จุดกำเนิดคีย์ลัดสุดเจ๋ง Ctrl+X, Ctrl+C และ Ctrl+V
ลอว์เลนซ์ เทสเลอร์ เป็นนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ ทำงานเกี่ยวกับ การปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และคอมพิวเตอร์ หรือ HCI (ใจเย็นๆ นะ อย่ารีบงง) คุณลุงเทสเลอร์เข้าทำงานกับบริษัท Xerox PARC บริษัทผู้คิดค้นเทคโนโลยีหลายอย่างที่เรากำลังใช้กันทุกวันนี้ อย่างเช่น เมาส์ เครื่องพิมพ์เลเซอร์ เครือข่ายอีเธอร์เน็ต (Ethernet ไม่เหมือน Internet นะจ๊ะ) คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล หรือ PC ระบบ GUI (การคลิกที่ไอคอนแทนการพิมพ์คำสั่ง) รวมถึงคีย์ลัดก็อปวางของเราที่กำลังจะเล่าถึงนี้ด้วยจ้าา
ตอนทำงานที่ Xerox PARC คุณลุงเทสเลอร์ทำงานเกี่ยวกับซอฟท์แวร์ชื่อ Gypsy และภาษาเขียนโปรแกรมชื่อ Smalltalk ก่อนได้มาร่วมงานกับ Tim Mott ทั้งสองคนช่วยกันพัฒนาซอฟท์แวร์ Gypsy ที่จะกลายมาเป็นโปรแกรมประมวลคำ หรือโปรแกรมใช้พิมพ์เอกสารระบบแรก (อย่างโปรแกรมไมโครซอฟท์เวิร์ดที่เราใช้พิมพ์รายงานนั่นเอง) การร่วมงานกันพัฒนาโปรแกรมพิมพ์เอกสารนี้เองที่ทำให้เกิดคำสั่ง Copy and Paste ขึ้น แต่คีย์ลัดชุดนี้ก็ยังไม่เป็นที่รู้จักกันอยู่ดี
อ่าว... แล้วมันมาถึงเราได้ยังไงนะ มาฟังกันต่อ
หลังจากทำงานที่ Xerox PARC ได้ 7 ปี คุณลุงเทสเลอร์ก็ย้ายมาทำงานกับบริษัท Apple ที่เรารู้จักกันดี คุณลุงเทสเลอร์เข้าทำงานด้านคอมพิวเตอร์เช่นเดิม และความสามารถสุดเจ๋งของคุณลุงนั่นเองที่ทำให้ได้รับตำแหน่งสำคัญมากมาย อย่างรองประธานของ AppleNet หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ และรองประธานกลุ่มเทคโนโลยีขั้นสูง และที่บริษัท Apple นี่แหละที่ทำให้ชุดคำสั่ง ตัด-ก็อป-วาง สุดเจ๋งของคุณลุงเทสเลอร์ได้ออกสู่สาธารณะ!
คุณลุงเทสเลอร์อยู่ในกลุ่มพัฒนาคอมพิวเตอร์ชื่อว่า Lisa และได้ร่วมพัฒนาระบบ Macintosh ของ Apple ที่เราเรียกกันว่า Mac นั่นเอง (ต้นกำเนิดของคอมพิวเตอร์ตระกูล Mac ทั้งหลาย) ซึ่งตอนนี้นั่นเองที่คำสั่ง ตัด-ก็อป-วาง ได้ถูกนำมาใช้จนเป็นที่รู้จัก โดยระบบดำเนินงาน Lisa และระบบ Mac ได้นำคำสั่ง Cut-X, C-Copy และ V-insert ไปใช้ ต่อมาคำว่า Insert ได้เปลี่ยนเป็นคำว่า Paste แทน เมื่อคีย์ลัด Ctrl+V ถูกนำมาใช้ในการทำงานกราฟิกด้วย จึงเปลี่ยนเป็นคำว่า Paste (วาง) แทนคำว่า Insert (แทรก) และไม่นานคีย์ลัดชุดนี้ก็ถูกนำมาใช้กับระบบคอมพิวเตอร์ Windows และคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในตลาด จนกลายเป็นที่นิยม และก่อประโยชน์แก่ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ทั่วโลกนั่นเองง
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in