เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ประสบการณ์ที่ผ่านเจอNarut Sirithip
เข้าค่ายโอลิมปิควิชาการ
  •      นอกจากโอลิมปิค พาราลิมปิค กันแล้ว จริงๆเรามีค่ายโอลิมปิคที่จัดแข่งกันด้านวิชาการอยู่ด้วยนะครับ แต่ก็ไม่ได้เงินอัดฉีด ออกข่าว หรือ อยู่ในกระแสที่จะมีใครสนใจอะไรขนาดนั้น (ผมยังไม่สนเลย ดูมวย บาส บันเล่ หนุกกว่าเยอะ)   

       มันจะเป็นการสอบแข่งขันกันครับเด็กที่สอบ ก็มีสิทธ์ ตั้งแต่ ม.1 - ม.5 แน่นอนครับปีที่ผมติดคือ ม.5 ปีที่ได้เปรียบสุดอย่างน้อยก็ด้วยเรื่องอายุอ่ะ วิชาที่เลือกมี วิทย์ (เค ฟิ ชี) คณิตผมลงฟิครับ พอติดเข้าไปก็จะเรียนแล้วสอบคัดกันอีกจนผ่านเข้าไปทีละค่ายๆ ในที่สุดก็เป็นตัวแทนประเทศไปลุยเวทีโลก ของผมไม่ต้องมองไปไหนไกลครับ ค่าย 1 จบ    


       มันเริ่มตั้งแต่การสอบ เป็นปรนัยครับ คือก็ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง เหมือนจะได้ แต่ก็ไม่มั่นใจ ไม่ได้หวังว่าจะต้องติดแต่ลึกๆก็อยากติดอยู่ สวดมนต์ทุกคืนเลย แหม่...ก็ถ้าไม่อยากติดแล้วจะสอบไปทำไมเนาะ และแล้วก็ประกาศผลครับ (ไม่บอกคะแนนนะบอกแต่ติดไม่ติด) เชรดดเค้ ติด!!!! โอ้ยย โม้ใหญ่ พ่อแม่ ญาติพี่น้องรู้หมด   

       มารู้คะแนนสอบเอาตอนเรียนในค่ายครับ อาจารย์คงเอามาให้ดู สงสัยกะให้เจียมตัวกันบ้าง ไม่รู้ว่าปีนั้นด้วยข้อสอบยาก หรือเด็ก... ผมได้ อยู่ 16 ไม่ใช่จาก 20 นะครับ เต็ม 40 แต่ เฮ้ยย ติด พยายามไล่หาอันดับ 1 แหม่ นึกว่าจะมีเทพๆมาโชว์ สามสิบบวกเหรอครับ ป่าวเลย ที่ 1 เพื่อนผมเอง ได้ 20 ครึ่งเดียว แหม่ แบบนี้จริงๆอาจารย์ออกข้อสอบต้องพิจารณากันบ้างหล่ะ  ยากไปก็จะวัดไรไม่ค่อยได้ (แต่เอาวะข้อสอบเดียวกันยากเท่ากันแปลว่าเราก็พอตัวอยู่ละว้าา) มีน้องคนหนึ่งครับ พี่แกบอกเลย มั่ว มาแบบ งงๆ ไม่เคยมีประวัติทางฟิสิกส์ อยู่ รร. ฟิ เกรด 2 ก็เนอะ ปรนัย คะแนน = กาถูก = ความรู้ + เฮง ...   


       ค่ายนี้เป็นค่ายที่มีการเป็นอยู่ดีที่สุดที่ผมเคยเข้าในมัธยมละครับ มีเบี้ยเลี้ยง ขนมเบรค เรียนห้องแอร์ พักโรงแรม มหาวิทยาลัย (มทส) เตียงสปริง เครื่องทำน้ำอุ่น อ่าง พักห้องละ 4 เลือกเพื่อนเองได้ แต่แยกชายหญิงนะครับ แหม่ อด (แต่ถึงไม่แยก แม่มก็อด ห้อง ผญ ไหน คนไม่ครบ เสร็จเพื่อนหญิง หมด) เราเตรียมตัวกันมาดีครับ หนัง เกมส์ ไพ่ การ์ตูน มีเพื่อนคนหนึ่งเอารูปคนที่ชอบ(เพื่อนในห้องผมเอง) ตั้งบนหัวนอน โตขึ้นลัทธิบูชาเมียแน่นอน   


