เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Let’s have Minimore fun!minimore
แรงบันดาลใจจากเด็ก เผยโฉม 10 นักเขียนรุ่นเล็กที่งานดีจนต้องจารึก
  • ใครว่ามีแต่ผู้ใหญ่ที่เป็นนักเขียนได้ ใครบอกว่าเด็กๆ เล่าเรื่องยังไม่เป็น สื่อสารความในใจยังไม่ได้เต็มที่ มินิมอร์ขอเชิญพบกับเด็กๆ พวกนี้ ที่จะทำให้รู้ซึ้งถึงคำว่า เล็กพริกขี้หนู จิ๋วแต่แจ๋ว!




    แม้ว่าเขาจะได้รับความทุกข์ทรมานจากอาการของโรคกล้ามเนื้อเสื่อมสภาพมาแต่กำเนิด แต่ Mattie Stepanek ไม่เคยปล่อยให้อาการดังกล่าวหยุดการส่งต่อเจตนารมณ์ หรือชะลอการเขียนของเขาเลยแม้สักครั้ง เรื่องน่าทึ่งของเขายังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะนอกจากจะเป็นนักเขียนอายุน้อยที่ผลงานมียอดขายสูงสุดใน New York Times แล้ว  Mattie ยังเป็นผู้สนับสนุนองค์กรสำหรับผู้พิการ แถม Oprah Winfrey ยังเรียกเขาว่า หนึ่งในแขกที่น่าจดจำที่สุดของเธอตลอดกาล และได้ให้เครดิตคำแนะนำของเขาที่ใช้ใน Oprah Winfrey Show ตลอดเวลา 25 ปี อีกด้วย แต่น่าเสียดายที่ Mattie ได้จากไปก่อนวันเกิดปีที่ 14 ของเขาในปีพ. ศ. 2547 อดีตประธานาธิบดี Jimmy Carter ได้กล่าวคำสรรเสริญของเขา 

    Mattie คือเด็กชายผู้สร้างทั้งแรงบันดาลใจ และมอบความหวังให้กับเพื่อนๆ คนอื่นอีกมาก ทั้งจากชีวิตของเขา และผลงานที่เขาเขียนขึ้นเอง 




    หลังจากที่ได้เห็นหนุ่มๆ นับไม่ถ้วนถูกเสิร์ฟแห้วโดยเด็กสาวที่แสนน่ารักในสนามของโรงเรียน เด็กชายอายุเพียง 9 ขวบที่ชื่อ  Alec Greven คนนี้  ก็เลยเขียน How to Talk to Girls  หรือ กลวิธีพูดกับสาว ขึ้นมาในปี 2008 เพื่อเป็นคู่มือช่วยเหลือตัวเองสำหรับเพื่อน ๆ ของเขา แม้แต่เด็กที่โตกว่า ก็สามารถใช้ทักษะพื้นฐานนี้ตามคำแนะนำของเขาได้  หนังสือเล่มนี้กลายเป็นหนังสือที่ขายดีที่สุดของ New York Times ในหนังสือยังมีเทคนิคต่างๆ เสริมอยู่ด้วย เช่นการแปรงผม กวาดกางเกงขายาว ให้สะอาด และสิ่งสำคัญที่ห้ามลืมเด็ดขาด คือ อย่าหมดหวัง 

    Alec สร้างความสำเร็จของหนังสือเล่มแรกของเขาด้วยการติดตามเรื่องราวต่างๆ รอบตัวในชีวิต ไม่ว่าจะ วิธีพูดคุยกับพ่อ การพูดคุยกับแม่  แม้แต่ กฎระเบียบสำหรับโรงเรียน เป็นเด็กที่ทั้งเก่งทั้งช่างสังเกตจริงๆ นะ
     




    ทันทีที่ Christopher Paolini ได้รับประกาศนียบัตรจบการศึกษาชั้นจูเนียร์ไฮสคูลตอนอายุ 15 ปี เขาก็เริ่มเขียนนิยายเรื่องแรก Eragon พออายุ 18 ปี  นิยายก็ตีพิมพ์เป็นเล่มโดยสำนักพิมพ์ของพ่อแม่เขาเอง ก่อนเตะตาสำนักพิมพ์ใหญ่อย่าง Knopf  หนึ่งปีหลังจากนั้น Eragon ถูกจารึกในรายชื่อหนังสือยอดฮิตติดอันดับของ New York Times 

