เหตุผลหลักๆของการมาเวนิส ก็คงหนีไม่พ้นความคิดที่ว่า เป็นเมืองลำดับต้นๆของโลกที่นักท่องเที่ยวอยากมาเยือน ผมก็เช่นกัน และข่าวลือที่ว่าอีกไม่เกินร้อยปีเมืองแห่งนี้จะต้องจมอยู่ใต้น้ำ ถึงผมจะต้องตายก่อนที่เมืองจะจมไปจริงๆ เวนิสก็ยังเป็นจุดหมายที่ผมอยากจะมาซักครั้งในชีวิตอยู่ดี
ประมาณ 6 ชั่วโมงในที่สุดผมก็มาถึงสถานีหลักในเวนิส ก้าวแรกที่เดินลงจากขบวนรถไฟ ผมสัมผัสได้ถึงความวุ่นวายสุดๆ นักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาที่นี่เยอะมาก ผมรีบตรงดิ่งไปยังห้องขายตั๋วเรือเพื่อที่จะไปยังที่พักของผมการเดินทางที่นี่มีแค่ทางน้ำเท่านั้น หรืออยากจะเดินก็เชิญ “แต่กู ไม่เดิน!!!
ค่าเรือต่อรอบราคาจะเอามาเทียบประเทศไทยไม่ได้เลย ให้ตายเถอะ 7
อย่าว่างั้นงี้เลยนะ เวนิสก็คือสลัมของยุโรปดีๆ นี่แหละ กลิ่นลำคลอง ตรอกซอยเยอะมาก แคบอีกต่างหาก จะต่างกันตรงที่คลองบ้านเราจะสีดำๆ ที่นี่สีจะออกเขียวๆขุ่นๆ ระหว่างทางได้กลิ่นโอบอวลของน้ำที่ไม่รู้ว่าเน่าไหม แต่ความรู้สึกคือ “สลัมบ้านกูชัดๆ” ถ้าไม่ติดว่าที่นี่คืออิตาลี ผมคงคิดว่าเดินข้างคลองแสนแสบ เว้นแต่สีของน้ำที่ทำให้ผมพอแยกออกอยู่บ้าง
สองชั่วโมงผ่านไปบนเกาะแห่งนี้กูยังเดิน งง อยู่ในดงฝรั่งหัวทองอยู่เลย ไม่ใช่อะไรหรอกนะ ผมหาโฮสเทลไม่เจอ ซับซ้อนมาก เปิดแมพก็แล้ว เดินตามแมพก็แล้ว เหมือนกูเกิ้ลพากูมาผิดซอยอะ บอกตรงๆ จินตนาการตามว่าเราเดินในที่ที่มีตึกแถวเยอะๆแล้วป้ายบอกเลขที่บ้านมันไม่ชัดอะ บวกกับมีหลายซอยมากคล้ายกันไปหมด สรุปผมต้องไปถามคนร้านขายของชำให้พาไปโฮสเทลหน่อย
“ขอบคุณคุณร้านขายของชำ เชาๆ”
หลังจากเจ้าของร้านขายขอชำพาผมมาส่งที่หน้าโฮสเทลที่ไม่เหมือนโฮสเทล และไม่มีแม้กระทั่งป้ายชื่อ พร้อมกับเลขที่บ้านที่เลือนลาง(ให้ตายเถอะ) ผมพยายามกดกริ่งเรียกให้คนมาเปิดประตู....ไม่มีสัญญาณสิ่งมีชีวิตในที่แห่งนี้ คือความรู้สึกหลังจากกูกดกริ่งมา 3 รอบกับอีก 7 นาทีแห่งการรอคอย หลังจากนั้นหญิงสาวผมบร์อนซ์เดินมาพร้อมกับผลักประตูแรงๆ ออก นางหันมาบอกผมว่า กริ่งมันเสีย จริงๆผลักประตูแรงๆเข้ามาได้เลย
เออสรุปกูโง่เอง
โฮสเทลที่นี่แม่งคือความพังพินาศ เหมือนกับเรามาเช่าเตียงอยู่ซะมากกว่า ทั้งชั้นมีห้องแค่
