เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Storage Roomcoffeeandpies
Happiness
  • TW: mental illness, suicide attempt

    เรื่องตลกร้ายเรื่องหนึ่งในชีวิตฉันคือ ชื่อของฉันแปลว่า "เกี่ยวเนื่องกับความสุข" แต่เจ้าของชื่อดันเป็นโรคซึมเศร้ากับวิตกกังวลซะงั้น

    เดิมทีฉันก็เป็นคนเครียดง่ายมาแต่ไหนแต่ไร ตั้งแต่ประถม มัธยมต้น มัธยมปลาย แต่ความเครียดกับความเศร้าในช่วงมหาวิทยาลัย และอีกเหตุการณ์หนึ่งทำให้ฉันต้องลาออกจากคณะเดิม ไปพบแพทย์ ทานยา และทำจิตบำบัดต่อเนื่อง วันนี้ฉันก็เพิ่งไปหาหมอมา นัดครั้งหน้าห่างออกไปสามเดือน เป็นสัญญาณที่ดีเพราะว่าเมื่อสี่ห้าปีที่แล้วฉันเข้าโรงพยาบาลแทบทุกสัปดาห์ ไปหาหมอบ้าง นักจิตบำบัดบ้าง ในขณะที่อ่านหนังสือสอบซิ่วไปด้วย นึกย้อนกลับไปแล้วก็คิดว่า เราก็มาไกลเหมือนกันนะเนี่ย ถึงจะสู้ชีวิตแต่ชีวิตสู้กลับเลเวล 99 ก็เถอะ (ฮา)

    เหตุการณ์ที่ว่านั่นน่ะ วันนั้นเป็นวันสอบกลางภาควันสุดท้าย น่าจะประมาณต้นเดือนตุลาคม ฉันไม่ได้นอนติดกันมาสามคืน ข้อสอบก็ทำไม่ได้ เพื่อนในคณะคนหนึ่งบอกกับคนที่เหลือว่าคะแนนออกแล้ว ฉันก็เดินตามไปดูด้วย นั่นแหละ ฉันตกระเนระนาด อาจจะเพราะทุกอย่างรวมกัน ทั้งนอนไม่พอ ร้องไห้แทบทุกวันตั้งแต่เปิดเทอม คะแนนที่ห่วยแตกจนเกือบต้องซ้ำชั้น แล้วมาเจออะไรแบบนี้อีก

    ฉันอยากตาย

    รู้ตัวอีกที ฉันก็อยู่ที่ชั้นดาดฟ้าหอพัก

    ฉันอยากจะกระโดดลงไปให้รู้แล้วรู้รอด ความคิดของฉันคือ ถ้าเราไม่อยู่ตรงนี้เราก็ไม่ต้องทรมานอีกแล้ว พอเถอะ พอซักที

    ใช่--ฉันพยายามฆ่าตัวตายเพราะตัวเลขกับตัวอักษรบนกระดาษ

    ฉันอยากขอบคุณเพื่อนสนิทที่มาเจอฉันบนดาดฟ้า ไม่อย่างนั้นฉันคงไม่มีโอกาสมาเขียนอะไรก็ไม่รู้อยู่ตรงนี้หรอก

    (เอาจริง ๆ หลังจากนั้นที่ฉันยอมไปทำจิตบำบัดเพราะฉันไม่มีอะไรจะเสียแล้วนอกจากเสียชีวิตน่ะนะ)
  • อีกสองปีถัดมาฉันใจกล้าพอที่จะนำเรื่องนี้ไปพูดในคลาสspeakingที่เรียนอยู่ มองย้อนกลับไปก็เป็นอีกช่วงหนึ่งที่คิดเหมือนกันว่า เราก็กล้าเหมือนกันนะเนี่ย ฉันรู้สึกขอบคุณอาจารย์คนนั้นมาก ๆ ที่เปิดโอกาสให้ได้ทำพรีเซ้นท์เรื่องของตัวเอง ตอนที่ฉันไปฟังฟีดแบคฉันก็บ่นกับอาจารย์ว่า รู้สึกว่าทำได้ไม่ดีเลย แถมไปพูดเรื่องลบ ๆ ให้คนอื่นรู้สึกแย่อีก (มีคนน้ำตาซึมในคลาสวันนั้นจริง ๆ) แล้วฉันก็ร้องไห้ในห้องทำงานเขาแบบไม่อายฟ้าอายดิน

    ฉันยังจำที่อาจารย์ตอบกลับได้ว่า คุณเล่าเรื่องได้ดีมากไง คนฟังถึงมีอารมณ์ร่วมขนาดนั้น แล้วที่มาพูดเรื่องนี้ก็เก่งมากแล้ว เพราะคุณพิสูจน์ได้ว่าคุณได้ก้าวข้ามเรื่องแย่ ๆ ในชีวิตแล้วมาอยู่ตรงนี้ แค่นี้คุณก็สุดยอดแล้วล่ะ

    วันนั้นฉันค้นพบความสามารถพิเศษอย่างหนึ่ง ฉันสามารถสติแตกไปด้วยพูดภาษาที่สองไปด้วยแบบไม่ติดขัด เพราะบทสนทนาเมื่อกี้ฉันแปลคร่าว ๆ เท่าที่จำได้จากภาษาอังกฤษ

    ครั้งนั้นก็เป็นก้าวหนึ่งที่ฉันสามารถเปิดใจพูดเรื่องนี้กับคนไม่รู้จักได้ แล้วฉันก็กลายเป็นคนที่ค่อนข้างเปิดกว้างกับอาการป่วยของตัวเองไปเลย แต่เอาเข้าจริง จะพูดหรือเขียนกี่รอบ ๆ ก็รู้สึกว่าไปสะกิดแผลเก่าเมื่อหลายปีก่อนอยู่ดี แค่มันเจ็บน้อยลงเท่านั้นเอง

    การเขียนแบบ stream of consciousness นี่ทำให้เรื่องความสุขเป็นเรื่องสุขภาพจิตแบบยาวเหยียดได้ ตลกดีเหมือนกัน

    ถ้าจะให้กลับมาพูดเรื่องความสุขต่อ ทุกวันนี้ฉันพยายามหาอะไรเป็นความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ในแต่ละวัน ชีวิตจะได้ดูไม่ดิ่งเกินไปนัก

    กาแฟตอนเช้าอร่อยเป็นความสุข

    แมวจรขาประจำมาที่บ้านก็เป็นความสุข

    ต้นไม้ที่ปลูกไว้งอกใบใหม่ก็เป็นความสุขเหมือนกัน

    ส่วนตอนนี้ ฉันควรจะตบบ่าตัวเองและบอกว่า หลายปีมานี้ทำได้ดีแล้วล่ะ และสักวันหนึ่งฉันก็สามารถมีชีวิตที่ "เกี่ยวเนื่องกับความสุข" เหมือนชื่อตัวเองได้ ฉันเชื่ออย่างนั้นแหละ

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in