ฉันมาถึงที่นี่ด้วยใจอันปรารถนาและไม่ปรารถนา
หนึ่ง ความปรารถนาที่จะมาถึงที่นี่นั้นเกิดขึ้นเองโดยอัตโนมัติ
สอง แม้ว่าฉันจะไม่ปรารถนาที่จะเดินทางมายังจุดหมายปลายทางนี้อันต้องผ่านเส้นทางยาวไกลที่ทิ่มแทงทั้งร่างกายและหัวใจ
อย่างไรก็ตามฉันก็ได้มาถึงแล้ว
พูดกันถึงความปรารถนา ความมืดเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ฉันไม่เคยคิดว่าจะปรารถนา แต่มาบัดนี้ความมืดได้กลายเป็นเพื่อนแท้คนหนึ่งของฉันไปเสียแล้ว เพราะหลังจากที่ฉันสูญเสียการรับรู้บางอย่าง แสงสว่างก็ได้จากฉันไป
…ไม่ใช่ทั่งหมด
แต่หมายถึงแสงสว่างบางอย่างที่ฉันพึงมีและจะมีในฐานะของผู้ดิ้นรนคนหนึ่ง
แสงสว่างในยามกลางวันนั้นส่องแสงจ้าเกินไปจนฉันไม่อาจรับรู้ได้ว่าแสงสว่างใดกันแน่ที่เป็นของฉันหรือที่ฉันปรารถนา แต่ในยามกลางคืน มันเป็นเวลาที่โพรงเล็กๆจะปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับแสงสีส้มเรืองรองอ่อนๆส่องสะท้อนไปทั่วผนังของโพรง ในยามนี้ความมืดได้ทำให้แสงสว่างเท่าที่จำเป็นจะมีปรากฏขึ้น ในความมืดมิดแห่งโพรงนี้ การรับรู้ของฉันเพียงพอที่จะรับรู้ได้ถึงความปรารถนาแห่งค่ำคืนนั้นว่าแสงดวงใดกันที่ฉันพอจะมองเห็นได้ถนัดตาและอาจจะไขว่คว้าได้ถ้าพยายาม
ตัวฉันเองนั้นมีความย้อนแย้งอยู่ในตัวหลายอย่าง ที่เห็นชัดเจนที่สุดคงจะเป็นความปรารถนาอันไม่ปรารถนาเหล่านั้น ในระยะหลังมานี้เองที่ฉันเริ่มรู้สึกได้ถึงวิญญาณหลอกหลอนที่มีชื่อว่า "ความลำพัง"
"ความลำพัง" เพิ่งปรากฏตัวขึ้นเมื่อไม่นานมานี้อย่างไม่มีสาเหตุ
หากให้ฉันเดาคงเป็นเพราะทำเลที่ทางที่ฉันย้ายเข้าไปอาศัยอยู่นั้นไม่ถูกต้องตามลักษณะบางอย่าง มันเป็นโพรงทรงสี่เหลี่ยมที่ต่อกันเป็นหลายๆชั้นและไม่มีเสียงสะท้อนก้องถึงกันจากโพรงข้างๆ วิธีการเดียวที่จะได้ยินเสียงสิ่งมีชีวิตอื่นคือต้องมีสิ่งมีชีวิตอื่นนอกจากฉันร่วมอาศัยอยู่ในโพรง
แต่หากจะให้ฉันเลือก การเป็นเจ้าของแสงสว่างเพียงดวงเดียวในโพรงตามลำพังก็ดูจะไม่ได้แย่นัก เพราะหากอยากฟังเสียงสิ่งมีชีวิตอื่นๆในยามค่ำคืน เจ้าของโพรงก็แค่ทำเสียงให้กระทบกับฝาผนังฟังเสียงสะท้อนของลำพังที่ส่งกลับมา
โรแมนติกเหลือแสน ไม่ต่างอะไรเลยกับการส่งโปสการ์ดปีใหม่สักใบถึงตัวเอง
'ลำพัง' มาเยี่ยมฉันเสมอ ฉันจึงอาจจะไม่ค่อยเหงาสักเท่าไรแม้ว่าจะเหงามากมาย 'ลำพัง' เป็นเพื่อนกับ 'โดดเดี่ยว' 'เดียวดาย' และ 'โศกเศร้า' ฉันเกลียดโดดเดี่ยวกับโศกเศร้าที่สุดเพราะมันสามารถมาเยี่ยมเยียนเราได้แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในโพรงคนเดียว มีหลายครั้งที่ฉันยืนอยู่ท่ามกลางวงล้อมของผู้คน ในท่ามกลางเสียงหัวเราะอันอึงอลนั้นโดดเดี่ยวก็โผล่ออกมาจากมุมไกลๆ โบกมือยิ้มให้ฉันอย่างทักทายฉันพยักเพยิดบอกมันว่า
/ออกไป อย่าเพิ่งมายุ่งน่า/
แล้วมันก็จะหัวเราะคิกคัก