นอกจากเตียงที่ต้องเช่าแล้วผมยังต้องเช่าผ้าปูเตียงกับผ้าห่มด้วย ใครจะมาจองโฮสเทลใน เวนิส กรุณาเช็คราคากับเงื่อนไขดีๆบางทีมันไม่ได้รวมผ้าปูเตียงนะเออ แล้วจะไม่เช่าก็ไม่ได้เพราะที่นอนที่นี่คือ....เช่าเถอะ มึงนอนเปล่าๆแบบนั้นไม่ได้หรอกเชื่อกู จากโฮสเทลชั้นประหยัด แม่งกลายเป็นโฮสเทลราคาปกติไปเลยซะงั้น
คือใครจะไปคิดว่ามาโฮสเทลแล้วต้องเช่าผ้าปูเตียง ให้ความรู้สึกแบบไปร้านอาหารแต่ต้องจ่ายค่าจานเพิ่มอะแต่ดูเหมือนการให้เช่าผ้าปูเตียงจะเป็นเรื่องปกติสำหรับที่นี่นะ ถือว่าเป็นการเสียค่าโง่ไปอีกขั้น
หลังจากจัดการเรื่องที่โฮสเทลเสร็จแล้วก็ถึงเวลาพักผ่อนหย่อนใจ เดินเล่นชมวิวทานอาหารเย็น ก่อนออกจากโฮสเทลเจ้าของให้กุญแจผมมาพร้อมกับพูดว่า ประตูมันเสีย เวลาไขประตูให้ยกขึ้นหน่อยนึงผมฟังผ่านๆ ไม่คิดอะไร นอกจากบอกว่าขอบคุณ
ยามเย็นจนถึงมืดๆที่แห่งนี้ครึกครื้นไปด้วยนักท่องเที่ยว แต่ถ้าชอบถ่ายวิวสวยๆ มันคงไม่เหมาะ หลังจากเดินได้ซักพัก ผมตัดสินใจที่จะหยุดและเดินกลับโฮสเทล คนเยอะเกินไปถ่ายรูปไม่สะดวก คืนนี้นอนเร็วเพื่อจะตื่นตั้งแต่ตี
ผมตื่นมาตอนตี 5 พร้อมกับความมืดสนิท เสียงกรนของผู้หญิงเตียงข้างล่างทำให้รู้สึกเกร็งเนื้อเกร็งตัวไปหมดผมอาบน้ำเก็บของให้เรียบร้อย พร้อมย่องเบาออกจากโฮสเทล คือมันชัดเจนมากว่าทุกคนหลับใหล การใช้เวลาตอนเช้าที่เวนิสคือสิ่งที่ดีที่สุด คนเบาตาไปมาก คุณสามารถถ่ายรูปตรงไหนก็ได้ที่อยากถ่าย โดยไม่มีใครรบกวน ขอบคุณที่ครั้งนึงผมได้มาเยือนเวนิส
ราวๆเก้าโมงผมต้องกลับมาที่โฮสเทลเพื่อทำการเช็คเอ้าท์แต่โฮสเทลคือที่สิงสถิตย์ของพวกนอนตื่นสายชัดๆ ไม่ใช่แค่คนเช่า แต่เจ้าของก็ยังไม่มาเลย ปัญหาคืออะไรน่ะหรอ ประตูมันเปิดไม่ได้น่ะซิ ผมจำได้ว่าให้ถ้าจะเปิดประตูให้ยกประตูขึ้นหน่อย ประเด็นคือ ยกยังไง
กรึก....เสียงปลดล็อคประตูดังขึ้น “ในความพยายามนี้ กูทำได้แล้ว!!!”
ผมจัดข้าวของเพื่อเตรียมตัวไปมิลานต่อหนึ่งคืนในเวนิสกับครึ่งวันที่นี่ก็เพียงพอแล้วสำหรับผม ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากเที่ยวต่อ แต่ผมหมดเรี่ยวแรงแล้วจริงๆ การเที่ยวต่อเนื่อง
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in