เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ท่องเที่ยวที่ได้ไปNarut Sirithip
ไต้หวัน อีกครั้ง
  • เพิ่มเติมในส่วนไต้หวัน ซึ่งครั้งนี้ได้ไปเป็นครั้งที่ 2 และ ได้เข้าใกล้ชีวิตเค้ามากขึ้น เพราะครั้งแรกที่ไป ไปกับทัวร์ ข้อมูลมาจากไกด์และสังเกตเห็นแว็บๆ ครั้งนี้ backpack 5 วัน 5 คืน เดินตะลุยทุกวัน ทำให้ได้มีเวลาเห็นมากหน่อย เท่าที่เห็น และบางอันก็ยัง คอเฟิมร์ม ตามนี้ครับ
    • ครั้งนั้น เคยบอกว่า คนที่นี่ไม่มีใครใส่รองเท้าแตะเลย ต้อง บอกว่า ป่าว คือ ถ้าหน้าร้อน อย่างครั้งนี้ไป มันก็ใส่แตะกันเหมือนกัน
    • มักใส่ชุดกีฬา เป็นแฟชั่น ดังนั้น shop กีฬา จะเยอะมาก บางย่าน ญี่ห้อเดียวกัน มีอยู่ 4 5 ร้าน
    • ยังคง คอนเฟิร์มว่า ชาไข่มุก มีอยู่มาก หลายแบรนด์ และพบเห็นได้ทั่วไป ยิ่งกว่า ชาพะยอม ชานมเทียบกับบ้านเราค่อนข้างจืด มีให้เลือก % ความหวาน % น้ำแข็ง
    • ไม่นิยมกินน้ำแข็ง เอาจริงหาแทบไม่ได้ แม้กระทั่งที่ไปคือหน้าร้อนก็ตามที อยากกินเย็นจัดหน่อย ต้อง สมูทตี้ น้ำแข็งปั่นอะไรประมาณนั้นเอา
    • 7-11 , family mart เป็น 2 แบรนด์ mini mart ที่เห็นได้บ่อย ไม่แพ้ที่ไทย ถุง คิดเงิน 1 ดอล ไต้หวัน อ้อ ร้านแนว watson ก็เยอะ
    • ที่นั่ง สำหรับ เด็ก คนชรา คนพิการ และสตรีมีครรภ์ บนรถสาธารณะ ใช้ เขียนว่า pinority seat ซึ่งมีอยู่บนทุกรถสาธารณะ รถไฟ รถเมย์ และไม่มีใครอื่นนั่งจริงๆ เจอน้อยมากที่กล้าไปนั่ง แม้รถไฟวิ่งออกไปแล้ว และไม่มีคนนั่ง ซึ่ง 1 ในส่วนน้อยนั้นคือ ตรู เอง >< บนรถเมย์ยิ่งหนัก prinority ไปเกือบ ครึ่งคัน
    • มีความใส่ใจคนพิการ เช่นทางขึ้นลงรถ มีระบบ ไฮโรลิก คนขับต้องลงมากด และปล่อยไสลด์เพื่อให้คนพิการขึ้นได้ บางตำแหน่งงานที่คนพิการพอทำได้ ก็ให้คนพิการทำ คือเจอคนพิการอยู่ในสังคมเหมือนคนทั่วไป
    • พูดถึงการจัดสรรงานที่ชอบมากสุดคือ การเอาผู้สูงอายุวัยเกษียณ ทำงานตาม พิพิธภัณฑ์ หรืองานอาสา เข้าใจว่า หนึ่งคนแก่ไม่มีอะไรทำ ถึงจะจ่าย(ถ้ามีนะ)ก็น่าจะถูกหรือผู้สูงอายุอาจไม่สนใจด้วยซ้ำ ที่สำคัญรองเท้าไม่ถอด เสียงดังคนแก่ว่าก็เหมือนอากงเตือนหลานด้วย คนเข้าชมให้ความเคารพเชื่อฟัง ซึ่งส่วนตัวชอบการจัดสรรแบบนี้มากดู win win
    • เครื่องดื่มมีหลากหลายโดยเฉพาะตระกูล นม และ ชา ที่ไม่เห็นแทบจะไม่มีเลยคือ PEPSI
    • อากาศ ตอนนั้นไปหนาวชื่นชมว่าอากาศดี นี้ไปหน้าร้อน อืมมม ไม่ได้ดีไปกว่าบ้านเรานักเจอเข้าไป 32-34 องศา ดีตรง ร้อนแห้ง ทำให้ไม่อ้าวเหมือนบ้านเรา
