ความรู้สึกหลังอ่าน (สปอยล์มาก)
หลังอ่าน อาชญากรรม (รัก) ในม่านเมฆ เล่ม 2 จบ บอกว่าค้างมากกกกเลยค่ะ พอได้เล่ม 3 ถึงตั้งใจว่าอาจจะลองอ่านสักหน่อยแล้วเหลือไว้บทสองบทแล้วหยุดรอเล่มต่อ...แต่พออ่านเข้าจริงเราก็อ่านต่อเนื่องจนจบไปเลยค่ะ 555555 ไม่ค้างน้อยเลยค่ะเล่มนี้ ไม่ค้างน้อยเลยจริง ๆ โอ้มายยยยย
กระติกนี้เป็นซุปปลาที่เปี่ยมไปด้วยความรัก (?)
จากความเดิมตอนที่แล้ว...เล่มที่แล้วสิ เหยียนเสียโดนยิงจนบาดเจ็บสาหัส เจียงถิงไม่เป็นอันทำอะไรนอกจากนั่งเฝ้าหน้าห้องผ่าตัดทั้งคืน จนกระทั่งหมอบอกว่าอีกฝ่ายพ้นขีนอันตรายแล้ว เขาถึงสบายใจจนร่างกายแทบทรุดลงไปเดี๋ยวนั้น ต้องบอกว่าเล่มนี้เป็นเล่มเปิดใจของพระเอกนายเอกเลยล่ะค่ะ พอผ่านความเป็นความตายครั้งนี้มา เหยียนเสียก็เหมือนสารภาพรักกับเจียงถิงไปแล้ว ส่วนทางเจียงถิงแม้ไม่ได้เอ่ยปากรับรักเพราะอะไรหลาย ๆ อย่าง แต่เจ้าตัวก็แทบจะไม่ปล่อยให้เหยียนเสียไปเจอกับอันตรายที่เสี่ยงชีวิตคนเดียว นอกจากนี้เรื่องอะไรที่เขาสามารถพูดให้เหยียนเสียฟังได้ เขาก็เริ่มเล่าออกมาแล้วล่ะค่ะ
สิ่งเดียวที่ยึดติด ‘คนทรยศ’
ในส่วนของคดีเราค่อนข้างประทับใจความซับซ้อนมากเลยค่ะ จะขอไล่เรียงสักเล็กน้อย ต้องขอออกตัวก่อนว่าไม่สามารถจำชื่อตัวละครได้หมดค่ะ T-T แต่ตอนอ่านได้เห็นชื่อที่มานิด ๆ ก็จะนึกออก
เริ่มต้นทุกอย่างคือ คดีของเจียงถิง เหตุระเบิดที่ใคร ๆ ก็กล่าวหาว่าเจียงถิงเป็นคนทรยศ จาก 3 ปี เจียงถิงออกจากโรงพยาบาล เรื่องราวได้เริ่มขึ้นที่ คดีศพแช่แข็ง เหยียนเสียเกิดมีภาพจำบางอย่างกับเจียงถิงทำให้เขาจดจำอีกฝ่ายได้แล้วถึงดึงเขามาปกป้อง หลังจากนั้นในคดีนี้ที่ทั้งสองคนช่วยกันสืบก็ได้พบคนที่จับเจียงถิงไป เพราะยาตัวใหม่ ทองสีฟ้า
- ในจุดนี้สิ่งที่เป็นปริศนาอยู่คือ เฮียเหยียนที่ตาพร่าเลือนเห็นคนที่จับเจียงถิงไป หรือ K โพธิ์กำทำอะไรกับเฮียเจียงในวันนั้น --- เล่ม 3 มีเฉลยแล้วค่ะ
- ขอบอกข้อสงสัยใหม่ที่ได้คือ เหตุการณ์นี้ เหยียนเสียมาเพียงลำพังไม่ได้แจ้งใคร อีกฝ่ายเอกก็เหมือนมากันแค่สองคน หรือบอกได้ว่า มีใครบางคนแจ้งกับ K โพธิ์ดำ ว่าตำรวจไม่ได้สนใจที่นี่ สามารถมาลงมือเก็บทองสีฟ้าได้โดยไม่ต้องพากำลังคนมา สรุปแล้ว ... มีหนอนบ่อนไส้ // พนมมืออย่าเป็นหม่าเสีย หรือเหล่าเกาเลยย คนใกล้ตัวทั้งน้านน
จากนั้นคดีศพแช่แข็งก็เกิดมีการลักพาตัวพยานคนหนึ่งไปจนเป็นเหตุปะทะกันกับกลุ่มผู้แอบผลิตยา และเป็นอีกครั้งที่เหมือนฝ่ายตรงข้ามรู้ความเคลื่อนไหวทางตำรวจ ซึ่งมีแผนเดิมให้เหยียนเสียนำทีมเอ มือปืนจึงยิงหัวหน้าทีมเอ จากคำบอกเล่าของอาเจี๋ย เหมือนเขาเข้าใจไปจริง ๆ ว่าตัวเองยิงเหยียนเสีย (หรือเราตกตรงไหนไหมนะ)
- เป็นการยืนยันอีกครั้ง รวมกัยเรื่องที่ผับ ใน 50 คนของทีมพระเอกที่รู้เรื่อง มีหนอนนน
หลังปิดคดีศพแช่แข็งก็มานำมาสู่คดีปัจจุบัน เด็กสองคนหลงป่า หนึ่งในนั้นเป็นลูกคนมีเงินถูกเรียกค่าไถ่ ช่วงแรกเข้าใจว่าเป็นการทำของแก๊ง หรือคนที่อยากได้เงิน แต่ต่อมากลับพบว่าเป็นคดีต่อเนื่อง แถมยังเกี่ยวพันไปถึงคดีของเจียงถิง และบางอย่างในอดีต !
