เล่มสี่เริ่มต้นขึ้นด้วยความหึงหวงของกู้เซียว อิอิ เพราะมีหนุ่มหล่อคนนึงมาตามจีบ จางซืออี้ น่ะสิคะ แถมหนุ่มคนนี้ยังใช้วิธีการในการเรียกร้องความสนใจจากน้องซืออี้แบบเดียวกับเขาอีก (✧_✧!) ส่วนกู้เซียวจะมีแผนการกำจัดศัตรูหัวใจไม่ให้มาเกาะแกะคนของเขาอย่างไร มาติดตามกันน้า
ส่วน กู้เหยา น้องสาวของกู้เซียวก็มีเถ้าแก่โรคจิตมาตามจีบเหมือนกันค่ะ เอ…ทำไมพี่สะใภ้และน้องสามีดันเจอสถานการณ์เดียวกันเลยนะ 555 ดังนั้นจึงเป็นโอกาสดีที่น้องซือจะได้แสดงถึงพลังของพี่สะใภ้ด้วยการเป็น องครักษ์พิทักษ์สาวงาม นอกจากนี้ยังนำพาเจ้าชายมาแก้ไขสถานการณ์ได้ทันท่วงทีอีกด้วย ส่วนเจ้าชายคนนั้นดันแอบชอบเหยาเหยาอยู่แล้วด้วยสิ เข้าทางมากๆ มาเอาใจช่วยให้หนุ่มคนนั้นสามารถพิชิตใจกู้เหยาและผ่านด่านพี่ชายสุดโหดอย่างกู้เซียวกันนะคะ ☆ ~(^▽^)
จากนั้นน้องซืออี้กับ ปี้เล่อเล่อ ได้มีโอกาสมาสำรวจเมือง x เพื่อทำโครงการรีโนเวทเมืองโบราณด้วยกัน เลยทำให้น้องซืออี้ได้มีโอกาสรู้จักกับ เลี่ยวจวิ้น นักเรียนปริญญาโทสาขาสถาปัตยกรรมโบราณ ซึ่งคนๆเป็นแรงบันดาลให้น้องซืออี้เริ่มมีความมั่นใจกับก้าวต่อไปในชีวิต ส่วนปี้เล่อเล่อนั้นที่ตามมาด้วยเพราะเธอเริ่มสัมผัสได้ถึงบรรยากาศคลุมเครือระหว่างบอสสุดโหดกับป้าสี่แล้วค่ะ 555 และหลักฐานแต่ละอย่างก็ชวนให้สาววายอย่างเธอคิดไปไกลอีกด้วย (*/ω\) อิอิ
ส่วนน้องซืออี้หลังจากตัดสินใจแล้วก็บอกกู้เซียวว่าอยากไปเรียนต่อปริญญาโทที่ประเทศอังกฤษ กู้เซียวก็อึ้งไปเพราะไม่คิดว่าเหตุการณ์มันจะมาถึงเร็วถึงเพียงนี้ แม้จะรู้ว่าการเรียนต่อจะยกระดับความสามารถของน้องซืออี้ได้อย่างรวดเร็ว แต่ความรักทางไกลมันน่ากลัวใช่ไหมล่ะคะ แม้จะแค่สองปีแต่ระหว่างทางมันก็เกิดอะไรขึ้นได้ทั้งนั้น และยิ่งตอกย้ำเข้าไปอีกเมื่อรุ่นพี่ของกู้เซียวก็ชี้ให้เห็นถึงความน่ากลัวของความรักทางไกล ส่วนกู้เซียวจะทำอย่างไรกับการตัดสินใจของน้องซืออี้ในครั้งนี้มาติดตามกันนะคะ จะรั้งน้องไว้หรือปล่อยน้องไปตามความฝันกันนะ?
