"สิ่งสำคัญกว่าการรีบร้อนไปให้ถึงจุดหมาย คือการถามตัวเองให้แน่ใจว่า 'จุดหมาย' ที่ว่านั้นคือปลายทางที่เราอยากไปจริงๆ หรือเปล่า หรือมันเป็นแค่เส้นชัยที่ใครๆ ต่างก็มุ่งหน้าไปทางนั้น
อย่าได้เผลอถูก 'คนส่วนใหญ่' ดึงดูดไปในทางที่ 'ใครๆ เขาก็ไปกัน'
ถ้าชอบก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าไม่ คงเสียเวลาและแรงพลังฟรีๆ
ความรีบร้อนมักทำการไตร่ตรองตกหล่นระหว่างทาง ช้า-มีเวลาถามใจตัวเองว่า
ถ้าไม่ฟังเสียงที่คนอื่นให้คุณค่า ตัวเราจริงๆ อยากมุ่งหน้าไปทางไหน
จุดหมายของเราอาจไม่ตรงกับทางที่คนจำนวนมากมุ่งไปก็ได้
อย่าถูก 'ความสำเร็จสาธารณะ' หลอกใจ
อย่าถูก 'ความรีบสำเร็จ' หลอกตา
ความสำเร็จที่ไม่ต้องการจริงๆ อาจนับเป็นความล้มเหลวประเภทหนึ่ง
แต่ถ้าพูดในแง่ดี ทั้งหมดนั้นคือกระบวนการทำความเข้าใจตัวเอง
กระนั้น เมื่อรู้ตัวและรู้ใจตนก็ควรเลือกเส้นทางที่อยากเดิน
เดินไปบนเส้นทางที่พาไปสู่จุดหมายของเราอย่างเงียบเชียบ เนิบช้า ค่อยเป็นค่อยไป
เหมือนนักเดินทางผู้มุ่งมั่นและรู้ใจตนซึ่งเดินลัดเลาะไปบนเส้นทางเงียบๆ สู่สวนดอกไม้เล็กๆ
ที่น้อยคนรู้จัก ระหว่างที่คนจำนวนมากกำลังปีนป่ายขึ้นยอดเขา
อย่าได้เผลอปีนป่ายยอดเขาที่เราไม่อยากปีน" - นิ้วกลม
หลังจากที่ได้อ่านสเตตัสนี้ในเพจนิ้วกลม นักเขียนในดวงใจของเรา แล้วก็อดที่จะกด "เลิฟ" ให้ไม่ได้
และก็เป็นอะไรที่ดลใจให้เราอยากเขียนอะไรบางอย่างในวันนี้ ตอนนี้ กลางที่ทำงานนี่แหละ 555+
เช้านี้มีอะไรบางอย่างที่แตกต่างจากเช้าวันอื่นๆ ที่ตื่นขึ้นมา เพราะว่าประโยคแรกที่แล่นเข้ามาในหัวคือ
"เราจะเป็นแอดมินตลอดไปไม่ได้นะ" สั้นๆ แต่ความรู้สึกมาเต็มตั้งแต่เช้า คำถามเต็มหัว
"เรากำลังทำอะไรอยู่ที่นี่วะ?" // นั่นดิ ถามใจดู
ในที่ที่ไม่มีคนให้งาน
ในที่ที่ไม่มีคนสอนงาน
ในที่ที่ไม่ได้ให้ความรู้สึกว่าเป็นครอบครัว แบบที่บิวท์หนักมากในวัน Orientation
ในที่ที่คนที่ชวนเรามาทำไม่อยู่แล้ว
ในที่ที่เรารู้สึกว่ากำลังเป็น "คนไม่จำเป็น" // ก็ต้องเดินจากไป #ท่ดๆ
ใช่ เหตุผลหลักที่ทำให้เราย้ายงานมาที่ปัจจุบันนี้คือ "เงิน" ที่มากกว่าที่เดิมหลายพันบาท
และทำงาน 5 วัน (ที่ก่อนหน้านี้ทำงาน 6 วันและงานแบบ multitask สุด) แต่สนุกกว่าที่ปัจจุบันเยอะ
ในขณะที่เราเครียดว่าอนาคตและหนทางของเราข้างหน้าจะเป็นยังไงถ้ายังทำอยู่ตรงนี้ ในระยะยาว
แม่ก็มักจะบอกว่า "อยู่ตรงนี้ก็สบายดีออก เงินก็ดีด้วย อย่าออกเลย อยู่ไปก่อน..."
ก็เลยต้องย้อนกลับมาถามตัวเองอีกครั้ง แล้วเราต้องการอะไรกันแน่?
งานที่ดีของแม่ หรือของคนรุ่นพ่อรุ่นแม่ หรือรุ่นพี่ (บางคน) คืองานสบายๆ มีเงินเก็บ
นี่ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว ก็คือเป็นความสำเร็จสำหรับคนส่วนใหญ่ "ความสำเร็จสาธารณะ"
นี่เราหลงเข้ามาในโซนความสำเร็จสาธารณะแล้วใช่ไหม?
ถ้านี่คือสิ่งที่เราต้องการจริงๆ ทำไมเราไม่มีความสุขเลย?
ทำไมเช้ามาเราไม่ค่อยอยากจะตื่นไปทำงาน ขุดตัวเองออกจากเตียงก็ยากขึ้นทุกวัน ?
