เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รีวิวนิยายฉบับคนชอบดองChadang
รีวิว ลิ่วเหยา เล่ม 1 (3 เล่มจบ)

  • ลิ่วเหยา
    ผู้แต่ง Priest (พีต้า)
    ผู้แปล Bou Ptrn
    สำนักพิมพ์ Rose Publishing
    เรื่องย่อ 

               เฉิงเฉียน เด็กน้อยที่ถูกพ่อแม่ขายให้กับชายที่ดูเหมือนนักต้มตุ๋นเพื่อออกเดินทางไปฝึกตนในสำนัก ฝูเหยา เขาไม่คาดว่าชายคนที่พาเขาจากบ้านมาจะกลายเป็นอาจารย์แห่งลัทธิเต๋าจริง ๆ ไม่น่าเชื่อกระทั่งว่าสุดท้ายแล้วชีวิตที่ทำใจว่าจะเป็นอย่างไรก็ช่างกลับเกิดมีศิษย์พี่ศิษย์น้องขึ้นมา ศิษย์พี่ใหญ่เหยียนเจิงหมิงคือผู้ทรงอิทธิพลสุดในสำนัก เพราะการเงินทุกอย่างที่ค้ำจุนฝูเหยาอยู่เป็นของเขา เพียงพบหน้าก็ต้องบอกว่าเป็นลูกผู้ดีที่เกียจคล้าน แต่เขาไม่คาดว่าเมื่อศิษย์น้องอย่างพวกเขาตกอยู่ในอันตราย ศิษย์ที่เปรียบดัง เจ้าแม่ ของสำนัก จะลุกขึ้นมาปกป้องอย่างไม่ขลาดกลัวได้

    ความรู้สึกหลังอ่าน (สปอยล์ปานกลางถึงมาก)

                 เราเกือบตัด ลิ่วเหยา ออกจากรายการไปแล้ว เพราะดันอ่านอีกเรื่องของนักเขียนท่านนี้ไม่จบ (ดองยาวเลย) ถ้าไม่ได้อ่านรีวิวแล้วเจอนิสัยแปลก ๆ ของพระเอกเรื่องนี้ซะก่อน แปลกยังไง ? สำหรับเราแปลกตรงที่เขาไม่เก่ง เขาขี้เกียจ เขาคุณหนู เขากลัวแมลง และสิ่งสกปรกเป็นที่สุด ไล่เรียงมาสรุปง่าย ๆ ว่า ดูพึ่งพาไม่ได้ เมื่อเทียบกับนายเอกที่จริงจัง ชอบอ่านหนังสือ และขยันเรียน แต่พออ่านแล้วเราก็รักพระเอกคนนี้เข้าจริง ๆ ทุกความไม่เอาไหนของเขาถูกกลบแค่อย่างเดียว กลัวให้ตายเขาก็จะยืนอยู่ตรงนี้เพื่อปกป้องน้อง ๆ เรื่องนี้มี 3 เล่มจบค่ะ เราไม่ดองแน่ ๆ

                   เริ่มแรกเรื่องถูกนำโดยมุมของเฉิงเฉียนในวัยเด็กค่ะ เราจำไม่ได้ว่ากี่ขวบ เขาเป็นลูกคนกลางที่ไม่เคยได้รับความรัก ตัวตนของเขาในบ้านเป็นเหมือนเด็กรับใช้คนหนึ่ง เมื่อครอบครัวมีน้องเล็กเกิดขึ้นมาตัวภาระไร้ตัวตนอย่างเขาจึงถูกขายต่อให้ หานมู่ชุน ที่อ้างว่าเป็นผู้ฝึกวิชาเซียน คนคนนี้รับเขาเป็นศิษย์คนที่สาม ในสายตาของเฉิงเฉียนในตอนแรกมองอาจารย์ของเขาไม่ต่างจากนักต้มตุ๋น ทว่าเมื่อฝนตกลงมาอาจารย์ของเขาคนนี้กลับอุ้มเขาขึ้น และบังฝนให้ พร้อมกับวิ่งออกหาที่พัก เราอ่านแล้วรู้เลยว่าเด็กคนนี้คงรู้สึกได้รับความรักเป็นครั้งแรก เลยเปิดใจให้อาจารย์ที่ดูไม่น่าเชื่อถือของเขาจากใจนับแต่นั้น