คดีลักพาตัวที่เหมือนพิธีกรรมอันมีกฎเกณฑ์
อดีตของเจียงถิง
เสียงไวโอลินที่ถูกย้อนเป็นภาพจำให้เราท้ายกันในเล่มก่อน
ช่วงเวลายามพระอาทิตย์ตกดิน ผ่านพ้นวัยเด็กสู้ผู้ใหญ่
ความจริงของเรื่องนี้ถูกปูเป็นบทพิสูจน์ใจระหว่างหัวหน้าเจียงกับรองเหยียนในเล่มนี้แล้วล่ะค่ะ
คุณแม่กล่าวว่า : เวลาผู้ชายอยู่กับภรรยา...ห้ามรบกวนเวลาขับรถ
เดินเรื่องกันมากจนถึงเล่มสาม ถ้ายังไม่คืบหน้าเล่มนี้ไม่ได้แล้วค่า กัปตันเรืออย่างหัวหน้าเหยียนของพวกเราเดินหน้ารุกจีบหัวหน้าเจียงอย่างจริงจังงง ไม่ว่าจะต่อหน้าหรือลับหลังลูกน้อง ตอนนี้พากันรู้กันหมดว่าที่ปรึกษาลู่ไม่น่ารอดมือเหยียนเสียไปได้ (เอ๋ ! หรือกลับกันนะ 5555) มีฉากหวานจีบกันเยอะมากเลยค่ะ 5555 แบบว่าต่อให้ทำงานก็สามารถพูดจีบได้ ถึงงานจะยุ่งแค่ไหนใครบางคนก็ยังรีบกลับบ้านไปกินข้าวกับคนที่เขาพยายามจีบอยู่ได้ คือจะว่าหวานก็หวาน ขณะเดียวกันก็อบอุ่นมากเลยค่ะ เจียงถิงแม้ไม่ค่อยพูด แต่การเริ่มโอนอ่อนผ่อนตามโดยไม่เสียจุดยืนของตัวเอง เรารู้สึกได้ว่าเกราะในใจเขาอ่อนลงมาก เหมือนตีกันระหว่างเชื่อใจเหยียนเสีย แต่กลัวตัวเองเจ็บปวดเลยไม่อาจเชื่อใจ กลายเป็นว่ามีปมหน่วงนิด ๆ นี้ห้อยท้ายให้ลุ้นอยู่ตลอดค่ะ
“โคมไฟตั้งพื้นข้างโซฟาถูกปรับให้มืดสุด ทอแสงสลัวออกมา เจียงถิงสวมชุดคลุมอาบน้ำนั่งตะแคงบนโซฟา มือหนึ่งค้ำศีรษะอยู่ ทว่าตัวคนหลับไปแล้ว ...เหยียนเสียเดินไปทีละก้าว ทีละก้าว ก่อนนั่งยอง ๆ ลงข้างโซฟา...แววตาวูบไหวเล็กน้อย – เขาตักข้าวเรียบร้อย ถึงขั้นเตรียมอุปกรณ์กินข้าวให้อย่างใส่ใจ พยายามลดขั้นลดขั้นตอนการกินมื้อดึกหลัง เหยียนเสียกลับมาให้มากที่สุด จากนั้นก็นั่งอยู่ตรงนี้ในใจ เหยียนเสียคิดว่า ‘ที่แท้เขาก็รอฉันกลับบ้านอยู่ตลอด’ ”
อบอุ่นมากค่า หลังตกน้ำอะไร ๆ ก็ดีเหลือเกินนน
เรื่องนี้เราแอบเอียงเอาใจช่วยพระเอกอยู่หลาย ๆ มุมค่ะ ด้วยความที่เขาไม่รู้เรื่องเล่ห์กลข้างในมากที่สุด ทำให้ต้องคอยใช้ตรรกะ ประสบการณ์ และสัญชาตญาณในการคาดการณ์ต่าง ๆ รวมทั้งต้องคอยปกป้องสิ่งที่เชื่อมโยงกับเจียงถิงไปด้วย ทว่าทางเจียงถิงเองถึงจะเล่าหลาย ๆ อย่างให้เหยียนเสียฟัง แต่เพราะมันไม่ใช่เรื่องทั้งหมด เวลาได้ข้อมูลใหม่ ๆ มาหลายครั้งเรานับถือพระเอกมากที่ไม่ใช้อารมณ์ไปถามหัวหน้าเจียง ดังนั้นพอสะสมถึงขีดสุดตามการไล่เรียงของเนื้อเรื่อง เราเลยค่อนข้างเข้าข้างพระเอกค่ะ ... ถึงด้วยนิสัยพระเอกจริง ๆ จะไม่ใช่ทางที่เราชอบ แต่อาชญากรรมรักนี่เรายอมอยู่ทีมเฮียเหยียนจริง ๆ ค่ะ คนอะไรพร้อมจะเข้าไปโอบกอดปกป้องและปลอบใจอีกคนได้ตลอด แถมยังยอมรับทุกอย่างได้อย่างใจเย็นมีสติ เฮียยย ...จะไม่เอาใจช่วยได้ยังไงงงงคนคนนี้
ภาพจาก Samsenbook
By Chadang88
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in