เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Grey Zoneunnderbar__
NELL : 습관적 아이러니 / Habitual Irony

  •           C
              Chaos
              Conflict 
              Confuse 
              Contradiction


    ความขัดแย้ง ความสับสนยุ่งเหยิง คีย์เวิร์ดหลักเหล่านี้ แทนภาพและเนื้อหาของเพลงในอัลบั้ม C อัลบั้มที่นับว่าเป็นการเปิดเข้าสู่ศักราชใหม่ของวง เราจะรู้สึกได้ถึงความรีเฟรช โดยเฉพาะกับการเปลี่ยนกระแสทิศทางดนตรีที่ต่างไปจากเดิม เรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ชัดเจน ของกลิ่นอายเพลง NELL ที่คนคุ้นเคยในยุคหลัง ๆ ซึ่งอาจหมายรวมถึงซาวด์ดนตรีแบบ NELL ในช่วงเวลาปัจจุบัน สงบนิ่งแต่เข้มข้น ทวีคูณความเย็นเยียบ ลุ่มลึก ที่ยังคงสอดรับเข้ากับเนื้อหาเพลงเทา ๆ ของวงเสมอมา


     ปกสวยมาก ชอบบบบ


    ทั้งจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงและความท้าทายใหม่ ๆ มากมาย เกิดขึ้นในช่วงที่ผลงานชุดนี้ได้ออกมาโลดแล่น เมื่อวงตััดสินใจออกจากภายใต้สังกัด Woollim Entertainment ที่พวกเขาอยู่มานานกว่า 10 ปี และได้ก่อตั้งค่ายเพลงของตัวเองที่มีชื่อว่า SPACE BOHEMIAN อัลบั้ม C สตูดิโออัลบั้มเต็มลำดับที่ 7 (ไม่นับรวมอัลบั้มอินดี้) ของวงชุดนี้ จึงเป็นอัลบั้มเต็มชุดแรกภายใต้สังกัดใหม่ ที่ห่างหายจากการออกอัลบั้มเต็มชุดก่อน Newton's Apple ถึงสองปี


    note : เอาจริง ๆ แพลนของอัลบั้ม C ในช่วงแรกคือ 2CD แต่ถูกล้มเลิกไป และช่วงที่ออกก็มีเรื่องติดขัดเยอะมาก ทั้งการเลื่อนปล่อยเพลงไปอีกประมาณหนึ่งสัปดาห์ ทั้งที่ประกาศวันไปแล้ว เพราะมีการแทรกแทร็คเพิ่มเติม คิมจงวานถึงขั้นออกมาโพสว่ากำลังเร่งชหกันอยู่ (I'm working my ass off to get the 'very best' out of us!) ส่งผลให้ตัว physical album ออกช้า เพราะวงมีการปรับแก้เนื้องาน ซึ่งทำให้ต้องกดซีดีใหม่ เท่ากับว่าซีดีชุดแรกที่ผลิตออกมาเตรียมวางจำหน่ายนั้นถูกโละทั้งหมด นี่เป็นการตัดสินใจที่สุดมาก คือเอาคุณภาพเพลงเป็นที่ตั้ง โดยไม่สนใจฟ้าดิน และคิดว่าถ้าอยู่ค่ายเดิม คงไม่อนุญาตให้ทำอะไรแบบนี้แน่ ๆ ซึ่งก็มองได้ในสองแง่ คือความที่ใหม่มาก ๆ ในการบริหารจัดการ กับอิสระที่ศิลปินได้รับให้สามารถดื้อด้านเท่าไรก็ได้ 55555 นี่ก็มาคิดว่าค่ายเพลงที่ตั้งขึ้นมา คงทำเพื่อซัพวงตัวเองโดยเฉพาะ แค่นั้นแหละ ทำเอง บริหารจัดการเอง จะออกผลงานหรือทำอะไรก็ตามใจ ซึ่งไม่น่าคิดจะมีศิลปินในสังกัดตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ถึงตอนนี้เราก็ว่าไม่คิด 5555555 เพราะแค่งานเพลงของ NELL กับจัดคอนเสิร์ตวงก็ยุ่งจะตาย ไหนจะงานฝิ่นจงวานอีก คิวเต็มพอดี