    วัยเด็กเกลียดกันไม่อยากยุ่งเกี่ยว

                  สุดท้ายเฉิงเฉียนก็ต้องตะลึงค่ะ ว่าอาจารย์เขาไม่ใช่นักต้มตุ๋น เขาเป็นอาจารย์แห่งสำนัก ฝูเหยา มีศิษย์อยู่แล้วสองคน คนที่สามคือเฉิงเฉียน และคนที่สี่อาจารย์เก็บมาระหว่างเดินทางกับเขาชื่อ หานยวน ซึ่งเขาไม่ชอบหน้าเท่าไร เพราะเจ้าตัวชอบโอ้อวดตนเอง เมื่ออาจารย์พาเขาไปพบศิษย์พี่ใหญ่เหยียนเจิงหมิงที่ทำตัวราวกับเจ้าหญิงบนหอคอย มีคนดูแลซ้ายขวา เฉิงเฉียนก็ไม่ถูกชะตาค่ะ เพราะแรกพบสบหน้าของสองคนนี้เจ้าตัวรู้สึกเหมือนโดนดูถูก ส่วนพี่สองของเขา หลี่อวิ๋น เจ้าเล่ห์มาก ชอบทดลองศาสตร์แปลก ๆ เป็นที่สุด โดยเฉพาะอะไรที่เกี่ยวกับกบ หรือแมลง พี่ใหญ่ผู้รักสะอาดกับพี่สองจึงไม่ถูกกันเพราะเหตุนี้ แต่พี่สองกับน้องสี่กลับสนิทกันเร็วมาก และเรื่องวุ่นวายแรกของเด็กต่างที่มาทั้ง 5 (ใช่ค่ะ 5) ก็เริ่มขึ้นจากศิษย์พี่สองของพวกเขา

    เมื่อจะโตกลับกลมเกลียวจนอาจารย์ปวดหัว

                  น้องสี่หายไปในหุบเขาปีศาจ เพราะพี่สองยุยง และเฉิงเฉียนไม่ห้ามปราม ทั้งสองคนไม่คาดว่าการไปครั้งนี้ของน้องสี่จะอันตรายถึงชีวิต น่าทึ่งมากที่คุณชายซึ่งดูเหลาะแหละอย่างเหยียนเจิงหมิงกลับรับคำสั่งอาจารย์อย่างไม่อิดออดออกไปตามหาศิษย์น้องสี่แสนขี้แหร่ของเขาเพียงคนเดียว แต่พอเห็นแบบนั้นนายเอกและพี่สองที่รู้สึกผิดก็รีบอาสาออกไปตามด้วย เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้พวกเขาเหมือนออกผจญปัญหาด้วยกัน ทำให้เราได้เห็นแต่ละคนอีกมุมหนึ่ง 

                     พระเอกที่เป็นพี่คนโตไม่ได้เก่งกาจ และไม่ได้กล้าหาญ แต่พอเข้าตาจนกลับปกป้อง          น้อง ๆ เป็นอันดับแรกเสมอ ในการตามหาน้องสี่เขาสังเกตว่าน้องสองไม่ได้พกอะไรป้องกันตัว ก็ยกสิ่งของให้อย่างไม่ลังเล ประทับใจรัว ๆ มากเลยค่ะภารกิจนี้ 
                     ส่วนนายเอกเหมือนเรียนรู้การอยู่กับคนอื่นเป็นครั้งแรกหลังจากปลีกวิเวกตนเอง เขา                   พร้อมจะไม่เป็นภาระให้ใครเด็ดขาด 
                     ในขณะที่พี่สองซึ่งดูเจ้าเล่ห์กลับมีความขี้ขลาดมากกว่าทั้งสองคน
                     ทางน้องสี่เห็นพี่ ๆ เสี่ยงอันตรายมาช่วยก็ซาบซึ้งมาก พวกเขาเปิดใจให้กันจากเหตุนี้ และเก็บศิษย์น้องหญิงคนสุดท้องมาได้ จากนั้นอาจารย์ของพวกเขาก็พบว่า...สำนักฝูเหยาที่กลมเกลียวไม่สงบสุขขึ้นสักนิด... ช่วยกลับไปตัวใครตัวมันอีกรอบจะได้ไหม !

