“ฟินน์—เรา....คิดจะทำอะไรน่ะ”
บาริสต้าคนงามยิ้มให้กับคำถามสุดงี่เง่าของผม
ลองคิดอะไรให้ออกหลังคนอย่างฟินน์จูบคุณสิ ผมท้าเลย
สมองเหมือนจะสับสนล้นไปด้วยความมึนและว่างเปล่าไร้คำอธิบายหรือเหตุผลในเวลาเดียวกัน
ผมแค่อยากดื่มกาแฟตอนค่ำ
(….อยากจะดื่มกาแฟแกล้มหน้าบาริสต้า
—ยอมรับก็ได้)
ใครจะไปคิดว่าคนอ่านยากอย่างฟินน์จะรุกผมก่อนแบบนั้น
“เดี๋ยว” นิ้วชี้ฟินน์หยุดปากผมได้สนิท ทันทีที่เห็นหน้า “มอคค่าร้อนหวานน้อย แก้วกลาง ถูกปะ”
ผมยิ้มเผล่อยู่หน้าเคาน์เตอร์
“จำออเดอร์พี่ได้ดัวะ”
หนุ่มแว่นส่ายหน้า
“เบื่อจะฟังพี่สั่งตังหาก” เจ้าตัวโบกมือ พยายามไล่ผมไปนั่งก่อน
(ไม่มีซะละ)
“ดื่มทุกวันระวังเบาหวานจุกอกนะพี่” ฟินน์ว่า มือไม้กำลังยุ่งกับเครื่องทำกาแฟ
คงจะเป็นแก้วสุดท้ายของร้าน ก็ผมจงใจมาครึ่งชั่วโมงก่อนปิดนี่
ขอให้เห็นหน้าก่อนกลับไปโวยวายกับไอ้แบร์--
(--ถึงตอนนี้พ่อนักมวยจะติดพี่อนายเช้าเย็นก็เหอะ)
ผมยังไม่ยอมไปจากเคาน์เตอร์
“ก็อยากเจอ” พูดตรงๆ จีบตรงๆ ใครจะมั่นหน้าแบบนี้อีก
คนอย่างมึงโดนแบบฟินน์เข้ามั่งก็ดี แบร์พูด ก่อนจะขโมยเฟรนช์ฟรายผมไปกินดื้อๆ
ผมเขม่นตาใส่มัน
มึงพูดงี้หมายความว่าไงวะ
เพื่อนรักหัวเราะ ยักไหล่ใส่ผมแทนคำตอบ
ฟินน์สูดจมูกฟุดฟิด เดินกลับมายื่นแก้วกาแฟให้
ปากบางเหยียดเป็นเส้นตรง
บาริสต้าหนุ่มทำท่าจะเดินหายตัวไปหลังร้านถ้าผมไม่ได้เรียกไว้ซะก่อน
“อะ”
ผมวางหนังสือที่ติดมือมาด้วยบนเคาน์เตอร์
ฟินน์หันกลับมาตามเสียง เลิกคิ้วใส่
ตาสีเขียวเข้มมีแววฉงนสงสัย ยิ่งมองใกล้ๆตรงหน้าอย่างนี้ยิ่งน่ารัก
“เห็นละคิดถึง เลยเอามาฝาก”
นิ้วเรียวหยิบหนังสือ
Kiss That Frog! ปกอ่อนขึ้นอ่าน พลิกหน้าหลัง เหมือนจะเห็นรอยยิ้มที่มุมปาก ถ้าผมตาไม่ฝาดไป
ฟินน์ละสายตาจากหนังสือมามองหน้าผม
ต่างหูเงินวงเดียวดูวาววับที่หูข้างซ้าย
(คงเป็นหนึ่งในสิ่งแรกที่ผมสังเกตเห็นเกี่ยวกับฟินน์
"มึงเคยสังเกตอะไรเป็นกับเขาด้วยอ่อ"
แบร์โดนศอกผมกระทุ้งเข้าให้
"สัส ก็นี่น้องไง"
คนตาฟ้าทำกระพริบตาปริบๆ
"เออ ทีกูเพื่อนมึง--"
ผมกลอกตา มองฟินน์ผ่านริมขอบแก้วกาแฟ