ตอนนั้นที่โศกเศร้าจะกระโดดกอดฉันเข้าจากข้างหลัง จู่โจมฉันจากรอบข้างอย่างไม่ทันรู้ตัวราวกับนัดไว้อย่างดีแล้วกับโดดเดี่ยว ตอนนั้นเองที่ฉันจะรำคาญ..มาก..จนต้องแกล้งมองไม่เห็นพวกมัน
ในช่วงนี้เป็นช่วงปลายปีอีกสองสามวันจะเดินทางเข้าสู่ปีใหม่ อากาศเหน็บหนาวและลมปลายปีปะทะเข้ากับความอบอุ่นจากช่วงเวลาที่แสนสุขที่สุดแห่งปี ฉันสัมผัสได้ว่าโศกเศร้าอารมณ์เสียกว่าเดิมขึ้นมากและมันเริ่มกลั่นแกล้งฉันอย่างไร้กาลเทศะมากขึ้น
ล่าสุดโศกเศร้าและพวกยกขบวนกันตามฉันกลับมากลั่นแกล้งที่บ้านทั้งที่มันเป็นช่วงเวลาที่ฉันปรารถนามากที่สุดแห่งปี…ซึ่งตอนนี้อาจจะเริ่มพูดได้ว่า…เกือบจะเคยปรารถนามากที่สุดแห่งปี
…หากพวกมันยังคงติดตามฉันอยู่
ตอนนั้นเป็นตอนที่พ่อหรือแม่หรือใครสักคนที่บ้านโอบรัดฉันไว้ ปกติแล้วแสนสุขจะวิ่งออกมากระโดดกอดฉันตอนนี้และกอดแน่นมากๆโดยเฉพาะหากฉันเพิ่งกลับบ้านหลังจากการเดินทางอันแสนยาวไกล
แต่ครั้งนี้โศกเศร้าจับเอาแสนสุขไปมัดไว้ที่ไหนก็ไม่รู้
พวกมันล้อมรอบตัวฉันในวงนอกของอ้อมกอดนั้นโศกเศร้าหายไป ฉันรู้สึกเจ็บแปลบๆตามลำตัว..โศกเศร้าไม่ได้หายไปไหนมันกำลังกระโดดขึ้นขี่หลังฉัน…อย่างสนุกสนาน…แต่ฉันกลับไม่รู้สึกสนุกด้วยเลย
อย่างไรก็ตามลำพัง โดดเดี่ยว เดียวดายและโศกเศร้า ค่อยๆกลายมาเป็นเพื่อนอันแสนร้ายกาจของฉันมากขึ้น พวกมันเหมือนผูกฉันติดไว้กับเสาสักต้น บังคับกรีดเลือดสาบานความเป็นพี่น้องกันอย่างเลี่ยงไม่ได้ ฉันเคยคิดว่าทุกอย่างนั้นเป็นเพราะโพรง แต่ตอนนี้ฉันเริ่มสับสนแล้วว่ามิตรภาพอันแสนเลวทรามนี้เริ่มต้นขึ้นมาตั้งแต่ตอนไหน ฉันไปติดเชื้ออะไรมาตอนที่ถือกำเนิดหรือ?
ในช่วงเวลาของปีเก่าที่กำลังผ่านพ้นไป ฉันไม่คิดเลยว่าฉันจะต้องเดินทางมายังที่นี่อีกครั้ง…เพื่อสื่อสารบางอย่าง…ท่ามกลางอากาศอันปลอดโปร่งบริสุทธิ์ เหล่านักเดินทางที่โลกหมุนให้วนกลับมาที่บ้านและแสงไฟสีส้มอันเรืองรองกลับยิ่งทำให้ฉันรู้สึกชิงชังและสับสนต่อความเอาแต่ใจของพวกเพื่อนปรสิตพวกนี้
ตอนนี้ ฉันปรารถนาโพรงที่ฉันไม่ใฝ่ฝันจะปรารถนาอีกครั้ง เพราะหากว่าการอยู่คนเดียวในโพรงจะทำให้ฉันต้องวิ่งเล่นกับเจ้าพวกนี้ มันก็ยังดีกว่าการอยู่ท่ามกลางช่วงเวลาอันแสนสุขโดยมีฉันที่รู้สึกทุกข์จากการโดนกลั่นแกล้งอยู่คนเดียวเสียอีก
ทำไมฉันไม่บอกใครสักคนน่ะหรือ? หากคุณรู้สาเหตุของการเดินทางมายังที่นี่ คุณก็จะเข้าใจ แต่เพราะคุณไม่มีทางเข้าใจจนกว่าคุณจะได้เข้าใจด้วยตัวเองจริงๆ จนกว่าจะถึงตอนนั้นคุณถึงไม่มีวันที่จะเข้าใจ…ไม่มีวันที่จะเข้าใจได้เลยว่าการพยายามเปล่งเสียงออกไปแต่ไม่มีเสียงนั้นมันเป็นอย่างไร หรือที่แย่เสียกว่าคือการที่คุณเปล่งเสียงออกไปแต่แล้วกลับไม่มีใครรับฟัง..รับฟังไม่ใช่แค่ได้ยิน…แต่ถึงอย่างนั้นอย่าว่าแต่คำว่าได้ยินเลย พวกเขาไม่ได้ยินเสียงตะโกนของฉันด้วยซ้ำ…เพราะความสุขนั้นโอบรัดพวกเขาอยู่
คุณบอกว่าคุณไม่มีความสุขอย่างนั้นหรือ?