    อุปนิสัยแท้จริงของแต่ละคน

    เหยียนจิงเชิง หลังผ่านเหตุการณ์นั้น เขาก็ไม่แสร้งทำมาดผู้ดีใส่ใครอีก ทั้งบ่น ทั้งว่า จุกจิกใส่อารมณ์กับน้อง ๆ เต็มที่ แต่ในความฉุนเฉียวง่ายของเขากลับตรงไปตรงมา และไม่เคยคิดแค้นใคร ยามอยู่ข้างนอกก็เรียกว่ารับหน้าแทนน้อง ๆ ได้เป็นอย่างดี พี่ใหญ่ของน้อง ๆ คนนี้ ยิ่งโต ยิ่งสุขุม และยิ่งมีอารมณ์มั่นคง มีแค่คนใน ‘ครอบครัว’ เท่านั้นถึงยังเห็นนิสัยเดิมของเขาได้

    หลี่อวิ๋น กลับเป็นคนที่เราเห็นความเปลี่ยนแปลงที่สุด เขาได้รับอิทธิพลขยันเรียนของนายเอก กลายเป็นคนใจเย็นคอยไกล่เกลี่ยพี่ใหญ่กับน้องสามที่คอยแต่หาเรื่องทะเลาะกัน คุมน้องสี่ที่ชอบออกซน และเอาน้องห้ามาทดลอง (?) ในบรรดาพวกเขาพี่สองเป็นคนรอบรู้ และชอบทดลองอะไรแปลก ๆ มากที่สุด

    เฉิงเฉียน เป็นคนที่พี่น้องลงความเห็นว่าแปลกแยกมากสุด เพราะเป็นคนจริงจัง ขยันเรียน รักหนังสือมากขนาดยอมทำการบ้านแทนพี่ใหญ่เพื่อให้ได้เขาหอหนังสือ และนั่นก็ทำให้เขาพัฒนาเร็วที่สุดจนไล่หลังพี่ใหญ่ไปติด ๆ ที่น่าแปลกคือ เจ้าตัวที่ดูเหมือนคนใจเย็น กลับบุ่มบ่ามขึ้นตามอายุ ความจริงนิสัยคิดแค้น เฉียบขาด แสดงให้เห็นตั้งแต่ออกจากบ้านแล้วล่ะค่ะ แต่ไม่คิดว่าเจ้าตัวจะมาถึงจุดนี้

    หานยวน กลับเป็นคนที่เอ้อระเหยที่สุดในพวกเขา ไม่สนใจฝึกวิชา แต่ด้านหาข่าวกลับเป็นเลิศและว่องไว ค่อนข้างลุ้นว่าเด็กคนนี้จะมีอะไรพลิกล็อกให้เห็นไหม (มีประเด็นให้คิด)

    น้องหญิงห้า ที่เราจำชื่อไม่ได้ แต่จำคำแปลชื่อได้ (5555) ชื่อของน้องได้พี่ใหญ่ตั้งให้ เพราะกลัวอาจารย์ตั้งอะไรแปลก ๆ เป็นลูกครึ่งมารที่พี่ ๆ เลี้ยงตั้งแต่เล็ก ชะตาน่าสงสาร เพราะพี่ชายไม่ปกติสักคน แต่โตมาก็ไม่หยอกไปกว่าพี่สี่เลย สำหรับน้องห้า คนใจดีที่สุด แม่ที่สุดคือพี่ใหญ่ ชอบขังตัวเองคัดหนังสือคือพี่รอง ใช้ลูกอ้อนไม่ได้สักนิดกับพี่สาม ส่วนพี่สี่คือคนที่ไม่ยอมแบ่งขนมให้ เอ็นดูน้อง

                      และทั้งหมดคือครอบครัวสำนักฝูเหยา ความสัมพันธ์เล่มแรกคือความเป็นพี่น้องของพวกเขา เด็ก ๆ ที่ต่างที่มาต่างการเลี้ยงดูทั้งหลาย แต่ต้องมาเผชิญชะตากรรมร่วมกัน เราชอบสายสัมพันธ์แบบนี้มาก แต่ก็อดระแวงบวกกับลุ้นมาก ๆ ไม่ได้ว่าจะถูกทำให้เสียน้ำตาไหม พระเอกจะสามารถนำน้อง ๆ ไปในทางที่ถูกต้องได้รึเปล่า