    • สุขภัณฑ์ แทบทั้งหมดจากการสังเกตตอน ..... เป็นญี่ห้อ HCG ห้องน้ำสาธารณะสะอาด ติดตรงหาที่ฉีดตูดแทบไม่ได้ซักที่ แม้ที่พัก
    • taxi ใช้สีเดียว คือเหลือง ดูรวมๆแล้ว อาจมีแต่บ้านเราที่ มีให้เลือกสรรมากมายหลายสีสัน
    • เหมือนเป็นสังคมที่เข้าสู่ สังคมผู้สูงอายุ เจอผู้สูงอายุทั่วไปบ่อยมาก
    • ไม่ค่อยเจอคนอ้วน ผู้หญิงส่วนใหญ่หุ่นดี ขาว ขาสวย หมวยมีดั้ง ตาโต อาจเพราะเที่ยวในย่านอารมณ์สยามด้วย แต่คอนเฟิมเรื่องขาว ผิวเนียน ไปใช้เวลาสังเกตดูตั้งนานเชื่อสิ
    • นิยมทานอาหารเย็น ตามตลาดนัด night market เดินไปกินไป เพราะมีร้านค้าเยอะมาก อันนี้มีพี่ที่ไปเรียนอยู่นั่นบอก ว่าคนเค้าที่นั่นมักทำแบบนี้
    • เสียงกริ่ง ออด ติ๊ดตั๋ว ฟังดูน่ารัก ไม่หนวกหู ทุกที่ แม้แต่รถขยะ อีกอย่างรถขยะดูสะอาดมาก เข้าใจว่าคงเป็นเพราะขยะเปียกเค้าน้อยด้วยมั้ง (ไม่ได้ไปคุ้ยขยะ)
    • น้ำที่มีขายในร้านอาหาร อย่างน้ำอัดลม มีราคาเท่าๆ มินิมาร์ท ไม่บวกเพิ่มอย่างของไทยเรา
    • อาจเป็นเพราะช่วงไปจะมีประกวด สตรีทแดนท์ คือเจอเด็กซ้อมเยอะมาก ตาม บริเวณกว้าง เช่น พิพิธภัณฑ์ เจียงไคเชค ซุนยัดเซน มีกระจกสะท้อนตรงประตูอยู่หน่อยเดียว พี่แกก็ไปซ้อมกัน เต้นดูแข็งแรงด้วย มีแบบ 7 8 กลุ่ม ล้อมทั้งพิพิธ เลย
    • เห็นพวกฝรั่งน้อยมาก ครั้งก่อนก็ด้วย สงสัยมาเมืองไทยกันหมด
    • ถ้าเทียบค่าครองชีพแล้ว การเดินทางถือว่าถูก และสะดวกอาจหลายสายหน่อย ไป ที่ท่องเที่ยวได้แทบทั้งหมด ใช้บัตรเดียว ติ๊ดไป ติ๊ดมา ได้ทั้ง รถเมย์ รถไฟใต้ดิน บนดิน อ้อ หกทุ่มหยุดวิ่งนะจ๊ะ เดินต้องอย่าเพลิน
    • อาหารคล้ายๆญี่ปุ่น ราเม็ง ซาซึมิ น่าจะด้วยความที่เป็นเกาะ มีน้ำพุร้อน ไรนี้เหมือนญี่ปุ่นเลย อาหารการกินเลยดูใกล้เคียง แต่ค่อนข้างมั่นใจ ไม่มีใครทำอาหารได้ถูกปากคนไทย เท่าประเทศเราเองอีกแล้ว ไม่รู้จะทำจืดไปไหน ร้านที่ว่าอร่อยๆ คนต่อคิวนี่ อยากให้ได้ลองมาดูงานร้านอาหาร ข้าวขาหมู บ้านเรางี้ เอ้อ ประทับใจ ผักยาวๆ สีเขียวเหมือนต้นหอมผสมผักไม้กวาด กรอบๆ ไม่เหม็นเขียว อร่อยเลย สรุปก็ยังคงประทับใจในเมืองนี้ บรรยากาศเมืองรู้สึกว่าเหมือนญี่ปุ่น มากกว่าจีน ขยะมีเห็น แต่โดยรวมสะอาด พื้นที่สีเขียวเยอะ คนมีระเบียบวินัย แม้บางทีบริกรดูเหวี่ยงๆ แต่โดยรวมคนที่นี่ก็น่ารักครับ นิสัย? ป่าว หน้าตานี่แหละ ถ้ามาเจออากาศ เย็นๆถูกช่วงหน่อยนี่น่าจะยิ่งฟิน ครั้งหนึ่งในชีวิต ใครยังไปไม่ถึงญี่ปุ่นก็แนะนำไต้หวันครับ ถูกกว่า ไม่ต้องวีซ่า เที่ยวง่าย มีสถานที่ทั้งชอปปิ้ง สวนสาธารณะ ตัวเมือง และธรรมชาติ ให้ได้สัมผัสมากมาย

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in