    และท่ามกลางเพลงทั้งหมดในอัลบั้มจำนวน 11 + 1 Track CD Only นั้น มีอยู่หนึ่งเพลง ที่หากพูดถึงอัลบั้ม C ไม่สิ หากพูดถึงเพลงของ NELL ทั้งหมดแล้ว สามารถพูดได้ว่า แทร็คนี้จะต้องโดดเด้งขึ้นมา ติดอันดับท็อปเฟฟในลำดับต้น ๆ อย่างแน่นอน เป็นเพลงที่เราพร้อมจะไบแอสให้ตลอด รักมากกกกกกก ฟังเท่าไรก็ไม่เคยเบื่อ เลยอยากจะขายแทร็คนี้ แน่นอนว่าเป็น B-side ให้กับผู้คนบนโลก นั่นก็คือแทร็คแรกของอัลบั้ม C ที่ออกในปี 2016 กับเพลงชื่อเกาหลีความหมายแปลก ๆ "습관적 아이러니"



    NELL เปิดอัลบั้ม C ด้วยแทร็คแรกได้อย่างเด็ดขาด ไร้ซึ่งความลังเลใด ๆ เพราะ 습관적 아이러니 เป็นเพลงที่กลมกล่อม และมีความลงตัวสูงมาก ๆ เพลงหนึ่งของ NELL ในความรู้สึกของเรา มีความหม่นเหงาของเนื้อเพลง ลูกเล่นในความหมาย และที่สำคัญ คือความชัดเจนของซาวด์ดนตรี ที่เป็นตัวนำทิศทางเพลงที่เหลือในอัลบั้ม ว่ารสชาติทางดนตรีแบบใด ที่คนฟังจะได้รับต่อจากนี้  





    습관적 아이러니 มีสัดส่วนของดนตรีที่ต่างไปจากเพลงก่อน ๆ เมื่อวงใช้เสียงสังเคราะห์เป็นตัวชูโรง นำหน้าองค์ประกอบทุกอย่าง ซาวด์เย็น ๆ ที่ถูกคัดสรร ความฟุ้งฝันของเสียงซินธ์ จากท่อนเมโลดี้ไลน์แสนไพเราะ ที่สัมผัสได้ตั้งแต่อินโทรของเพลง ทำให้คนฟังรู้สึกเหมือนถูกดึงดูดเข้าไปในโลกที่ต่าง ชวนฝัน แต่หม่นมัว คงบรรยากาศเพลง NELL อันเป็นเอกลักษณ์ ที่คละคลุ้งอยู่ในทุกอณูของเพลง โดยมีจังหวะกลองอันโดดเด่น เบส และไลน์กีตาร์บาง ๆ เป็นฉากหลัง ประคับประคองไปเรื่อย ๆ จนถึงจุดหนึ่ง ที่ความเข้มข้นของทุกชิ้นดนตรีสอดผสานกันอย่างข้นนัวได้อย่างน่าประทับใจ


    คำร้องแสดงการทบทวนเรื่องราว คล้ายการบ่นพูดกับตัวเอง เพื่อสำรวจความรู้สึกจากข้างใน ดนตรี เสียงร้อง ช่องว่าง ความหมายระหว่างบรรทัด ค่อย ๆ กระเทาะความเจ็บปวดของบาดแผล ที่ครั้งหนึ่งเคยเกาะกุมจนด้านช้า ทีละนิด ทีละนิด จนเมื่อความเศร้าที่อาจเจือจางตามกาลเวลาเริ่มสดใหม่ แทรกซึมไปพร้อมกับทุกวินาทีที่เนื้อเพลงเคลื่อนผ่าน บาดแผลที่เคยเจ็บจนชานั้นกลับแสบร้อนขึ้นมาอีกครั้ง และตระหนักรู้ได้ในท้ายที่สุด อา นี่มันโคตรเจ็บเลยนี่นา


    /

    บ่อยครั้งที่เวลา
    พาผมย้อนไปในวันนั้น ณ ที่นั่น
    ที่ ๆ เราดูมีความสุข
    มากกว่าใครในโลก

    ผมระวังที่จะไม่เรียกชื่อคุณจนเป็นนิสัย
    ผมหลับตาลง เพราะกลัวว่าจะมองหาแต่คุณ
    เหมือนอย่างที่เคยทำ

    ,


    ในวันหนึ่ง
    ผมคงจะคุ้นชินกับมัน
    อย่างนั้นใช่ไหม?
    หลังจากเรื่องทั้งหมดนี้ผ่านไป
    มันจะกลายเป็นความทรงจำ
    อย่างนั้นสินะ?

