ผมตัดสินใจจองโรงแรมราคาไม่แพงและไม่ไกลจากสถานีหลักในลินซ์ แม้จะรู้สึกเสียดายเงินก็ตาม อย่างว่าใครจะไปรู้ว่าจะมาเจอสถานการณ์ซวยๆ แบบนั้น
ฝนตกไม่มีทีท่าว่าจะสงบแม้มาถึงลินซ์แล้วก็ตาม ความซวยทำให้จิตใจหดหู่เหมือนสายฝนชัดๆ แต่ดูเหมือนว่าเรื่องที่สำคัญกว่านั้นก็ฉุดให้ผมต้องเลิกคิดเรื่องเดิม
“จะไปโรงแรมยังไง”
รถเมล์ที่นี่ไม่มีผลต่อ Google Map หรือง่ายๆก็คือ ใช้อากู๋หาสายรถเมล์ไม่ได้ในเมืองนี้ (อันนี้ต้องศึกษากันนิดนึงนะเพราะกูเกิลบางทีไม่ยอมบอกสายรถเมล์หรือรถไฟในบางเมือง)
“ซวยแล้วไง” จากสถานีไปโรงแรมต้องเดินอย่างน้อยๆ 15 กิโล ถ้าอากาศปกติก็คงเดินได้อยู่หรอก แต่สุดท้ายแล้วต้องจำใจกางร่มเดินตากสายฝน ชีวิตวันนี้แม่ง “ซวยสุดๆ”
ผมเดินมาได้ประมาณ 20 นาทีก็ดันต้องเดินหลงถนน สัญญาณโทรศัพท์ก็ไม่ดีอีก ตอนนั้นในใจแม้งแบบ “อดทน อดทน อดทน” และแล้วก็มาถึงโรงแรมในระยะเวลาประมาณ 45 นาทีกว่าๆ และก็มาไม่ทันรีเซปชั่นจนได้ เพราะมันปิด 6 โมงเย็น ตอนนี้จวนจะ 1 ทุ่มล่ะ ผมได้รับอีเมลจากทางโรงแรมว่า พนักงานได้ฝากกุญแจไว้ในเซฟที่ห้องรับรอง แต่ผมหาห้องนั้นไม่เจอ จนสุดความสามารถผมเลยต้องโทรเรียกพนักงานให้มาช่วยในท้ายที่สุดนี้ ขอบคุณในความอนุเคราะห์จริงๆครับ
ผมจัดการอาบน้ำและกินแฮมเบอร์เกอร์ที่แวะซื้อตอนที่อยู่สถานีหลัก จนทุกอย่างดูจะเรียบร้อยขึ้น ทีวีได้บรรเทาความเครียดไปได้ระดับนึง แม้ภาษาเยอรมันจะยากต่อการเข้าใจในหลายๆ ครั้งก็ตาม ไม่นานนักผมเลยตัดสินใจออกไปสูดอากาศข้างนอก
การออกมาเตร็ดเตร่ทำให้ผมได้เจอกับคนเมืองและอย่างที่เคยบอกความเป็นเอเชียของผมทำให้เกิดคำถามมากมาย เกิดความประทับใจกับคนแปลกหน้า อย่างน้อยๆ คืนนี้ผมก็ไม่เหงา
บทสนทนาดำเนินไปด้วยดีจนกระทั่ง 5
ถ้าอยากจะรู้ว่าออสเตรียมันดียังไงผมแนะนำให้นั่งรถไปลงเฮ้าสแตทท์ (Hallstatt) วิวระหว่างทางคือระดับสิบดาวเลยครับพี่น้อง ทะเลสาบ ภูเขา เรือใบ นก วัว ฟาร์ม หมู่บ้านสไตล์ยุโรป มันสุดแสนจะบรรยาย ทุกอย่างดูเหมือนจะเรียบร้อยดีจนกระทั่งถึงท่าเรือที่จะต่อไปยังหมู่บ้านเฮ้าสแตทท์
ทัวร์จีนคือความวุ่นวายของโลกใบนี้ครับผมขอบอกตรงนี้เลย แล้วขอบอกว่าเป็นส่วนใหญ่ด้วยที่คนพวกนี้ไม่รู้จักมารยาท (คนดีก็มีนะเออแต่ทำไมเจอน้อย) ใช่ เฮ้าสแตทท์คือจุดมุ่งหมายที่ป๊อปปูลาร์สำหรับคนจีนมาก แย่งกันขึ้นเรือ แย่งโน่น แย่งนี่แย่งนั่น โวยวาย ถ่ายรูปทุกองศาของเรือ ความสงบคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับผมทันทีหลังจากที่ขึ้นเรือ ใช่ “กูคงต้องนั่งเฉยๆ สินะ”
แต่ถึงอย่างนั้นธรรมชาติ ก็ดึงดูดให้ผมละสายตาจากนักท่องเที่ยว คือมันสวยมากครับ วิวแบบนี้อากาศแบบนี้ ผมหลงรักเฮ้าสแตทท์ไปเต็มๆ ทริปนี้เยียวยาความเจ็บปวดในเวียนนาได้อย่างไม่ต้องสงสัย
เฮ้าสแตทท์เป็นหมู่บ้านเล็กๆริมทะเลสาบ หมู่บ้านเรียงรายกันขึ้นไปตามเนินเขาชัน มีน้ำตกใกล้ๆ อากาศเย็นสบายทุกซอกมุมของที่นี่เต็มไปด้วยสเน่ห์สำหรับคนรักธรรมชาติ เมืองแห่งนี้สวยเหมือนหลุดออกมาจากภาพวาดเลย การเดินเล่นที่นี่ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งวัน กิจกรรมหลักๆนอกจากชมโบสถ์ แทร็กกิ้งเบาๆ และชมเหมือง ก็มีการพักผ่อนจิตใจนี่แหละ หลังจากเดินจนอิ่มหนำสำราญผมก็ต้องกล่าวลาที่นี่ เพราะอีกครึ่งวันหลังผมจะต้องแวะเมืองซอลซ์เบิร์ก (
แต่ปราสาทที่ salzburg นี่ชันๆๆๆๆ มาก
Salzburg เราก็แวะเที่ยวนะคะ ออกจากมิวนิคมา เราแวะ salzburg เดินเล่นวันนึงก็โอเคนะคะ พอเก็บหมดอยู่
เราไปค้าง hallstatt ต่อ แต่โชคร้ายที่ hallstatt เราค้าง 2 คืน แต่ฝนตกหนักมว๊ากกก Y_Y พออีกวันรีบออกมาแต่เช้าก่อนทัวร์ลง ก็โอเคค่ะ ยังเงียบหน่อย
ส่วนตัว Salzburg น่าเที่ยวดี มีคนรีวิวมาว่าปีนกันสนุกเลย