       มาที่เรื่องการสอนจุดประสงค์หลักของค่าย ก็เหมือนค่ายนักกีฬาอ่ะครับเราจะต้องฝึก จนถึงวันคัดตัวและก็ตัดสินกันอันดับต้นๆก็ได้ไปต่อ ดังนั้นเราอยากไปต่อต้องตั้งใจฝึก ตั้งใจเรียน และนั่นหล่ะครับ ทุกข์เดียวในค่ายนี้ อาจารย์สอน เป็นอาจารย์มหาวิทยลัย ใครเคยได้เรียนกับท่านบุคคลเหล่านี้แล้วนั้นอาจารย์มหาวิทยาลัย คือแม่มแบบขนาดตรู ปี 1 ปี 2 เรียนยังเหวอ แล้วนึกดูสิครับเด็ก ม.5 ในตอนนั้นอย่างผม งง แดรก พิสูจน์สูตร อะไรกันนักกันหนาคือถ้าสูตรมันไม่ถูกเขาจะใช้กันมาเป็น 10 10 ปีรึไง แม่มละถ้ากุพิสูจน์ได้ว่าผิด จะให้โนเบล สาขา ตรวจสอบ ดัดแปลง แก้ไข รึงาย ก็ให้ 0 ตลอด ไม่รู้จะเรียนอะไรกันเยอะแยะ เพิ่งรู้ว่าฟิสิกส์ มี ต้อง ดิฟๆ อินทิเกต ก็ครั้งนี้ เยอะไปหมด งั้นเราผ่านจุดประสงค์หลักของค่ายไปกันดีกว่าครับ   


        ไม่ใช่แค่ผมแน่ๆที่เหวอ อ้อ ห้องเรามี 40 คน ในค่าย1 ทั้ง ชาย หญิง เก่ง เกรียน เนิด คละๆกันไป หูย มีน้อง ผญ สวยๆด้วย นับเป็นโชคดีที่ค่านิยมฟิสิกส์ไม่ได้มีกันแค่ในชายฉกรรจ์ คือ มองไปจะเห็นแต่ละคนมีวิธีก้าวผ่านคาบเรียนแตกต่างกันไปตามไลฟ์สไตล์ (คือตั้งใจเรียนก็มีไม่น้อยนะครับ) ทั้งงีบ มองหน้าต่าง มองคนสวยๆ เม้า อ่านตูน ปั่นแปะ (ในสมัยนั้นยังไม่ใช่ยุครุ่งเรืองของสมาร์ทโฟน อุปกรณ์และวิธีที่ใช้จึงแตกต่างกันและเห็นได้ง่ายว่าใครทำอะไร สมัยนี้ ทุกอย่างที่ใช้ฆ่าเวลาได้ถูกบรรจุอยู่ในนั้นแล้ว ต่อเน็ต เครื่องเดียวจบ)   


       จนมีครั้งหนึ่งเซ็งไม่รู้จะหาไรมาฆ่าเวลาแล้ว ตกคาบบ่าย โดดกลับห้องเลยครับ เล่นเกมส์  ซักพักมีคนมาเคาะห้องเรียกชื่อด้วย ถูกเปะ ซวยละไง เอาวะไปเปิดครับ (เก็บเกมส์ละนะ) เป็นพี่ สต๊าฟ น้องป่วยเหรอ อ่ะนี่ยา ทานแล้วพักผ่อนนะ เย็นมีทานข้าว ทานไหวก็ไปทาน ไม่ไหวให้เพื่อนแบ่งขึ้นมา อ่ะพักผ่อนๆ คือเช็คชื่อบ่าย ผมหายไปพอดีเพื่อนมันคงบอกให้ว่าป่วย รู้สึกผิดอยู่ระยะหนึ่งก่อนกลับมานั่งเล่นเกมส์ แต่ก็เลิกโดดเลยครับ พี่แม่มคนดี (แต่ถ้าโดดกันเยอะๆก็ไปด้วยละกัน เสียงข้างมาก ประชาธิปไตยอยู่แล้ว) ประมาณว่าหลังจากผมป่วยได้ มีคนทยอยป่วยกันเป็นระยะๆเลยครับ แหม่....    


