ในหว่างวันที่ไม่มีเด็กเข้าใช้บริการห้อง Kid’s Corner เด็กฝึกงานทั้ง 4 คนก็จะใช้เวลาไปกับการเตรียมกิจกรรมนิทานสารพัดนึกและกิจกรรมในวันธรรมดา แต่เมื่อเตรียมความพร้อมสำหรับกิจกรรมเรียบร้อยแล้วก็เท่ากับว่ามีเวลาว่างในช่วงที่เด็กยังไม่มา ดังนั้นเวลาว่างที่มีจะถูกใช้ไปกับการอ่านหนังสือหลายต่อหลายเล่ม จนเกิดเป็นคำว่า “มิตรรักนักอ่าน” โดยพวกเราจะถือหนังสือคนละ 1-2 เล่มมาอ่านระหว่างวัน จนกลายเป็นว่าในหนึ่งสัปดาห์พวกเราอ่านหนังสือกันในปริมาณที่มากพอสมควร แต่เมื่อระหว่างวันมีเด็กเข้าใช้บริการ พวกเราทั้ง 4 คนจะวางหนังสือลงและพร้อมที่จะดูแลเด็กระหว่างทำกิจกรรมโดยทันที

นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากทางห้องสมุด นั่นก็คือการจัดเก็บหนังสือเข้าชั้นและเก็บสถิติการใช้หนังสือแต่ละเล่มลงในระบบคอมพิวเตอร์ จากที่สังเกตจำนวนผู้เข้าใช้งานห้องสมุดและจำนวนหนังสือที่อ่านแล้วในแต่ละวันก็นับได้ว่าเป็นเรื่องที่ดีเช่นเดียวกัน เพราะยังมีผู้คนส่วนหนึ่งที่ยังสนใจการอ่านหนังสือในห้องสมุด เพราะการอ่านหนังสือถือเป็นการเปิดโลกให้กับนักอ่านทุกคนเพื่อให้มีหูตาที่กว้างไกล มีความรู้สึกเห็นอกเห็นใจผู้อื่นจากการอ่านเรื่องราวของตัวละครต่าง ๆ ในเล่ม อีกทั้งยังเป็นการฝึกฝนลำดับความคิดที่ดีได้อีกด้วย เพราะการอ่านหนังสือมีข้อดีหลากหลายประการ ไม่ว่าจะอ่านอะไรก็ตามแต่ก็ขอให้มีนิสัยรักการอ่านติดตัวไว้ นับเป็นข้อดีของชีวิตแล้ว

จากรูปภาพเป็นอีกมุมหนึ่งที่ชื่นชอบรองลงมาจากห้อง Kid's Corner นั่นก็คือมุมหนังสือต่างประเทศ ด้วยความที่เป็นมุมต่างประเทศก็จะมีหนังสือภาพมากมายเกี่ยวกับทั่วทุกมุมโลก การได้มาอ่านหนังสือในมุมนี้ช่วยเปิดโลกได้เป็นอย่างดี โดยหนังสือที่ชอบที่สุดคือหนังสือเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมต่าง ๆ ทั่วมุมโลก ที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถในเรื่องของความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