ลองนึกภาพตัวเองยืนในน้ำทะเลดู ไม่ใช่น้ำทะเลที่เกยขึ้นมาตื้นถึงแค่ข้อเท้าหรือลึกจนหัวไม่สามารถพ้นน้ำ แต่ลึกแค่ระดับเหนือเข่านิดๆ ระดับนี้ยังเดินได้สบาย ยังไม่รู้สึกถึงความหนักของน้ำทะเล
ฉันว่าความรู้สึกของคนเรานั้นถูกเซ็ตไว้ที่อารมณ์ดี พระอาทิตย์ส่องมาที่เราดังเช่นเคย เรายังยืนอยู่ในน้ำได้โดยที่ไม่ล้ม ลองเปรียบความเศร้าเป็นคลื่นที่ซัดสาดเข้ามาใส่ตัวของเราดู คลื่นมันซัดเข้ามาใส่เราตลอดเวลา แต่มีเพียงบางครั้งเท่านั้นที่ซัดแรงจนตัวของเราล้ม ฉันเชื่อว่าที่ฉันเศร้าฉับพลันบ่อยๆ แบบนี้เป็นเพราะว่าตัวเองเจอคลื่นลูกใหญ่บ่อยกว่าที่คนอื่นเจอ ก็แค่นั้นเอง แล้วอะไรล่ะเป็นสาเหตุที่มันเข้ามาบ่อยๆ ไม่มีใครอยากโดนคลื่นซัดจนล้มบ่อยๆ หรอกนะ ถ้าไปเที่ยวทะเลมันคงหมดสนุกพอดี
ฉันเชื่อว่าอาการไบโพลาร์ไม่เหมือนการโดนคลื่นซัด เวลาแฮปปี้สุดๆ มันเหมือนตัวเราเดินขึ้นหาด ตัวไม่สัมผัสน้ำ ส่วนเวลาเศร้าสุดๆ เหมือนคนที่จมอยู่ในน้ำลึกจนแทบขาดออกซิเจนใช้หายใจ อารมณ์คนเป็นโรคนี้ก็จะวนเวียนอยู่ระหว่างสองสถานะนี้ เดี๋ยวเดินขึ้นบก เดี๋ยวจมน้ำ
ขึ้นบก
จมน้ำ
ขึ้นบก
จมน้ำ
ดูเหมือนคนไม่ปกติใช่ไหมล่ะ
ก็ใช่ ไม่ปกติไง เข้าใจหรือยังว่าทำไมฉันถึงคิดว่าอารมณ์แปรปรวนมันถึงไม่เหมือนอาการของคนที่เป็นไบโพลาร์?
ทะเลความรู้สึกของคนแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางที่สงบนิ่งไม่ค่อยมีคลื่น บางที่คลื่นแรงโหมกระหน่ำเข้ามาเกือบทุกนาที ตัวฉันเพียงแค่อยากให้ทะเลของฉันสงบกว่าที่เป็นอยู่ มันก็แค่นั้น.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in