เดี๋ยวนี้ใครก็รู้ว่าผมสิงคาเฟ่หัวมุมถ้าไม่ติดงานอื่น ไอ้แบร์แวะมาเล่นๆก็ดันเจอผมที่โต๊ะประจำ -- ตัวที่หันเข้าหาเคาน์เตอร์
--ตัวที่วิวข้างในยามจิบกาแฟดีที่สุด)
“พี่นี่คิดไรแปลกๆ” ฟินน์เปรย หนังสือวางนิ่งบนเคาน์เตอร์
ผมหัวเราะ ผายมือไปที่หนังสือ แล้วชี้หน้าตัวเอง
“…ไม่เหมือนกบหรอ--
—สงสัยต้องไปแก้ไอ้แบร์ละมั้ง”
บาริสต้าหนุ่มปลดผ้ากันเปื้อนออกวางที่โต๊ะหลังตัว
เอียงตัวข้ามเคาน์เตอร์เข้ามาใกล้
ประทับปากบนริมฝีปากผมโดยไร้คำบอกกล่าว
ได้แต่ปล่อยมือทั้งสองของตัวเองไว้ข้างตัวเหมือนเป็นง่อยไป
หัวร้อนวาบคล้ายรีบซดกาแฟร้อนเข้าก่อนจะรับไหว
พระเจ้า--
—อะไรวะ... นาน.... นาน - ิบหาย--
ฟินน์ถอนปากกลับก่อนผมจะขาดใจตายซะก่อน
(ขนาดลิ้นเราไม่ได้สัมผัสกัน)
“ก็ลองดู” เด็กปากรสแอปเปิ้ลตอบ มือพลิกหน้าหนังสือหากตาก็ยังไม่ห่างจากหน้าผม
“ลอง….” ดวงตาผมคงเป็นเครื่องหมายคำถามเรืองแสง
“หนังสือน่ะบอกให้ลองสิ่งที่คิดว่าไม่เคยกล้าทำ--” ฟินน์อธิบาย ขมวดคิ้วน้อยๆ
“--สรุปพี่ได้อ่านมั้ยเนี่ย”
กรรม.
เด็กคนนี้จะมาเหนือผมก้าวหนึ่งเสมอ
จริงอยู่ที่ทุกคนพยายามเตือนตอนผมลองจีบฟินน์ช่วงแรก
นี่มันงานชิ้นโตแท้ๆ
“….บ้างอ่ะ แค่คร่าวๆ ฟินน์ก็รู้ว่า--“
“—พี่ยุ่ง” ฟินน์เติมประโยคให้ผมเสร็จสรรพ ความพึงพอใจในตัวเองชัดในแววตา
“ยุ่งยังไงผมก็เห็นพี่ในร้านตลอดแหละ”
โอ้ย
กลับเถอะไอ้แฮซ แก้มลนไฟขนาดนี้ที่ไหนจะไปช่วยแกได้
ผมกัดริมฝีปากล่าง เอื้อมมือจะหยิบหนังสือคืน
“ง่ะ--งั้นพี่ขอนะ...” ผมเสยผมตัวเองเก้อๆ หมดกันภาพพจน์อะไรร้อยแปดที่สร้างมา “... เราคงอ่านจบแล้ว”
ฟินน์กอดอก ยืนนิ่ง
“ยัง” ฟินน์แก้ “อ่านของห้องสมุดอยู่”
มอคค่าผมคงเย็นสนิทบนเคาน์เตอร์แล้วตอนนี้
แต่ประโยคถัดมาของฟินน์ทำใจผมเสียวประหลาด
“จะอ่านต่อดีๆแล้วมาคุยกับผมอีกทีก็ได้”
หนุ่มแว่นยิ้มหวานอีกครั้ง
(ก็ยิ้มเป็นนี่เรา--)
“…ลองจูบกบตัวนั้นให้ได้ไง"
//
แอบอยากแนบเพลงนี้
จู่ๆก็นึกถึง ฮือออออ > <
ชอบไม่ชอบยังไงกดด้านล่างบอกได้เลยนะคะ เม้นบอกคนเขียน คุยกับเรา
อยากรู้ว่าคุณคิดยังไง
มาคุย / ทักทายกันได้ที่ทวิต
@_XDolan
นะคะ <3
ติชม #kpfic เลยค่ะ
ขอบคุณค่า
x
ข้าวเอง.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in