พักเรื่องเรียนต่อให้เป็นเรื่องของอนาคตและมาฉลองปีใหม่กันที่บ้านกู้ดีกว่าค่ะ ปีใหม่ปีนี้น้องซืออี้มีโอกาสไปนอนค้างที่บ้านกู้ด้วย แถมคุณนายจางยังเตรียมของขวัญไปฝากมากมายอย่างกับสินเจ้าสาวแต่งเข้าบ้านกู้เลยสิคะเนี่ย ยังมีเหตุการณ์ให้ทั้งคู่เปิดตัวความรักอย่างเป็นทางการต่อหน้าคุณพ่อคุณแม่กู้ด้วย เรื่องราวจะจบอย่างไร จะได้รับการยอมรับจากพวกท่านไหม มาติดตามกันนะคะ
ส่วนเรื่องราวหลังจากนั้นก็จะเป็นการเตรียมตัวเพื่อเรียนต่อของน้องซืออี้ค่ะ มาเอาใจช่วยให้น้องได้รับจดหมายตอบรับจากมหาวิทยาลัยที่เลือกไว้กันนะคะ นอกจากนี้ความรักของพวกเขาจะก้าวเดินไปในทิศทางที่วาดฝันไว้หรือไม่ จะได้รับการยอมรับจากเพื่อนๆและคนรอบข้างหรือไม่ และน้องซืออี้จะสามารถพัฒนาความสามารถของตัวเองไปยังจุดสูงสุดของเส้นทางที่เลือกไว้ และก้าวไปข้างหน้ากับกู้เซียวอย่างทัดเทียมได้อย่างไร มาติดตามและเอาใจช่วยน้องซืออี้กันนะคะ
Cr. ภาพกู้เซียวและน้องซืออี้ โดยคุณกาน Twitter อันนี้เป็นการ์ดแถมใน vbox ด้วยนะคะ
สำหรับความรักในเล่มนี้จะเห็นได้ชัดว่าทั้งกู้เซียวและน้องซืออี้พยายามปรับตัวในความสัมพันธ์นี้มากๆ กู้เซียวพยายามเห็นอกเห็นใจและใส่ใจความรู้สึกของน้องมากขึ้น ส่วนน้องซืออี้พยายามมีเหตุผลและเข้าใจมุมมองของกู้เซียวมากขึ้น ความรักที่ดีไม่ใช่ไม่ทะเลาะกันเลย แต่เป็นการปรับตัวเข้าหากันแล้วเจอกันครึ่งทาง เชื่อใจกัน คอยซัพพอร์ตกันและกัน และช่วยกันผลักดันอีกฝ่ายให้ก้าวตามความฝัน มันเลยทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขามั่นคงและแข็งแกร่งมาก ต่างฝ่ายต่างเข้ามาเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายของกันและกันได้อย่างสมบูรณ์จริงๆค่ะ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผู้คนรอบข้างจึงสัมผัสได้ถึงความรักอันสวยงามของพวกเขา สิ่งที่เราชอบอีกอย่างคือมุมมองความรักของรุ่นพี่ของกู้เซียวค่ะ มันเป็นสิ่งที่ช่วยเตือนสติและสามารถสะท้อนความโดดเดี่ยวอ้างว้างของความรักทางไกลออกมาได้อย่างชัดเจนเลย
ส่วนการยอมรับความของรักเพศเดียวกันจากคนในครอบครัวนั้นผู้เขียนก็ทำได้ดีค่ะ แม้คนรุ่นเก่าจะรู้สึกว่าเป็นเรื่องยากและอาจต้องใช้เวลาสักหน่อย แต่ถ้าทุกฝ่ายต่างคำนึงถึงความสุขของคนที่ตัวเองรัก ยอมรับในสิ่งที่ลูกๆเป็นแล้วก็ไม่มีอะไรยากเกินไปใช่ไหมล่ะคะ? ดังนั้นการเปิดใจให้แก่กันและยอมรับซึ่งกันและกันเป็นสิ่งสำคัญจริงๆค่ะ ทั้งกู้เซียวและน้องซืออี้โชคดีมากจริงๆที่ครอบครัวยอมรับและเข้าใจ
