แต่ถ้าใครไม่อยากซื้อเยอะ แต่ก็อยากเดินเล่นอะ! มินิมอร์ก็แนะนำให้ไปนะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนชอบปกหนังสือสวยๆ ในงานนี้ได้เห็นปกหนังสือดีงามจากหลายประเทศเลย ที่บอกว่าหลายประเทศเพราะบางเล่มเป็นเรื่องเดียวกัน แต่พิมพ์มาจากคนละโรงพิมพ์ เลยมีการทำปกต่างกันออกไป สวยเก๋ไปคนละแนว มินิมอร์เห็นแล้วต้องตาต้องใจอันไหน ไปดูกันได้เลย

คอนเซปต์เดิม พูดถึงแต่ปก เนื้อหาเราจะไม่โฟกัสมาก แต่ถ้าบางเรื่องเนื้อหาน่าสนใจก็จะบอกน้า

หนังสือ Magical Story อยู่ในหมวด Classic Treasury คือรวมเรื่องเล่าต่างๆ นั่นล่ะ มีเรื่องของเจ้าหญิง มีเรื่องราวของพวก Fairy แต่ที่มินิมอร์หยิบเล่มนี้มา เพราะชอบสีม่วง! (อันอื่นสีจัดไปหน่อย อันนีี้ยังพอจะพาสเทลบ้าง) ใครมีหลานๆ ชอบเรื่องเล่านิทานพวกนี้แนะนำนะ

White Dog Fell from the sky มินิมอร์ชอบเล่มนี้เพราะการใช้สีล่ะ สามสีเอง น้อยมาก แล้วเน้นที่ Typography เหมือนฝีแปรงของพู่กัน ปกติมินิมอร์ไม่ชอบสีส้มเท่าไหร่ แต่สีส้มเล่มนี้ให้ความรู้สึกเหมือนอิฐมอญส้มๆ อบอุ่นดีนะ และถ้าให้ตรงใจกว่านั้นเหมือนชาครามือใส่นมเยอะๆ...เป็นลาเต้ชาไทย *นี่หิวเหรอ* 

 

Ghostly มินิมอร์ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับอะไร (บอกแล้วว่าดูแต่ปก) แต่ชอบเส้นสายที่รกรุงรังสีขาวๆ ในภาพมาก มันได้ความรู้สึกเหมือนเป็นสายหมอก ดูลึกลับเนอะะะ แต่พอพิมพ์ฟอยล์ทองแดงลงไป ทำให้รู้สึกว่าเฮ้ย มันต้องมีเรื่องเหนือธรรมชาติแน่ๆ ใครจะทำหนังสือลองดูๆ เป็นไอเดียได้นะ ว่าพิมพ์ฟอยล์ไม่จำเป็นต้องใช้เฉพาะฟอนท์เท่านั้น มันทำอะไรได้อีกเยอะเลย  แต่วางภาพสวยๆ พิมพ์ฟอนท์ฟอยล์ก็ไม่เลวนะเธอ หูวว สวย

นี่อยากลองให้เพื่อนๆ จับสังเกต ว่าถ้าเป็นนิยายแต่ละประเภท เขาจะมีสไตล์การใช้สีทำปกต่างออกไป อย่างนิยายที่... 18+ (ไม่ใช่หนังสือปกขาว แต่เกี่ยวกับเรื่องอีโรคติค) ก็จะมีการใช้สีโทนขาว ดำ เทา (แหม นึกถึงคุณเกรย์ 50 เฉด นั่นคนหรือจะคาลิเบรทจอ) ปกเหล่านี้อาจจะแซมแดงหรือน้ำเงินมาบ้าง แต่เป็นสัดส่วนน้อย นี่ก็เป็นสไตล์เหมือนกัน ใครเจอปกนิยายอีโรคติคสีพาสเทลวานบอก

พอมาดูนิยายของสาวสมัยใหม่ ที่เป็น pop culture จ๋าๆ หรือที่เรียกกันว่า chiclit สีสันจะต่างออกไปเล้ย มีการใช้สีสันที่สดใสขึ้น พาสเทลก็มี แต่หลักๆ คือเน้นสีปังไว้ก่อน ห่างไปสิบหลาสีกระแทกตาแม้ยังไม่รู้ว่าอะไร ก็สดใสตามเนื้อหาหนังสือเลยเนอะ

อันนี้ก็คลาสสิคมาก เป็นวรรณกรรมระดับโลกที่หลายคนรู้จักดี เอามาพิมพ์แบเดียวกันเป๊ะ คือพอวางเรียงกันแล้วมีความอลังการ มีความขลัง เสริมความเด่นด้วยตัวอักษรทองบนปกหนัง