    Christopher เขียนหนังสืออีกสามเล่ม เพื่อทำให้ซีรีส์นี้สมบูรณ์  Eragon ได้ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ในปี 2006 และทำให้ Christopher ได้รับการยอมรับจาก Guinness World Records ว่าเป็นนักเขียนอายุน้อยที่สุด ที่มีหนังสือชุดภาคต่อขายดีที่สุด ด้วยยอดขายเกินกว่า 33 ล้านเล่ม (ปรบมือ)




    Alexander Pope  ได้รับการขนานนามว่าเป็นเด็กอัจฉริยะในด้านการเขียนมหากาพย์และการแปลตั้งแต่อายุยังน้อย ผลงานชิ้นแรกมีชื่อว่า Ode on Solitude  ถูกเขียนขึ้นตอนอายุ 12 ปี ซึ่งตอนนี้ถูกรวมเข้าไปอยู่ในชุดผลงานที่รังสรรค์โดยตัว Alexander Pope เมื่อวันที่ 21 English scribe ได้ตีพิมพ์ผลงานที่ชื่อว่า Pastorals ของซึ่งทำให้ Alexander Pope ได้รับการยกย่องและเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก 

    Alexander ยังคงเขียนผลงานออกมาจนกระทั่งจากไปในปีพ. ศ. 2287 งานของเขาถูกหยิบยกเป็นตัวอย่างใน Oxford Dictionary of Quotations มากที่สุด...แต่เป็นรองก็แค่ Shakespeare กับ Tennyson เท่านั้นเอง 




    คามจริงแล้ว ชีวิตส่วนตัวของ S.E. Hinton รักการอ่านมาก  แต่ไม่ค่อยปลื้มกับเรื่องราวที่มีอยู่ในหนังสือวรรณกรรมเยาวชน นั่นทำให้เธอเริ่มร่างเรื่องราวของหนังสือ Outsiders ช่วงแรกๆ ในขณะที่อายุแค่ 15 ปีแถมยังเรียนมัธยมอยู่เลยด้วย ตอนอายุ 18 ปี  เธอได้เข้าเรียนระดับวิทยาลัยเป็นช่วงเดียวกับที่หนังสือเล่มนี้ของเธอได้รับการยอมรับแบบสุดๆ จนทำให้เธอรู้สึกกดดันของชื่อเสียงที่ไม่เคยรับมือมาก่อน เธอตกอยู่ในภาวะ 'ตัน' เขียนอะไรไม่ได้กว่า 2 ปี ก่อนที่จะกลับมาเขียนอีกครั้ง 

    The Outsiders  เป็นผลงานที่เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จมากที่สุดของ Hinton จนถึงปัจจุบันหนังสือขายได้เกือบ 14 ล้านเล่มและยังมียอดขายต่อเนื่องกว่าห้าแสนเล่มในแต่ละปี ฝีมือไม่ธรรมดาเลยจริงๆ นะ




    ฝาแฝด Guptara เริ่มร่าง Conspiracy of Calypsia ผลงานชิ้นเเรกของพวกเขา ตอนที่อายุเพียง 11 ปี เท่านั้น และเมื่ออายุ 17 ปี นิยายเรื่องนี้ได้เข้าทำเนียบหนังสือขายดี

    พวกเขาหันมาจับงานเขียนแฟนตาซีครั้งแรกและประสบความสำเร็จกับนิยายไตรภาคหนากว่า 2,000 หน้า แถมคู่แฝดยังถูกจัดเป็นหนึ่งใน " 100 คนสำคัญชาวสวิส " จากนิตยสาร Schweizer Illustrierte  ปัจจุบันทั้งคู่ก็ยังคงเขียนงานชุดที่สองของหนังสือของพวกเขาอยู่จ้า




    Daisy Ashford โด่งดังจากหนังสือเรื่อง The Young Visiters ซึ่งตอนนั้นอายุแค่ 9 ขวบ แต่นั่นไม่ใช่หนังสือเล่มแรกที่เธอเขียน เพราะเอาจริงๆ แล้ว สาวน้อยคนนี้เริ่มเขียนตั้งแต่อายุ 4 ขวบเองจ้า! ในที่สุด ต้นฉบับของเธอก็ถูกตีพิมพ์ในปี 1919 ซึ่งคงภาษาและสำนวนแบบเด็กๆ ของเธอไว้

