นักศึกษาวิชาทหาร หนึ่งในเส้นทางเพื่อเลี่ยงการเกณฑ์ทหาร แต่บางคนเขาอยากเรียนจริงนะครับ แต่ผมชัดเจนครับถ้าไม่มีเกณฑ์ทหารชายไทยไม่มีทางเรียนแน่นอน แต่เมื่อได้เรียนแล้วมันก็เป็นอีกประสบการณ์หนึ่งที่ชวนให้น่าจดจำ . . .
การเป็นนักศึกษาวิชาทหาร สิ่งหนึ่งที่ต้องผ่านคือการเข้าค่ายครับ ส่วนใหญ่ก็เขาชนไก่ แต่ผมจังหวัดสุรินทร์ ที่นี่เราเข้า เขาสวายครับ ฉากที่เห็นจะเป็นหญ้าสีเหลืองแห้งๆ ฟาง คันนา ต้นไม้และดินที่ดูจะแห้งกร้าน...
แน่นอนครับว่า การเข้าค่าย มันก็ต้องนอน เต๊น ซึ่งเป็นผ้าร่มเขียวมาปักกับไม้ผูกเชือกดึงขึงเป็นสามเหลี่ยม ส่วนตรงที่นอนนั้นความนุ่มขึ้นอยู่กับการเตรียมพร้อมของแต่ละนาย ฟางขาดตลาดกันทีเดียว อัดเข้าไปเต๊นละสามคนซึ่งถ้าดูแล้วขนาดมันน่าจะซักสอง เต๊งมีความยาวที่ไม่ยาวนักครับ ดังนั้น ทุกเต๊นตอนค่ำจะมีปลายเท้าโผล่ออกมาเสมอ ใครสูงหน่อยก็เป็นทั้งท่อนขาเลยครับ
มีวันหนึ่งกับข้าวจำแม่นเลยครับ มื้อเช้าผัดวุ้นเส้น มื้อเที่ยงแกงจืดวุ้นเส้น มื้อเย็นแกงส้มวุ้นเส้น และที่สำคัญวุ้นเส้นมันสั้นลงเรื่อยๆ คือเช้าๆเราทานกันไม่เยอะครับ ก็คาดว่า มันคงสืบทายาทต่อๆกันมา
ภาชนะเป็นถาดครับ เราทานเสร็จจะต้องนำไปล้าง โดย ตรรกะในตอนนั้นของผมคือ คนเป็นร้อยถาดไม่มีทางกลับมาหานายเดิม ดังนั้น จุ่ม วาง ตาก จบ (สก๊อตไบท์มันเละตั้งแต่วันแรกละครับ) ซึ่งเมื่อหยิบถาดทุกครั้งก็มั่นใจได้ว่า ไม่ใช่ผมคนเดียวแน่นอน เพราะตั้งแต่สัมผัสแรกที่โดนถาดเราก็จะรู้สึกได้ถึงความมัน ของมันเสมอ ลื่นปรืดๆ
จริงๆเรื่องอาหารไม่มีอะไรน่ากังวลหรอกครับ เขาบอกค่ายจำลองสถานการณ์จริง แต่แหม่ มีมาม่า ลูกอม ขนม แม้กระทั่งเฉาก้วย ขายตลอดทั้ง 5 วันครับ (รายได้ครูฝึกแก)
ฐานยิงปืน ปืนเล็กยาว 15 นัด ซึ่งยิงชุดละ 20 นาย แต่ละนายก็จะมีกระดาษเป้าของตนเอง เมื่อรับคำสั่ง ยิง!! จะมีช่วงสุญญากาศ นิ่งสงบอยู่พักหนึ่ง จนมีผู้นำเหนี่ยวนัดแรก ปัง หลังจากนั้นมันมา ปังๆๆๆๆๆ 15*20 = 300 นัด ครบปึบ จะมี วิ้ง วิ้ง อยู่ในหู เสียงดังจะทำไรเราไม่ได้ชั่วขณะ และเก็บเป้าครับ
ใครไม่ถึง 10 นัด ครูฝึกจะให้ไปลงน้ำครึ่งท่อนทันที โอะ ลืมบอกไปครับทุกวันต้องใส่เกง รด แล้วไม่มีใครมีตัวที่ 2 แน่ ผมรอดครับ ส่วนคนที่ไม่รอดก็ลงน้ำตามระเบียบ ที่แปลกคือคนรอดบางคนเข้าเป้า 16 17 นัด ซึ่งก็พอเดาได้ว่า มันน่าจะมาจากไหน
ฐานจู่โจม มีให้รอดลวดหนามคือมันต่ำมาก ขนาดนอนยังโดนหัวได้ ต้องใช้ปืนดันมันขึ้น มีหัวหน้าหมู่คนหนึ่งครับ พอเขาบอกพุ่งพี่แกก็พุ่ง แป๊กปืนดีดนิ้ว นิ้วแตก!! ผมสูญเสียหัวหน้าหมู่ไปตั้งแต่ยังไม่เริ่มสงครามเลยครับ
ที่อื่นจะมีเสียงปั้งๆ บึ้ม! กระตุ้นให้สมจริง ด้วยความที่ สุรินทร์เราคงงบน้อย สภาพที่เห็นคือครูฝึกคนหนึ่งยืนยิงปืนขึ้นฟ้า ปังๆๆ แล้วไอ่เด็กชาวบ้านก็พอกันวิ่งเก็บปลอกกระสุน ครูฝึกก็ต้องคอยไล่เด็ก แม่ม ดูน่ากลัวมากก...
