ภาพวาดโครงกระดูก เล่ม 3
ผู้เขียน ซีจื่อซวี่
ผู้แปล qMondae
ผู้วาด กาลี่
สำนักพิมพ์ EverY
เรื่องย่อ
--ขอยกไปความเดิมค่ะ--
ความเดิมในภาพวาดโครงกระดูก เล่ม 2
หลินปั้นซย่า และ ซ่งชิงหลัว รับภารกิจ เข้าสู่ดินแดนแห่งพันธสัญญาพร้อมหลี่เย่ เพื่อตามหาทีมของหลี่ซูที่หายไปอย่างปริศนา หลังแก้ไขปมสุดท้ายของวัตถุนอกรีตชิ้นนี้สำเร็จ หลินปั้นซย่าก็กลับมาพักผ่อน พร้อมกับแก้ไขสัญญากับทางงานเก่า กลายเป็นสัญญาจ้างพาร์ทไทม์แทน ระหว่างที่หายไปทำงานกับซ่งชิงหลัวที่รัสเซียนานหลายวัน ทางฝั่งเพื่อน ๆ ที่ทำงานเก่าต่างพบศพแปลกประหลาดที่สวนสนุก ซึ่งต่อมาเคสประหลาดนี้ก็กลายเป็นภารกิจของเขาและซ่งชิงหลัวในที่สุด เมื่อศึกษาเจ็ดคนหายตัวไปอย่างลึกลับ การช่วงชีวิตนักศึกษาพร้อมกับตามหา ‘คนที่เกินมา’ สร้างความสั่นคลอนในใจผู้คน กระทั่งไล่ตามกันมาจนถึงตัววัตถุนอกรีต…แท้จริงแล้วตัวตนที่เกินออกมาคือใคร? หลังรับภารกิจอย่างต่อเนื่องในที่สุดซ่งชิงหลัวก็ตัดสินใจพัก ทว่าว่าระหว่างนั้น เขาก็พบความผิดปกติที่ตัวปั้นซย่าอีกครั้ง อีกฝ่ายรับโทรศัพท์จากญาติที่เคยเลี้ยงดูแล้วมีอาการเหม่อลอย หลังวางสายก็จำไม่ได้ว่าตัวเองรับโทรศัพท์ คล้ายสมองปิดกั้นความทรงจำส่วนนั้นแล้วคุยกับซ่งชิงหลัวต่อในหัวข้อที่คุยค้างก่อนรับโทรศัพท์ เสมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น…ท้ายที่สุด ซ่งชิงหลัวจึงตัดสินใจกล่าวเตือนอีกฝ่ายว่าใครโทรมา และเลือกให้ปั้นซย่าเปิดลำโพง เมื่อหลินปั้นซย่าเลี่ยงไม่ได้ จึงตัดสินใจกลับบ้านเกิด ทางซ่งชิงหลัวก็ขอตามไปด้วย ยิ่งทำให้ปั้นซย่าไม่สามารถหลบเลี่ยงการกลับบ้านจากสัญชาตญาณได้อีก และการกลับไปครั้งนี้ คล้ายว่าจะกลายเป็นการเปิดเผยอดีต ที่ปั้นซย่าจดจำได้ ไปคนละทิศละทาง…
ความรู้สึกหลังอ่าน (สปอยล์ปานกลางถึงมากก)
มาแล้ววว ภาพวาดโครงกระดูก เล่ม 3 มาส่งพร้อม Box แฟนตาซีฟาร์มฯ เลยค่า ตอนแรกตั้งใจว่าจะดองไว้ก่อน แต่เพราะคาใจเรื่องเคส ฝัน เลยหยิบมาอ่านต่อเลย อ่านไปอ่านมา จบแล้วค่ะ 555555 เป็นเล่มที่สนุกมากจริง ๆ ตัวเคสลึกลับเดาไม่ออก และเผยปมอดีตฝั่งซ่งชิงหลัวบ้างแล้วว แน่นอนว่า ยังคงธรรมเนียมเล่มสามค่ะทุกคนนน เล่มแห่งความสัมพันธ์ เหมือนเดิมเลยค่า ด้วยเคสฝันที่ทำให้ซ่งชิงหลัวกลายเป็นเด็กมัธยม ก็ส่งผลให้ความรู้สึกนึกคิดของเขาตรงไปตรงมาพอที่จะ ‘จีบ’ ปั้นซย่าอย่างตรงไปตรงมาแล้ววว ละแบบนี้ปั้นซย่าทั้งตัวน้อย ตัวโต จะรับมือกับความรู้สึกที่ซ่งน้อยและซ่งโตแสดงออกทางตรงกับทางอ้อมอย่างไรบ้างงง ไปกันค่ะ จะพยายามเล่าแบบไม่สปอยล์มากกก