อย่างที่บอกไปว่าหนังสือเรื่องเดียวกันก็อาจจะมีหลายปกได้ อย่างเชอร์ล็อค โฮล์ม นี่ก็เหมือนกัน ปกนี้ใช้ลายแบบผ้าสูทเป็นพื้น แล้วใช้รูปที่เป็นเงา sillouhette ของเชอร์ล็อคไว้บนปก แบบว่าเห็นเงานี้แหละต้องเป็นสุดยอดนักสืบแห่งถนนเบเกอร์สตรีทแน่ๆ แล้วดูราคาสิ ราคาาาา /ปาดน้ำตา เดี๋ยวมินิมอร์จะไปซ้ำและซื้อแน่นอน

หนังสืออีกพวกที่ปกสวยเก๋ไก๋มากคือสายดีไซน์ คือจะขายเรื่องความงามและไอเดียข้างในปกก็ต้องสวยอยู่แล้ว ในงานมีหนังสือสายนี้เยอะมาก ดูกันเพลิน แต่มินิมอร์ถ่ายมาไม่หมดล่ะ มีสวยกว่านี้อี๊กกกก

อย่างเล่มนี้พูดถึงประวัติศาสตร์การแพทย์ (ก็คงไม่ละเอียดเท่าตำราแพทย์หรอก) คือสมัยก่อนคนก็งมไปเรื่อย ทดลองไปเรื่อย ยังไม่ได้เจออะไรชัดเจนเท่าตอนนี้ เพราะสมัยนี้เราก็พัฒนาวิทยาการต่างๆ มาจากช่วงนั้นแหละนะ ปกที่เอาหัวกะโหลกไว้บนหนังสือนี่สอดคล้องกับชื่อเลย Kill or Cure ฆ่าหรือรักษา

ในงานยังมีหนังสือปกสวยๆ อีกเยอะ ถ้ามินิมอร์มีโอกาสไปซื้อหนังสืออีกหนหลังร่ำรวยก็จะเอามาฝากกันจ้ะ (ซึ่งวันนี้ไม่ถูกหวย เพราะไม่ได้เล่นไง) นี่ไปเจอมาจาก facebook page : Big Bad Wolf Books เลยเอามาให้ดูกันอีกนิดหน่อยจ้ะ เกณฑ์การเลือกก็คือ.....ที่มินิมอร์ชอบ *ขวยเขิน*

เซ็ทของโรอัล ดาห์ล เหยยยย คือน่าเก็บมากกก สีสันสวยสดใส เก็บไว้อ่านเองเล่นๆ หรือให้ลูกให้หลานอ่านได้เลยนะ แต่เผลอๆ เพื่อนๆ หลายคนอาจจะซื้อเก็บเองก็ได้ ก็เราโตมากับงานของเขานี่นา

บอกตรงๆ ชัดๆ ชอบการเรียงเป็นสเป็คตรัมน่ะ...

มีใครเคยไปซุกในตู้เสื้อผ้าเพราะหวังจะไปนาร์เนียบ้าง อินเดียที่เต็มไปด้วยสัตว์พูดได้ คนแคระ แม่มด และความดีงามที่อาจจะล่มสลายได้ทุกเมื่อ ผลงานของ C. S. Lewis ที่สนุกนะ และกลายเป็นหนังไปแล้วด้วย ภาค 4 เพิ่งประกาศออกมาว่าจะสร้างต่อ แม้จะเปลี่ยนค่ายก็เถอะ 

ส่วนเล่มนี้เป้นการรวมปกนิตยสาร National Geographic นิตยสารสารคดีชื่อดังระดับโลก และมีชื่อด้านฝีมือของตากล้องในสังกัด ที่สามารถถ่ายทอดเรื่องราวผ่านภาพถ่ายได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคน สัตว์ หรือสิ่งของ ซึ่งมินิมอร์ได้เปิดดูเหมือนกัน มีเรื่องราวเบื้องหลังแต่ละปกด้วยนะ ส่วนปกตรงกลางที่เด่นๆ เรียกว่าเป็นปกที่เด่นที่สุดและเป็นที่จดจำที่สุดของ NG ก็ว่าได้ เพราะเป็นภาพหญิงสาวที่มีดวงตาดึงดูด และอยู่ในประเทศซึ่งมีภาวะสงคราม หลังจากนั้นหลายปีมีคนตามหาด้วยว่าเธอเป็นอย่างไรบ้างแล้ว 

ขอบคุณภาพจากเพจ Big Bad Wolf Books อีกทีจ้ะ

แต่ไม่ใช่แค่มีมินิมอร์คนเดียวที่ไปงานนี้ ยังมีเพื่อนๆ Minimore Makers ของเราไปเที่ยวในงานอีก อย่างคุณ Silapa Junior ซึ่งเล่าเรื่องความสูญเสีย(เงินทอง)ของคนในงานไว้อย่างสนุก ลองไปดูกันว่ามีหนังสืออะไรที่แนะนำบ้าง