สิ่งที่นักเขียนต้องการสื่ออย่างเด่นชัดในเล่มนี้ คือ อย่ากลัวที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง อย่ากลัวที่จะก้าวเดินออกไปในหนทางที่ลำบาก เพราะความสบายนั้นทำให้เราไม่อยากคิด รู้สึกขี้เกียจและคิดว่าจะต้องดิ้นรนไปทำไมเพราะชีวิตในตอนนี้ก็ดีพออยู่แล้วไม่ใช่หรอ… พอความรู้สึกแบบนี้มันแทรกซึมเข้ามาเรื่อยๆมันทำให้ไฟในตัวเรามอดลงทุกวันๆ จนเราเริ่มกลัวที่จะก้าวออกจากสิ่งแวดล้อมเดิมๆ ดังนั้น อย่ากลัวที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองกันนะคะ เพราะความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น ชีวิตเราลิขิตเองจริงๆค่ะ (b ᵔ▽ᵔ)b
นอกจากนี้สิ่งที่นักเขียนยังชี้ให้เห็นอีกอย่างคือ ความสำคัญของการศึกษา ยิ่งเราศึกษาอย่างลึกซึ้งในสาขาอาชีพมากเท่าไหร่ยิ่งทำให้เราเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีวิสัยทัศน์และกระบวนการคิดที่ลึกซึ้งมากเท่านั้น รวมถึงสามารถมองเห็นจุดที่เป็นปัญหาได้มากกว่าคนอื่นจริงๆค่ะ และยิ่งเราเรียนรู้และขัดเกลาตัวเองมากเท่าไหร่เราก็ยิ่งโดดเด่นในสายอาชีพมากขึ้นเท่านั้นด้วยค่ะ
เดินทางกันมาถึงเล่มสุดท้ายกันแล้วสำหรับคุณผู้ช่วยสถาปนิก พอเห็นคำว่า (จบ) บนแผ่นกระดาษก็รู้สึกใจหายนิดหน่อย รีิวิวสามเล่มก่อนเราพูดถึงกู้เซียวไว้จนไม่รู้จะอวยกู้เซียวยังไงแล้ว 555 แต่เล่มนี้เป็นเวทีของน้องซืออี้แล้วค่ะ คุณซีเหอชิงหลิงได้ถ่ายทอดเรื่องราวเส้นทางการเติบโตของน้องซืออี้ออกมาได้อย่างได้สวยงามและหมดจดมากจริงๆ เล่มนี้ยกให้กู้เซียวเป็นเบื้องหลังความสำเร็จของน้องแล้วกันนะคะ จะได้เจอคนแบบกู้เซียวนี่ต้องทำบุญด้วยอะไรคะเนี่ย 555
นอกจากความสนุกและความฟินที่ทุกคนจะได้รับแล้ว นี่เป็นนิยายอีกเรื่องที่ให้อะไรมากมายจริงๆ ทั้งสร้างแรงบัลดาลใจ จุดประกายความคิด ทำให้เราได้มีเวลาคิดทบทวน ได้รู้จักและรักตัวเองมาก โชคดีมากเลยที่ได้อ่านนิยายดีๆแบบนี้ ไม่รู้จะขายยังไงแล้วค่ะ 555 (*꒦ິ꒳꒦ີ) และเรื่องนี้เรายกขอให้เป็น Top 5 ของนิยายเราชอบเลยค่ะ ขอส่งท้ายตรงนี้ … ขอให้ทุกคนกล้าที่จะเผชิญหน้า กล้าที่จะยืนหยัดในเส้นทางของตัวเอง และได้ทำสิ่งที่ตัวเองรักกันนะคะ (♡°▽°♡)
รีวิวทั้งหมดของเรื่องคุณผู้ช่วยสถาปนิกค่ะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in