คุณไม่มีทางรู้ได้หรอกว่าแสนสุขเคยเป็นเพื่อนสนิทกับคุณจนกว่าจะถึงวันที่มันหายไป
แล้วคุณก็จะเคว้งคว้าง อ้างว้าง เฝ้ารอให้ลำพังและเพื่อนๆโผล่ตัวขึ้นทักทาย เมื่อใดก็ตามที่คุณเผลอตกหลุมพรางของมัน…มันจะก่อกวนคุณ…ในโพรงนั้น…โพรงที่ข้างในจิตใจของคุณ ….เล่นกับแสง….กับเงา….กับส่วนที่เว้าแหว่งของคุณ…บีบ รัด เหยียบ ขยำ ขย้ำ ราวกับหัวใจของคุณนั้นเป็นของเล่น…เป็นบ้าน…ที่มันจากมานานแสนนาน…หลังจากการครองครองของแสนสุข ของตามธรรมดา…และการแก้แค้นเริ่มต้นขึ้นพร้อมกับน้ำตา พร้อมกับเสียงสะอื้นเงียบๆ พร้อมกับการทำลาย ทำร้าย ให้คุณตาย…จนกว่าจะตาย
นั่นแหละ…เรื่องราวเหล่านั้น…คือจุดเริ่มต้น..และระหว่างทาง…ของการมายังที่นี่โลกที่ฉันจะสามารถเปิดเผยบางสิ่ง เปล่งเสียงอันไร้พลังและรับฟังลมหายใจอันเบาบางของตัวเอง
ที่นี่คือที่นั่น….บางที่หรือบางคนที่พร้อมจะรับฟัง
ได้ยินเสียงหยดน้ำตาของฉันไหมล่ะ…ที่ไหลช้าๆ เป็นต้นธารของตัวอักษรเหล่านี้…ฉันได้ยินเพราะคนใกล้ตายมักกระหายหาชีวิต…เช่นเดียวกับสิ่งมีชีวิตที่ต้องการน้ำ…เพียงแต่น้ำตานั้นอาจจะมีรสขม…แต่มันก็เป็นโอเอซิสแห่งเดียวในใจกลางทะเลทรายอันเวิ้งว้างนี้…ที่จะชุบชีวิตได้
บอกฉัน…พวกคนที่กำลังหัวเราะน่ะ ว่าบางครั้งคุณก็เห็นเหมือนฉันใช่ไหม…เหมือนในอ้อมกอดของคุณที่ฉันเห็นมัน…และในอ้อมกอดของฉัน คุณเคยเห็นมันใช่ไหม?
จับมือฉันสิบอกฉัน ในเวลาอันสับสนเหล่านี้….ว่าคุณก็มีโพรงเหมือนกันกับฉันใช่หรือไม่ ว่าคุณไม่ได้แตกต่างและฉันก็ไม่ได้แปลกแยก เรามีเพื่อนคนเดียวกัน…แล้วเราจะเป็นเพื่อนที่เข้าใจกัน..ได้ไหม
ฉันมาถึงที่นี่…พร้อมกับความลับ..ที่ไม่เคยอยากเก็บงำเอาไว้…เพียงแต่ไม่รู้ว่าหากพูดออกไป…โลกจะหัวเราะเยาะและเหยียบย่ำฉันอีกหรือไม่
ฉันมาถึงที่นี่…ด้วยจริงใจและเปิดเผย…ด้วยอ้อมกอดอันเหวอะหวะจากห่ากระสุนของความระทมอันหาสาเหตุไม่ได้…ด้วยหวังว่าหากความลับไม่เป็นความลับ…พวกมันจะหายไป…ในอ้อมกอดของฉันที่มีต่อโลก..และโลกจะโอบกอดฉันบ้างได้ไหม
ฉันมาถึงที่นี่…ดูสิว่าฉันทั้งปรารถนาและไม่ปรารถนาเพียงไหน
และไม่ได้หวัง
อะไร
นอกจาก
เธอ
เข้าใจ
(ช่วยมอบโอบกอดที่ทำให้ฉันกลับมารู้สึกบ้างจะได้ไหม)
เขียนเมื่อ 27/12/2017
เพื่อเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่รู้สึกหรือเคยรู้สึกแบบเดียวกัน...เราไม่ได้เดียวดาย
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in