ฝันที่ติดต่อกันได้
หลังทั้งสองนั่งรถไฟกลับจากบ้านเกิด หลินปั้นซย่า ก็ได้รับภารกิจต่อเนื่องทันที เมื่อวัตถุนอกรีต 47777 ไม่สามารถควบคุมได้อยู่อีก และเริ่มแพร่ระบาดความฝันไปทั่ว หลินปั้นซย่าและซ่งชิงหลัวถูกพาตัวไปที่สถาบันและเข้ารับภารกิจทันที เมื่อพวกเขานอนหลับตาลง ตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็หลงลืมปัจจุบัน กลายเป็นนักเรียนมัธยมแล้ว หลินปั้นซย่าในวัยมัธยม ตัวเล็กกว่าคนรุ่นเดียวกัน เขาออกจากบ้านเกิดมาอยู่หอพักนักเรียนประจำ เพื่อนก็มีไม่มาก เพราะเจ้าตัวก้มหน้าก้มตาเรียนเพื่อให้ได้ทุนการศึกษา กว่าจะรู้สึกตัวว่าเพื่อนร่วมห้องชื่ออะไรบ้างก็ใกล้เรียนจบแล้ว หลี่ซูเพื่อนร่วมโต๊ะข้าง ๆ ดูคุ้นเคยสำหรับเขาที่สุด แต่ที่เขาประหลาดใจคือนักเรียนคนละห้องอย่างซ่งชิงหลัว ซึ่งทุกคนหวาดกลัวกลับมาทักทาย พาเขาไปกินข้าว ราวกับเป็นเรื่องที่สมควรทำ หลินปั้นซย่างุงงงกับท่าทีของอีกฝ่าย แต่ก็ไม่ได้รู้สึกต่อต้าน กลับกันตัวเขาเองก็เหมือนจะคุ้นเคยกับอีกฝ่ายเป็นอย่างดี แม้กระทั่งความรู้สึกเป็นห่วงทุกครั้งที่อีกฝ่ายโดนน้ำ ทั้ง ๆ ที่พึ่งพบกันได้ไม่นานก็สร้างความแปลกใจให้กับปั้นซย่าอย่างมาก ทว่าเรื่องแปลกใจต่อซ่งชิงหลัวหรือหลี่ซูก็เรื่องหนึ่ง…เรื่องราวคนตายเมื่อฝนตกก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ยามเมื่อเมฆฝนตั้งเค้า
เหตุประหลาดของโรงเรียนเกิดขึ้นทุกครั้งเมื่อฝนตก นอกจากจะมีนักเรียนเสียชีวิต ปั้นซย่ายังเริ่มฝัน ในฝันนั้นเขายังอยู่ในโรงเรียน ทว่าไม่มีใครเลย หันไปทางไหนมีแต่เมฆมืดครึ้มพร้อมสายฝนโปรยปราย ทำให้ตัวเองเจ็บตัวเท่าไรก็ไม่เจ็บปวด เสียงประหลาดคล้ายมีใครลากของมีคมกระทบพื้นดังขึ้นตอนเขาสับสนนี่เอง …เมื่อหันกลับไปซ่งชิงหลัวก็อยู่ตรงนั้น เขาตัวเปื้อนเลือด มือหนึ่งถือมีดเลาะกระดูก มือหนึ่งถือศพ เมื่อเห็นหลินปั้นซย่าคล้ายอ่อนโยนลง แล้วเรียกให้เข้าไปหา จังหวะนี้ หลินปั้นซย่าไม่ลังเลที่จะวิ่งหนี เขาไม่เชื่อว่านี่จะเป็นซ่งชิงหลัวตัวจริง