     JM Barrie ผู้เขียน Peter Pan ได้เขียนคำนำให้ เมื่อมันวางขายหลายคนเลยเข้าใจผิดว่าเขาเป็นคนเขียนเรื่องนี้




    Dorothy Straight เป็นเด็กสาววัย 4 ขวบที่แสนน่ารัก ในปีพ. ศ. 2505 เธอตัดสินใจที่จะเขียนหนังสือชื่อ the World Began เพื่อให้เป็นของขวัญสำหรับคุณยายของเธอ ผลปรากฎว่าพ่อแม่ของเธอชอบมากและดูท่าทางแล้วน่าจะไปได้สวย จึงหาสำนักพิมพ์ที่จะดูแลเรื่องตีพิมพ์ จนทั้งสองได้เจอ Pantheon Books เล็งเห็นว่ามันน่าจะประสบความสำเร็จ และตีพิมพ์ผลงานในปี 1964 ซึ่งขณะนั้น Dorothy ยังเป็นเด็กนักเรียนตัวน้อยวัย 6 ขวบอยู่เลย





    Christopher Beale วัย 6 ขวบเขียน This and Last Season Excursions รวดเดียวจบ ในช่วงพักกลางวัน เมื่อแม่ของเขาบอกให้เขาลองเขียน อะไรสักอย่างให้เธออ่าน 

    เรื่องราวผ่านตัวอักษร 1,500 คำ ใน 5 บท เกี่ยวกับเด็กชายและตุ๊กตายัดนุ่นของเขาเรื่องนี้ถูกจัดให้อยู่ใน Guinness World Record นักเขียนเด็กที่อายุน้อยที่สุดด้วยนะ สุดยอดยิ่งกว่าสุดยอดไปอีก




    ยากที่จะเถียงว่ายังมีนักเขียนอายุน้อยคนไหนที่งานเขียนทรงอิทธิพลต่อโลกได้มากกว่า  Anne Frank ผู้ซึ่งเขียนไดอารี่เกี่ยวกับความหวาดกลัวและการซ่อนตัวจากทหารของกองทัพนาซีที่ยึดครองเนเธอร์แลนด์ ไดอารี่ของเธอตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปีค.ศ. 1947 สองปีหลังจากที่เธอจากไปด้วยโรคไข้รากสาดใหญ่ในค่ายกักกัน ตอนอายุ 15  

    Diary of a Young Girl (บันทึกลับของ แอน แฟรงก์) คนนี้ ได้รับการยกย่องจากอดีตประธานาธิบดี John F. Kennedy รวมถึง Nelson Mandela และ Eleanor Roosevelt นอกจากนี้ยังได้รับการแปลมากกว่า 60 ภาษาไปทั่วโลก และถูกใช้เป็นสื่อการเรียนรู้ในห้องเรียนทั่วทั้งสหรัฐอเมริกาและต่างประเทศ 

    บันทึกของเธอถูกจดจำในฐานะที่สร้างแรงบันดาลใจให้คนสนใจเรื่องมนุษยธรรม เช่นที่เธอเคยเขียนไว้ว่า  "เหนือสิ่งอื่นใดในโลกนี้ ฉันยังเชื่อว่ามนุษย์นั้นมีความดีงามในหัวใจ" 


    เด็กๆ แต่ละคน เรียกได้ว่าถูกจารึกโดยประวัติศาตร์ ผลงานของพวกเข้าสร้างทั้งความน่าประทับใจ และสร้างทั้งแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่ได้อ่านผลงาน หรือผู้ที่กำลังมองหาความหวัง นี่เป็นสิ่งที่พิสูจน์ว่า อายุเป็นเพียงตัวเลขจริงๆ นะ ไม่ว่าจะตัวเล็ก หรือตัวใหญ่ เป็นเด็กน้อย เป็นคนที่โตแล้ว ขอแค่มีความฝัน หรือมีเรื่องที่ต้องการจะเขียน มินิมอร์เชื่อว่ายังมีคนรออ่านงานของเพื่อนๆ อยู่เสมอ อย่างน้อยก็มินิมอร์หนึ่งล่ะเอ้า! เพราะฉะนั้น สู้ๆ น้า :>




    เขียนโดย Minimore Trainnee : Little Swan
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in