    ,


    เหมือนทุกอย่างผ่านไป
    โดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น
    เป็นแบบนั้น , ฉันไม่ชอบเลย

    หัวใจที่เคยร้อนผ่าวของฉัน
    ค่อย ๆ หนาวเหน็บ , ฉันไม่ชอบเลย

    เป็นเพียงความทรงจำที่หลงเหลือไว้
    ณ สุดปลายขอบของความทรงจำ
    ค่อย ๆ เลือนลางและจางหายไปในที่สุด
    ,ฉันเกลียดมัน

    ,


    จะมีโอกาสบ้างไหม
    ที่คุณจะคิดถึงผม?
    ผมนั่งลงด้วยความว่างเปล่า
    และรอคอยอยู่อย่างนั้น

    เมื่อรู้ว่าไม่มีทาง
    เมื่อความคิดนั้นแล่นผ่านเข้ามา
    จู่ๆก็เหมือนกับว่า
    ผมจะร้องไห้อีกครั้ง
    เพราะคุณไม่อยู่ตรงนั้น

    เพราะคุณไม่อยู่ตรงนั้น

    เพราะคุณไม่อยู่ตรงนั้น

    /


    NELL : 습관적 아이러니 @ ONSTAGE



    มองเผิน ๆ นี่อาจเป็นเนื้อเพลงเลเวลธรรมดาของคิมจงวาน (นักร้องนำและผู้แต่งเพลงทั้งหมดของ NELL) แต่มันดันเป็นเพลงอกหัก ที่ช่างมีหัวจิตหัวใจเหลือเกิน เราชอบเนื้อเพลงเปิดท่อนแรก กับท่อนของพาร์ทสุดท้ายมาก ภาษาเบา ๆ แต่กลับรุนแรงในแง่ของความรู้สึก เจ็บจิ๊ดไปหมด ความโดดเดี่ยวเจียนเศร้าในเนื้อเพลง จะทำให้เราสามารถรีเลทและอินได้อย่างรวดเร็ว ถ้าพูดให้ง่ายแถวบ้านจะเรียกว่าเพลงมันโดนนะแหละ แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีความสุขุม ความคูลบางอย่าง จากท่าทีของคำร้องที่คนในเพลงแสดงออกมา บรรยากาศเพลงแบบ Keep Calm ที่มาพร้อมกับเซนส์ตลกร้าย ยันชื่อเพลง 습관적 아이러니 กิจวัตรที่เป็นเหมือนตลกร้าย ย้อนแย้ง กิมมิคหลักที่ทำให้เนื้อหาของเพลงดูมีมิติ


    "
    ผมระวังที่จะไม่เรียกชื่อคุณจนเป็นนิสัย
    ผมหลับตาลง เพราะกลัวว่าจะมองหาแต่คุณ
    เหมือนอย่างที่เคยทำ
    "


    ยิ่งผสมรวมกับความเยียบเย็นของซาวด์ดนตรี ยิ่งขับเน้นความหนาวเหน็บ ชินชา ขยี้เนื้อเพลงเหงา ๆ ให้ซึมลึก โดยเฉพาะพาร์ทหลัง ที่ยกระดับเพลงนี้ให้เป็นสุดยอดความดีงามน้ำตาไหล ซึ่งในขั้นตอนของการทำเพลงแต่เดิม 습관적 아이러니 ถูกเรียบเรียงไปเรื่อย ๆ ตั้งแต่ต้นจนจบโดยไม่มีท่อนพีคหลัง จนวันหนึ่ง ที่คิมจงวานนึกครึ้มนั่งเล่นกีตาร์เสริมเข้าไปตามฟิลลิ่ง พวกเขาจึงพบว่ามันเข้ากันกับเพลง ยิ่งในขั้นตอนของการมิกซ์เสียง ก็ยิ่งรู้สึกใช่มากขึ้น จนมั่นใจว่า ซาวด์ข้นนัวพาร์ทหลังนี้ คือทิศทางของเพลงที่ถูกต้องและควรจะเป็น