        และอีกเหตุการณ์ที่ทำให้รู้ถึงเหตุผลของการที่ควรมีห้องน้ำอาจารย์แยกต่างหาก ก็มันเรียนไม่รู้เรื่องเลย ก็ต้องบ่นเป็นธรรมดา มองไปเห็นเพื่อนที่โถปัสสวะ ไม่ได้อะไร ก็ระบาย บ่นออกมาเลย "แม่ม อะไรก็ไม่รู้ ทำไม่ได้เลย แสรส..." จังหวะที่เดินพ้นฉากเข้ามา ใจวาบเลยครับ อาจารย์ล้างมืออยู่ คนสอนตรูทำโจทย์ ตากี้เลย แต่เอาวะใจดีสู้เสือ ตีมึน เดินไปที่โถ ตรงกลางระหว่างเพื่อนตัวโตสองคน ทำหันไปคุย "แม่ม เล่นบาสมาตั้งนานละกุ ยังเลย์ไม่ได้ซักทีเลยเนี่ย..." เพื่อนเงียบกริบ...(ทิ้งกันชัดๆ) ลุ้นกันตัวโก่งฉี่ไม่ออกเลยทีเดียว แต่อาจารย์ไม่ว่าอะไรครับ ล้างมือเสร็จก็เดินออกไป รอดด สงสัยเห็นพวกเยอะ


       อ้อ..เคยไปจีบสาวในค่ายด้วยนะครับ ก็มาจากโรงเรียนชายเนาะทำไงได้ เอาเป็นว่าแห้วครับ T^T   

       โอะๆ ถึงวันสอบ ค่าย สิบกว่าวันครับ ทุกคนก็จะมีติวหนังสือ ซื้อมาอ่านตามวิชาที่ตนเข้าค่าย ผมก็ซื้อนะเล่มหนาด้วย อ่านสิผมอ่าน ก็เนาะ มาแล้วก็อยากติดไปต่อ ครั้งนี้เอาเหลือ 15 คนครับ   สอบ... ครั้งนี้ข้อสอบเป็นอัตนัยครับ   


       (ย่อหน้านี้อวยตัวเอง) เชรด ติด ที่ 11 ครับ ได้ค่าย 2 แต่จะเริ่มเข้า ปิดเทอมใหญ่ ค่ายหนึ่งนี้ปิดเทอมเล็กครับ ซึ่งปกติเทอมใหญ่จะไปเรียนซัมเมอร์ เที่ยว กทม และด้วยเหตุผลสำคัญที่ว่า ถ้าไปค่าย 2 แล้วไม่ติดเราก็จะเป็นแค่ เด็กค่าย 2 แต่ถ้าติดแล้วไม่ไป ก็เอาไว้คุยได้ว่า ถ้าไปก็อาจจะติด ค่าย 3 ต่อๆไปอีก คุยได้เป็นปี ด้วยเหตุนี้ จึงตัดสินใจไม่ไปครับ  แหม่.... ถ้าไปน้า... 

     


      สนุกครับ สนุก ใครยังมีโอกาสสอบ m.1 - m.5 (ไม่รู้เปลี่ยนยัง) เอาเป็นว่าใครยังสอบได้ มีน้อง มีลูก มีหลาน สอบได้ แนะนำให้สอบดูครับ เพราะไม่แน่ปีนั้นข้อสอบอาจยากก็ได้  มหาวิทยาลัยหลายๆแห่งก็มีโควตาโอลิมปิคนะครับ (แต่คงค่ายสูงหน่อยมั้ง)

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in