหรือเปล่า โถ...ธอร์ท้อรึยัง?


    หรืออย่างใน Captain America : Winter Solider และ Civil War ตัวร้ายในภาคก่อนหน้าคือใคร.... เขาคือ วินเทอร์ โซลเจอร์ หรือ บัคกี้ บาร์นส เพื่อนรักของกัปตันอเมริกาตั้งแต่สมัยก่อนนั้นเอง แม้จะถูกล้างสมองทำให้กลายเป็นตัวร้ายไปแล้ว แต่ดูสิ กัปตันก็ยังพยายามหาความดีในตัวเขา พยายามพากลับเข้าด้านสว่าง แต่อดีตที่เคยทำผิดไว้มันก็ไม่ได้แก้ไขได้ง่ายๆ หรอก จริงปะ? มันก็เลยเป็นตัวร้ายที่สร้างความสับสนให้กับตัวเอกได้ดี ซ้ำร้ายพอมาเป็นกึ่งตัวละครฝ่ายดี ก็กลายมาเป็นปมปัญหาในเรื่องอีก สู้เขานะ บัคกี้



    อ้าว ผิด เอาใหม่

    (แปะภาพเองนั่งขำเอง ขอโทษนะ อะ เอาพลัมไปกิน โอ๋เอ๋)
  • 6. ถ้าตัวร้ายมันลึกลับนัก
    ก็หาตัวแทนให้ดำเนินเรื่องแทนไปเรื่อยๆ ก่อนก็ได้นะ

    ผู้เขียนแนะนำ Lord Voldermort มา เพราะดูเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับหัวข้อนี้ มินิมอร์ก็ว่าใช่นะ เพราะที่ผู้เขียนหมายความถึง คือถ้าสมมติมันยังเผยตัวจริงไม่ได้เนี่ย ก็ให้เป็น Mastermind หรือบุคคลที่อยู่เบื้องหลังไปก่อน เช่นที่โวลเดอร์มอร์ใช้ศาสตราจารย์ควีเรลล์ในภาคแรก (ฝังอยู่หลังหัว) การปรากฏในรูปเงาของอดีตอย่าง สมุดบันทึกของทอม มาร์โวโล ริดเดิล  หรือ งูบาซิลลิสก์ ก่อนจะปรากฏตัวและมีบทบาทเต็มๆ เมื่อถึงภาคที่ 4 นั่นเอง เพราะเวลาของเขามาถึงแล้ว!

    (รูปดีๆ ของเขามีเยอะแหละ แต่มินิมอร์อยากใช้ภาพนี้ไง)

    หรือตัวร้ายที่โดดเด่นและอยู่ในเงามืดมาน้านนาน ก่อนเผยตัวอีกคนหนึ่งซึ่งเด่นมาก คือบรรดาซิธ ดาร์ธ ซิเดียส หรือวุฒิสมาธิพัลพาทีนนั่นเอง (เอาเถอะ จนถึงจุดนี้มินิมอร์สปอยล์เพื่อความรู้นะ) เปิดฉากมาใน Star Wars Episode 1 : Phantom Manace เรายังไม่รู้จักเขา แต่เหล่าเจไดรับรู้ถึงการอยู่ของด้านมืดแห่งพลัง และเขาเรียกพวกนั้นว่าซิธ พวกซิธนั้นมีสองเสมอ พวกเขาได้เจอดาร์ธโมลก่อน (พี่หน้าแดง มีเขา อีโมๆ ใช้ไลท์เซเบอร์สองอันต่อกันเป็นพลอง) จากนั้นก็ได้เจอเงื่อนงำทางการเมือง จนในที่สุดเขาก็ได้รู้ว่าแท้จริงแล้วใครกันที่อยู่เบื้องหลังเรื่องเหล่านี้ แต่พอจบ Episode 3 ก็ยังไม่จบ เพิ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นของตัวร้ายที่โลกรักอย่าง ดาร์ธ เวเดอร์ จนยังมีต่อไป 4 5 6 อีก *หายใจฟืดฟาด*


    ถ้าถามความเห็นมินิมอร์ ก็ขอบอกได้เลยว่า ข้อที่สำคัญที่สุดคือข้อที่ 1 "ตัวร้ายยังเป็นคนและมีชีวิตจิตใจ" เพราะถ้าเราสร้างตัวละครโดยคำนึงว่าเขาเป็นมนุษย์ มีความคิด มีชีวิต มีหัวใจ และมีมุมมองของตัวเอง เดี๋ยวเรื่องต่างๆ มันก็ตามมาเอง เชื่อสิ


    ขอบคุณหัวข้อ Tips วันนี้จาก writerdigest.com ถ้าใครอยากอ่านบทความต้นทาง กดเข้าไปอ่านในลิงก์ได้เลยจ้ะ แต่ถ้าใครชอบบทความนี้มินิมอร์ก็ขอขอบคุณ เพราะตั้งใจเขียนให้ทุกคนอ่านจริงๆ นะเอ้อ  ไว้เจอกับกลเม็ดเคล็ดลับใหม่ๆ ใครสนใจเรื่องไหนคอมเมนต์ทิ้งไว้ในนี้ หรือในเฟซบุ๊กก็ได้ ไม่บอกมินิมอร์ไม่รู้นะเอ้อ

    ถ้าใครชอบภาพดุ๊กดิ๊กที่เป็นไฟล์ gif เช่นนั้น เข้าไปที่เว็บ giphy.com เลยจ้ะ
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in