    มันคือพาร์ที่เสียงกีตาร์ของจงวานและแจคยอง (มือกีตาร์) ปะทุขึ้น และเนื่องจากเพลงนี้ มีไลน์เมโลดี้ของเสียงซินธ์ที่แข็งแรงมาก ๆ อยู่แล้ว กีตาร์สองตัวที่ผสานเข้ามา จึงเป็นเพียงการเล่นไลน์คอร์ดสาดเข้าไปในเพลงเท่านั้น แต่มันช่วยเติมเต็มความหนาแน่น ขับเคลื่อนไดนามิคของเพลงให้มีน้ำหนักยิ่งขึ้น โดยการแทรกซึมไปในทุกช่องว่าง เบลนส่วนผสมของทุกชิ้นดนตรีให้เป็นเนื้อเดียวกันได้อย่างงดงาม เป็นความเข้มข้นที่ยังคงความพริ้วไหว โดยซาวด์กีตาร์หม่น ๆ ที่วงเลือกใช้นั้น กลมกลืนไปกับความเทาของเพลงได้อย่างดี ยิ่งผสมรวมกับความฟุ้งชวนฝันของเสียงซินธ์ ยิ่งทำให้เพลง 습관적 아이러니 มีความสง่างามและลุ่มลึก เป็นงานดนตรีที่ขยี้เนื้อเพลงหน่วง ๆ ท่อนไคลแม็กซ์ให้ยิ่งรุนแรง เสริมส่วนประกอบทุกอย่างให้เข้าเนื้อ ไม่ขาดไม่เกิน กลมกล่อม ไหลลื่นแบบสุด ๆ 


    NELL : 습관적 아이러니 @ I'm LIVE
    เห็นคนดูในคลิปนี้แล้วคิดถึงช่วงก่อนโควิดมาก ๆ 
    ซึ่งตอนนี้คอนเสิร์ตของวงปลดล็อครีแอคชั่นคนดูแล้วนะ TT_TT


    และความโดดเด่นอย่างมากของเพลงนี้ นั่นคือ โครงสร้างเพลงและการลำดับท่อนร้อง จะสังเกตได้ว่า 습관적 아이러니 ไม่มีท่อนฮุกที่ชัดเจนแบบเพลงทั่ว ๆ ไป อย่างเช่น verse / pre-hook / hook / bridge แต่เป็นการเล่นวนท่อน verse ธรรมดา เล่าไปเรื่อย ๆ โดยใช้พาร์ทดนตรีในการคั่นท่อนร้อง เพื่อเว้นช่องว่างให้อารมณ์ของเพลงฟุ้งกระจาย ย้ำไลน์เมโลดี้หลักให้ติดหูไปเรื่อย ๆ เป็นการเรียบเรียงเพื่อสร้างโฟลวของเพลงได้อย่างโปร และได้ผลอย่างที่สุดเมื่อพาร์ทเทพพาร์ทหลังเข้ามาเสริมอย่างที่บอก 


    จะเห็นว่าโครงสร้างเพลงลักษณะคล้ายกันนี้ ปรากฏในหลาย ๆ เพลงของ NELL เช่น 안녕히 계세요 / Onetime Bestseller / 기억을 걷는 시간 / Act5 / Go / The Day Before / Haven / 침묵의 역사 (เพลงแสบทั้งนั้น) ให้เห็นภาพอย่างง่าย คือเป็นการเรียบเรียงแบบ A B / A B / A B C เนื้อเพลงจะนวดคนฟังไปเรื่อย ๆ บางเพลงมีท่อนฮุกที่เหมือนไม่ฮุก และจุดพีคจะอยู่ในท่อน C ของคิมจงวานในพาร์ทหลังนี่แหละ มันคือท่อนที่จะบีบก็ตายจะคลายก็รอด ภาษาเพลงที่ใช้ในการขมวดทิ้งท้ายของพี่แกเฉียบมาก ยิ่งรวมกับการเรียบเรียงดนตรีของวง ทำให้เนื้อหาและการส่งเข้าสู่ท่อน C ในเพลงของ NELL เป็นอะไรที่น่าประทับใจ และคุ้มค่ากับการตั้งตารอคอยเสมอ