                   สำหรับแง่ของความรักของพระเอก นายเอกตอนนี้ไปในทางเป็นที่พึ่งพาทางจิตใจของกัน และกัน เพราะสองคนนี้ตอนหลังแทบเป็นเสาหลักของฝูเหยา พระเอกรักและห่วงนายเอกมาก คิดดูว่ายอมขนาดให้นายเอกหวีผมแสนรักของตนเองได้ ยิ่งทางนายเอกเรารู้เลยว่าเขาเปิดใจกับพี่ใหญ่เขาขนาดไหน คิดดูว่าถ้าพี่ใหญ่สั่งเพียงคำเดียวว่าจะกำจัดคน เขาจะลงมือให้อย่างไม่ลังเล (แบบถึงตายก็จะทำให้สำเร็จ) ใครรังแกพี่เขาเขาสาบานจะตามแก้แค้นให้กระดูกแหลกเหลว แน่นอนว่ากับพี่น้องคนอื่นก็แตะไม่ได้ถึงไม่รุนแรงเท่าของพระเอก แต่นายเอกก็รัก และปกป้องทุกคนเต็มที่จริง ๆ

    ควรอ่าน หรือควรดอง ความค้างแค่ไหนในเล่มแรก

                ค้างมากกกกก อยากร้องดัง ๆ แต่อ่านติดพันมากเหมือนกัน สนุกค่ะ ความค้างของเราเนี่ยสองระดับคู่กัน หนึ่งคือตัดเบรกเล่มต่อแบบข้าศึกบุกมาเหยียบถึงบ้านแล้วทำไงต่อดีบวกกับบังเอิญว่าตัวละครประกอบที่เรารักอย่างเสวี่ยชิง เป็นตายร้ายดีไม่ทราบได้ เลยอยากได้เล่มต่อมากตอนนี้ ฮืออ

               ใครชอบแนวเนื้อเรื่องแบบความสัมพันธ์พัฒนาซึมลึก เกื้อกูลกันอย่างครอบครัว ไม่ได้มีความรักหวือหวา มีปมปริศนาสำนักในอดีต และพอจะมีฉากกินใจของความรู้ผูกพัน (สำหรับเรา) ให้ร้องไห้น้ำตานอง (เราค่อนข้างอ่อนไหวง่ายโดยเฉพาะกับแนวนี้) เรื่องนี้เลยค่ะ จะลองอ่านตัวอย่างก่อนก็ได้ แต่เราคิดว่าบทที่เราเห็นในตัวอย่างไม่ได้ครึ่งของบรรยากาศอัดแน่นของครึ่งหลังเลยค่ะ (ในความรู้สึกเรานะคะ) 
                **สำหรับเรากดดันยังไงรับได้หมดขอแค่ตัวละครเอกทั้งหลายอยู่ฝ่าฟันด้วยกันก็พอ แต่มันยังมีอะไรให้ต้องลุ้นอีกตั้ง 2 เล่มเนี่ยแหละค่ะ T-T อะไรก็เกิดขึ้นด้ายยย**
               เขียนยาวมากเลย สปอยล์ไปหลายรึเปล่านะ แต่คิดว่ารายละเอียดจริง ๆ ไม่ได้หลุดนะคะ ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ


    ภาพปกพี่ใหญ่แน่แล้วค่ะ
    รีวิวลิ่วเหยา เล่ม 2 : https://minimore.com/b/tA4HM/38
    รีวิวลิ่วเหยา เล่ม 3 : https://minimore.com/b/tA4HM/41
    By Chadang



เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
uminaka16 (@uminaka16)
อ่านไปต้นเรื่องค่ะ รู้สึกอ่านยากมาก ต้องทวนประโยคบ่อยมาก ไม่รู้เป็นที่ผู้เขียนหรือผู้แปล
Chadang (@kalafina57)
@uminaka16 บางทีอาจจะเป็นที่สำนวนก็ได้ค่ะ สำหรับเรามีอ่านยากนิดหน่อยบางประโยคที่ไม่รู้ว่าปฏิเสธหรือตอบรับ เลยต้องอ่านซ้ำไม่ก็กวาดอ่านภาพรวมประโยคแทนค่ะ