กลายเป็นคนขี้เกียจไปซะแล้วเหรอเรา...?
ตัดกลับไปที่สเตตัสด้านบน
"ความสำเร็จที่ไม่ต้องการจริงๆ อาจนับเป็นความล้มเหลวประเภทหนึ่ง แต่ถ้าพูดในแง่ดี ทั้งหมดนั้นคือกระบวนการทำความเข้าใจตัวเอง กระนั้น เมื่อรู้ตัวและรู้ใจตนก็ควรเลือกเส้นทางที่อยากเดิน"
โอเค ตอนนี้รู้แล้วว่าที่นี่ไม่ใช่ การทำงานแอดมินไม่ใช่ อยู่ไปก็ได้มาแค่เงิน แต่ไม่ได้สกิลหรือความรู้
หรืออะไรที่จะช่วยพัฒนาตัวเราให้เก่งขึ้นได้ เราก็คงต้องหาโอกาสไปจากที่นี่และเลิกยื่นแอดมินได้แล้ว
แต่คงไม่ลาออกโดยที่ไม่มีอะไรรองรับหรอกนะ
ไว้ให้ได้ที่อื่น ที่เงินเดือนพอๆกับที่นี่ หรือไม่น้อยกว่าที่ปัจจุบันเกินไป
ให้พอมีส่งที่บ้าน ส่งตัวเองเรียนอะไรเพิ่มเติม ส่งตัวเองเที่ยว ส่งตัวเองให้เยียวยาความฝันต่อไปได้
และได้กลับไปทำอะไรที่เป็นงานกฎหมาย ก็คงโอเคกว่านี้มั้ง
ถามว่าเบื่อมั้ยกับการย้ายงานบ่อย เปลี่ยนงานแทบทุกไตรมาสเลยนะเนี่ย 555 เบื่อ เบื่อมาก
อยาก settle down แต่ก็ยังรู้สึกว่าไม่เจอสักที และไม่รู้จะเจอไหมในชีวิตนี้
รู้สึก lost เล็กน้อยถึงปานกลาง ก็คงทำได้แค่ตามหางานและออฟฟิศที่ใช่ต่อไป
อาจจะไม่ตรงตามทุกอย่างเป๊ะเพราะไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ เราเองก็ต้องปรับตัวเราเองด้วยเหมือนกัน
อย่างน้อยก็ขอให้ได้เจอที่ที่ใกล้เคียงคำว่าใช่ที่สุดก็แล้วกันนะ
และนี่ก็คือสิ่งที่มหา'ลัย ไม่ได้สอน และสอนไม่ได้ด้วย
เราต้องเรียนรู้และพาตัวเองเข้าไปหาโอกาสเอง ว่าสไตล์การทำงาน เนื้องานหรือสโคปงานที่อยากทำและที่เราทำได้ดีคืออะไร เรามีสกิลอะไรพิเศษบ้าง ? ซึ่งจะนำมาสู่การเป็นจุดขายของเราในเรซูเม่
เราชอบเพื่อนร่วมงานสไตล์ไหน เราชอบออฟฟิศที่จัดวางโต๊ะแบบไหน เราชอบเจ้านายแบบไหน
เราจะ keep ความสัมพันธ์กับคนในที่ทำงานยังไง เราจะอยู่รอดจากสังคมออฟฟิศได้ยังไง
เราจะรับมือหรือตัดสินใจในสถานการณ์ต่างๆ ได้ยังไง?
ทุกอย่างเหล่านี้เราจะไม่มีทางรู้ถ้าไม่ได้ลองด้วยตัวเอง (อันนี้สำหรับเรานะ เราชอบลองทุกอย่างเอง 55)
พอรู้แล้วว่าภูเขาลูกนี้ไม่ใช่ เราก็เลิกปีนแล้วนะ กำลังเดินลงจากเขาลูกนี้ละ
ไม่อยากปีนเขาลูกนี้แล้ว คนอื่นอยาก ก็ปล่อยเขาทำไป เราก็ไปหาภูเขาลูกใหม่ของเราต่อ
บอกตัวเองว่าสู้สู้ มั่นใจในตัวเองหน่อย มาไกลแล้วนะ เจออะไรมาเยอะระดับนึงแล้วนะ
อดทน ยืนหยัดในสิ่งที่ตัวเองต้องการหน่อย อย่าคล้อยตามคนอื่นมากสิ เฮ้อ 555
ขอบคุณทุกโอกาสที่เข้ามา ขอบคุณทุกประสบการณ์ที่สอนเราว่าอะไรใช่ อะไรไม่ใช่
ใคร อะไร ที่ไหนที่เราอยู่แล้วสบายใจ เราก็อยากจะอยู่ตรงนั้นนานๆ
หวังว่า "จังหวะ" จะทำให้เราพบกันนะ งานที่ทำแล้วสบายใจ
แด่ ทุกคนที่กำลังรู้สึกหลงทาง ทุกคนที่เพิ่งเรียนจบ และทุกคนที่เรียนจบแล้วหรือทำงานแล้วแต่ไม่รู้ว่าตัวเองจะทำอะไรหรือเป็นยังไงต่อ
ขอบคุณที่อ่านจนจบ :)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in