การเจอบ้านพักเก่าๆ ห้องเก่าๆ บรรยากาศหวิวๆ แบบนี้ผมทำใจไม่ได้จริงๆ แม้จะรู้สึกผิดต่อคุณตาก็ตาม สู้รู้ว่าต้องไปนอนป่า เขา ตั้งแคมป์ เข้าค่าย รด. 3 วัน 3 คืนยังโอเคกว่ากันเยอะเลย (แม้มันจะไม่ได้ดีนักก็เหอะ) เรื่องกะทันหันแบบนี้ เกินกว่าจะรับไหว กลัวผีด้วยไม่ใช่อะไรหรอก
นอกจากเรื่องที่พักแล้วในหัวผมก็ยังคิดเรื่องเที่ยวอยู่เหมือนเคย มีเมืองที่ผมอยากไปจริงๆอีก
“เอาวะเป็นไงเป็นกัน”
ผมรีบตรงดิ่งไปยังสถานีรถไฟ
“ไปเดินเล่นฆ่าเวลา ไหนๆมาแล้ว ตั๋วรถไฟก็ยังใช้ได้อยู่” ใช่แล้วครับ ผมตัดสินใจไปไฮเดลเบิร์กแม้จะเป็นระยะเวลาสั้นๆ เหนื่อยๆ แต่ผมไม่รู้สึกเสียดายเลยสิ่งที่ผมจะเสียดายมากกว่าคือ “การที่เรามีโอกาส แล้วไม่ยอมคว้า และลงมือทำ” นั่นเอง
ถึงไฮเดลเบิร์กจะไม่ได้สร้างปรากฏการณ์ "ว้าว" ให้ผมซักเท่าไหร่ แต่ยอมรับเลยว่าเป็นอีกเมืองที่น่ารักและมีสเน่ห์ อย่างว่าความตื่นเต้นของผมมันหมดลงไปตั้งแต่การมาเยือนที่มิวนิคแล้วแหละ หากเป็นเซอร์แมทท์ก็ไม่แน่ แต่ตอนนี้เอียนเที่ยวเมืองสุดๆไปเลย แอบจำใจทนกลัวเสียดายโอกาสไปอีก
ผมใช้เวลา 2 ชั่วโมงเดินชมเมืองและก็กลับมาที่แฟรงก์เฟิร์ท พรุ่งนี้ผมต้องนั่งรถไฟไปอัมสเตอร์ดัมแต่เช้าเพราะความเหนื่อยล้าทำให้หลับเมื่องหัวถึงหมอนทันที
ผมใช้เวลา 4 ชั่วโมงเดินทางจากแฟรงก์เฟิร์ทมาถึงอัมสเตอร์ดัมโดยรถไฟความเร็วสูง (ประเทศไทยน่าจะมีรถไฟความเร็วสูงแบบนี่บ้าง) ระหว่างทางผมไม่ได้คาดหวังกับการมาเที่ยวที่นี่ซักเท่าไหร่แต่พอถึงอัมสเตอร์ดัม ความคิดผมเปลี่ยนทันที
อัมสเตอร์ดัมนั้นเป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัวอีกเมืองก็ว่าได้ ที่นี่การถีบจักรยานจะเป็นเรื่องปกติมาก การขายบริการทางเพศ กัญชาถือว่าเป็นสิ่งถูกกฎหมาย ซึ่งผมก็ทำได้แค่เดินดูเฉยๆจริงจริ้งงง (แอบตื่นเต้นสาวน้อยตู้กระจก น่าเสียดายที่เค้าไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ)
การได้มาเปิดหูเปิดตา ส่องๆ ดูๆ ว่าเขาทำอะไรกันบ้างก็ทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย แหม่จะไม่ให้ตื่นเต้นได้ยังไงนี่มันแหล่งทองคำ ความฝันของชายหนุ่มเลยนะฮ่าๆ
ผมใช้เวลาเดินเล่นในเมืองจนเต็มอิ่ม และกล้าบอกได้เลยว่าอัมสเตอร์ดัมนั้นเป็นเมืองที่มีความน่ารักมากอีกเมืองนึง การเดินซึมซับบรรยากาศดูคลองดูตึกที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้ทริปยุโรปของผมนั้นได้จบลงอย่างสมบูรณ์แบบแล้วจริงๆแสงไฟในยามค่ำคืน ผู้คนที่เนืองแน่นตามถนน แม้จะไม่ใช่สิ่งที่ผมชอบนักแต่ก็เพราะว่ามันคืออัมสเตอร์ดัมนี่แหละ ที่ทำให้เมืองนี้มีสเน่ห์ในแบบของมัน
ผมใช้เวลาอีก 1 วันเต็มๆกับอัมสเตอร์ดัม (พักที่นี่โดยการนอนโฮสเทล ห้อง 4 คน) และกลับมาถึงแฟรงก์เฟิร์ทในตอนเย็น ระหว่างทางผมรู้สึกใจหายนิดๆ คืนนี้จะเป็นคืนสุดท้ายที่ยุโรปแล้วจริงๆหรอเนี่ยหลังจากจองที่โรงแรมเดิมในเมืองแล้ว ผมปล่อยจิตใจให้คิดไปตามความรู้สึกผมคิดถึงบ้านที่ไทย แต่ก็มีความสุขที่ได้เที่ยวแบบนี้ เวลาเกือบ 3
รถไฟความเร็วสูงขบวนสุดท้ายที่ผมได้นั่งในยุโรปผมมองออกไปนอกหน้าต่าง น้ำตามันไหล ไม่ใช่เพราะผมเสียใจนะแต่มันคือความสุขและความใจหาย
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in