แต่ก็มีตอนสมจริงอยู่นะครับ ปืนลูกไฟ งบน้อยตามด้วยเซฟตี้ต่ำ เขาจะให้คลานไปเรื่อยๆครับข้ามคันนา ใครไม่มีเลือด ไม่ถลอก แปลว่ามันยังไม่ได้ฝึก มาถึงคันนาก็ต้องกลิ้งข้ามไป ก่อนกลิ้งเป็นภาพที่จำแม่นมาก หันไปเจอลูกไฟสีชมพูลอยตรงเข้ามา(เราจะเห็นมานมาช้าๆ) หลบครับ หลบได้ เฉียดข้ามไปนิดเดียว และนี่หล่ะที่สมจริง จำฉากที่บอกได้มะครับ ดินแห้งกร้าน ฟางแห้งๆ ไหม้สิครับ ไฟไหม้ แล้วมันก็ลาม "หยุดโจมตี ดับไฟก่อน " เปลี่ยนเป็นให้ช่วยกันดับไฟ อันนี้หล่ะครับเสมือนจริงสุดๆ
จนวันกลับครับ โหยยย อารมณ์ที่สั่งเลิกแถวครั้งสุดท้าย เลิกแถว! เห้!! โดยมิได้นัดหมาย ทุกคนโยนหมวก รด ขึ้นครับ มันยิ่งกว่าการเรียนจบใดๆที่จำความได้ในตอนนั้น ดีใจมากๆ เสียงดังมา "ใครให้โยน เก็บ ใครไม่มีหมวก ไม่ผ่าน" วิ่งเก็บกันมั่วเลยครับขอแต่มีของใครช่างมัน และแล้วก็เดินทางกลับโรงเรียน รอผู้ปกครองที่รักมารับกลับ
กลับมาอาบน้ำ เปิดน้ำกะลงไปนอนแช่ ลงไปไม่ถึง 20 วิ น้ำดำมาเลย สะสมมานาน แต่จริงๆก็เข้าใจว่าอาบน้ำทุกวันอยู่นะครับ กระเป๋าที่จัดไป 5 วัน อย่างหนักสู้แบก เอาวะเหลือดีกว่าขาด แหม่..เหลืออื้อ เพราะ ชุด รด ทั้ง 5วัน เรียนรู้เรื่องการจัดกระเป๋าเที่ยวเลยครับ อาบเสร็จ นอน หลับยาววว...
แม้ รด จะเป็นอะไรที่อยู่ดีๆก็คงไม่คิดจะไปเรียน เพื่อนหยุดเสา อาทิตย์ เราหยุด อาทิตย์ละวัน 3 ปี ฝึก เข้าค่าย เหนื่อย ร้อน อึดอัดเซ็ง แต่พอผ่านมันมา มันก็เป็นประสบการณ์หนึ่งที่ยังจะอยู่ในความทรงจำระดับคลาสสิคของชายไทยหลายๆคนนะครับ และเมื่อคุยถึงมันกี่ครั้งก็ยังเรียกเสียงหัวเราะ และเรื่องเล่าต่างๆมากมายออกมาได้เสมอ... นักศึกษาวิชาทหาร
เราเหล่านักศึกษาวิชาทหาร กรมการรักษาดินแดน
ฝึกฝนทุกคนรู้จักให้รักแผ่นดิน ถิ่นแคว้นเป็นปึกแผ่นแดนไทย
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in