เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Europe First TimeKanSiri
ก่อนเริ่มเดินทาง
  • นึกถึงแล้วมันก็เป็นเรื่องราวดีๆและประสบการณ์ใหม่ๆ ขอเล่าเป็นเรื่องเป็นราวซักครั้งแล้วกัน ซึ่งในตอนที่รู้ว่าตัวเองได้โอกาสไปทำโปรเจคที่โปแลนด์ตอนนั้นดีใจมาก รู้สึกว่าเป็นจุดเริ่มต้นของความฝันตัวเอง (หนึ่งในความฝันของผมคือการเที่ยวรอบโลก)

    ตอนนั้นผมเองก็มีงานประจำที่ค่อนข้างมั่นคงอยู่แต่โอกาสก้าวหน้าค่อนข้างต่ำ บวกกับการที่ผมรู้สึกว่าแนวทางอาชีพนักกฎหมายไม่ใช่อะไรที่เป็นผมซักเท่าไหร่ จึงตัดสินใจคว้าโอกาสที่จะได้ไปโปแลนด์ลาออกจากงาน ซึ่งผมก็ได้เตรียมใจเรื่องนี้ไว้แล้ว เออแล้วโอกาสก็มาถึง….

    ดูเหมือนเป็นการลาออกแบบดูมีคุณค่า (มั้งนะ ฮ่าๆ แต่มันก็เศร้านะเงินเดือนไม่มีแล้ว) แม่ถามเป็นล้านรอบว่า แน่ใจหรอกับการตัดสินใจแบบนี้จะไปอยู่โน่นตั้งหลายเดือนจะไปอยู่ได้หรอ ผมก็ตอบอย่างมั่นใจว่าได้ซิแม่มันจะไปยากอะไรแค่ไปสองสามเดือนเดี๋ยวก็กลับมาแล้ว อีกอย่างมันจะได้เปิดหูเปิดตาและเป็นการการันตีทักษะทางภาษา (อันน้อยนิด) ของผมไปด้วยเลย คิดแล้วก็มีแต่เรื่องดีๆ ไม่ต้องกังวลเลยแม่ สบายมาก

    พอตัดสินใจได้แล้ว

    เอ้าไปก็ไป กลับมาแล้วเธอก็ต้องว่างงานนะ แต่ในเมื่อคิดว่ารับได้ก็ตามใจ….เออ วินาทีนั้นรับได้ไม่ได้ไม่รู้ รู้แค่ตอนนี้ขอให้ได้ไปก่อน ซึ่งปกติเป็นคนติดบ้าน  ติดแม่ ไม่ชอบความลำบาก มีอะไรก็จะกลับบ้านท่าเดียวอะเนอะ

    หนึ่งเดือนก่อนโปรเจคจะเริ่ม ผมทำการแพลนโนนี่นั่น (โดยเฉพาะการเที่ยว) และแล้วอาทิตย์สุดท้ายของการทำงานก็มาถึง จะว่าไปมันก็น่าใจหายเนอะ ผมเจอสภาพแวดล้อมที่ทำงานที่ดีเพื่อนร่วมงานก็ดี หัวหน้า เจ้านายก็ดี (โดยรวมถือว่าดี) การลาออกครั้งนี้มันก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดเลย อีกอย่างจะต้องทิ้งหัวหน้าผมไปในขณะที่เขาต้องการคนช่วยเหลือมากที่สุด ซึ่งตอนนั้นงานเยอะมากหัวหน้าผมก็ตั้งท้องมีน้อง แต่ผมตัดสินใจแล้วและบอกล่วงหน้าถึงสามเดือนเลยด้วย งานผมก็เคลียร์จนครบแล้วจะมีก็แต่ความรู้สึกผิดนิดๆหน่อยๆ ผมเคารพหัวหน้าผมมากนับถือในความเมตตา กรุณา อย่างซาบซึ้ง แต่ถึงคราวจะต้องไป มันก็ต้องไป ทุกคนรู้ว่าผมอยู่นี่โอกาสเติบโตมันยาก แล้วการลาออกแบบนี้มันก็ถูกก็ควรที่สุดแล้ว ผมคิดแบบนี้จริงๆนะในตอนนั้น

              แล้ววันเดินทางมันก็มาถึงตอนนั้นรู้สึกใจแป้ว รู้สึกว่า ผมคิดผิดแล้วที่ลาออกมา วันนั้นกลัวมากทุกอย่างในหัวมันรันออกมาเป็นช๊อตๆ จะหลงไหม จะรอดไหม จะตายไหม ถ้าตายไปศพผมจะต้องทำยังไง จะมีญาติมารับไหม ตาย อโลนในยุโรปแม่งน่าเศร้ามากอะบอกเลย จะโดนจับตัวไปไหม ฮ่าๆ แต่คิดแบบนี้จริงๆนะ อารมณ์แบบ ผู้ชายเอเชียหน้าตาดูโง่ๆคนนึงหลงมายุโรป โดนแก๊งค์ค้ามนุษย์แน่ๆ แล้วจะว่าไปมันก็เป็นการไปยุโรปครั้งแรกการออกจากบ้านไปไกลมากๆครั้งแรก และนานที่สุดที่ไกลบ้าน ซึ่งถ้าผมไปแล้วคือมันกลับมาไม่ได้นะเว้ย ต้องรอถึงสามเดือน ถึงจะกลับบ้านได้ ตอนมาถึงสนามบิน พ่อแม่พี่สาวมาส่งตอนเดินเข้าเกทไป น้ำตาไหลซึมๆ กลัวมาก แต่แบบ ผมต้องไปเงินค่าเที่ยวออกไปตั้งเยอะละ ไม่ไปนี่จบเห่ ค่าที่พัก ค่าตั๋วรถไฟในยุโรป บลาๆๆๆเออไม่ได้ต้องไปว่ะ ความงกมันมีอิทธิพลเหนือความกลัวมากจริงๆ ณ จุดนี้ พอผมได้ขึ้นเครื่องเมื่อก้นได้สัมผัสกับเบาะเครื่องบินทันใดที่นั่งนั้น สาววัยรุ่นผิวสีผู้นั่งข้างๆผมก็เริ่มบทสนทนาทันที.....

             "Hey, Where are you from?"

              วินาทีแรกผมคิดในใจทันที “หน้ากูไทยขนาดนี้ยังจะมาถามอีกเร๊อะหือออ?” แต่ก็ตอบไปว่า

             "Thailand Yes I'm Thai"

             และมันก็เป็นการเริ่มต้นการเดินทางของผม

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in