หลังวิ่งสุดแรงออกไปกลางสายฝนเพื่อซ่อนตัวนอกอาคารเรียน สุดท้ายยังถูกมือปริศนาจับไว้จากด้านหลัง อีกฝ่ายยังคงสัมผัสเขาอย่างอ่อนโยน พลางบอกว่าไม่ชอบที่เขามองตนด้วยสายตาเมื่อสักครู่ ซ่งชิงหลัวพูดคล้ายปรารถนาดีที่ต้องฆ่าหลินปั้นซย่าเสีย ปลอบเขาอย่างอ่อนโยนก่อนมีดเล่มนั้นจะแทงลงมา ปั้นซย่าไม่เจ็บสักนิดและสะดุ้งตื่นขึ้นมาในห้องเรียนอีกครั้ง…
คืนนี้พระจันทร์สวยมาก สายลมก็อ่อนโยนมากเช่นกัน (จ้า)
ภาพวาดโครงกระดูกเล่ม 3 นี้ ในเคสฝัน ส่วนหนึ่งก็เหมือนเติมเต็มความคิดที่ว่า ถ้าทุกคนเจอกันตั้งแต่หลินปั้นซย่าอยู่มัธยม ความสัมพันธ์ของพวกเขาน่าจะออกมาประมาณไหน ซึ่งหลายคนที่อ่านแล้วจะพบกับพี่ซ่ง เวอร์ชันเด็กที่ตรงไปตรงไป และรุกเก่งเป็นอย่างยิ่ง เราที่ชินกับพี่ซ่งสายเงียบ อ่อนโยน และดูแลอยู่ข้าง ๆ เรื่อย ๆ ถึงกับเบิกตาโตอยู่หลายครั้งที่พี่ซ่งเวอร์เด็กรุกจีบปั้นซย่าตรงขนาดนี้ ส่วนทางปั้นซย่าวัยเด็กก็น่าเอ็นดูมากจริง ๆ ตอนเขาบอกว่า ไม่เคยมีใครพูดแบบนี้ด้วย หรือ คิดว่าไม่คิดว่าตนจะเป็นที่รักของใครได้ ต้องโทษญาติที่เลี้ยงเขามาด้วยความรุนแรงและความเกลียดชังเหล่านั้นจริง ๆ วัยเด็กแท้จริงของเขาที่ไม่มีซ่งชิงหลัวและหลี่ซูจะเงียบเหงาขนาดไหน กว่าจะขึ้นมหาวิทยาลัยจนมีกลุ่มเพื่อนอย่าง จี้เล่อซุ่ย เขาต้องอยู่คนเดียวมาตลอดกี่ปี…อย่างไรก็ตามเล่มนี้พี่ซ่งและปั้นซย่าก็คบกันอย่างเป็นทางการแล้วล่ะค่ะ ไม่ต้องเดียวดายกันแล้วเนอะ!
ถึงจะเล่าว่าสมหวังกันแล้ว แต่ใน ภาพวาดโครงกระดูก เล่มนี้กลับมีจุดที่จี้ใจคนอ่านอยู่อย่างหนึ่งก็คือ…พวกเขากลายเป็นจุดอ่อนของกันและกันในฐานะคู่หูปฏิบัติการด้วยค่ะ ;---; แบบว่า วัตถุนอกรีตบางอย่าง ถ้าเป็นเพื่อนร่วมงานกันธรรมดายังไม่หนักหนาเท่าไร แต่พอเป็นมากกว่านั้น คงจะนำพาความเสี่ยงและความทุกข์ใจมาให้ไม่มากก็น้อย บอกเลยว่าเคสล่าสุดที่ค้างไว้ในเล่มสามรอยต่อขึ้นเล่มสี่ มีความกดดันในจุดนี้มาขยี้คู่หลักแล้วค่ะ (ส่วนคู่รองน่าจะโดนกันไปในเล่มสามไม่น้อยเลยยย) ยังมีปริศนา ‘ภาพวาดโครงกระดูก’ ของบ้านซ่ง และ ตัวตนของเสี่ยวฮวา ให้พวกเราได้ตามติดเป็นปมใหญ่กันอีก เคส ‘น้ำตาล’ ในเล่มนี้ก็หวังว่าจะมีทางออกที่ดีสำหรับปั้นซย่าและชิงหลัวนะคะ อ๊ากกก ขอเล่มสี่!!!
By Chadang
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in