    안녕히 계세요 อัลบั้ม Healing Process ปี 2006
    >>(NELL : Farewell / Give me the pill)
    Onetime Bestseller อีพีอัลบั้ม Let's Take A Walk ปี 2007
    기억을 걷는 시간 อัลบั้ม Separation Anxiety ปี 2008
    >>(NELL : 기억을 걷는 시간 / Time Spent Walking Through Memories)
    Act5 อีพีอัลบั้ม The Trace ปี 2008
    Go อัลบั้ม Slip Away ปี 2012
    The Day Before อัลบั้ม Slip Away ปี 2012
    >>(NELL : The Day Before / This is all that I can say)
    Haven อีพีอัลบั้ม Escaping Grvity
    >>(NELL : HAVEN / - just pull the trigger)
    침묵의 역사 อัลบั้ม Newton's Apple ปี 2014

    NELL : 습관적 아이러니 @ CHRISTMAS IN NELL'S ROOM 2017



    อัลบั้ม C เป็นอัลบั้มที่มีเพลงเด่น ๆ เยอะมาก อย่างในคอนเสิร์ตสปอยล์ NELL'S SEASON 2016 Peek at the letter 'C' ที่วงเลือกแสดงสดเพลงใหม่ในอัลบั้มเป็นครั้งแรก ก่อนที่จะปล่อยแทร็คออฟฟิเชียล โดยเล่น 1 แทร็คต่อ 1 รอบการแสดง รวมเป็น 6 แทร็คนั้น ไม่มี 습관적 아이러니 อยู่ใน list เลยด้วยซ้ำ แต่เมื่ออัลบั้ม C ถูกปล่อยออกมาแล้วอย่างเป็นทางการ กลายเป็นว่า 습관적 아이러니 เป็นเพลงที่วงเลือกมาแสดงสดอยู่บ่อยครั้ง และแฟนเพลงส่วนใหญ่ชื่นชอบกันมาก ๆ จะเป็นที่พูดถึงอยู่ตลอด แม้ใครคนอื่นอาจจะมองข้ามมันไปก็ตาม งานสเตจดีไซน์ที่เพอร์เฟคเสมอ โทนเสียงร้องเศร้า ๆ ซาวด์ดนตรี ที่ทั้งสี่คนเล่นเข้ากันได้แบบถึงน้ำถึงเนื้อ องค์ประกอบทั้งหมดก่อร่างมวลบรรยากาศ อุณหภูมิของเพลง และสไตล์ทุกอย่าง ซึ่งเข้ากันกับลุคของวงอย่างที่สุด


    note : ตอนนั้นคนเฮโลไปหวีด Full Moon กันเยอะ เราก็เป็นหนึ่งในนั้น ฮ่าาาาาา
    เพราะเวอร์ชั่นที่เล่นใน Peek at the letter 'C' ต่างจากไฟนอลเวอร์ชั่นที่ปล่อยด้วย 
    เหมือนยังทำไม่เสร็จดี แล้วมาตบ ๆ รายละเอียดเอาทีหลัง แต่มันสดและดิบกว่ามากกกกก ของโคตรรรรดี

    NELL : 습관적 아이러니 @ Seoul Jazz Festival 2017


    NELL : 습관적 아이러니 @ PARK CONCERT 2019
    youtube channel : gotgrot


    습관적 아이러니 เป็นเพลงที่เปิดโหมดเพลงเย็นของ NELL ในยุคหลัง ๆ โดยสมบูรณ์ ยิ่งมององค์รวมทั้งหมดของอัลบั้ม C ที่วงได้มีการนำซาวด์สังเคราะห์ที่เคยทดลองหยอดไว้ในเพลงนั้นนิด เพลงนี้หน่อย ในอัลบั้มก่อน ๆ นำมาใส่ไว้อย่างเต็มที่ เติมเข้ามาในสัดส่วนที่พอดี เพียงพอที่จะทำให้มันโดดเด่น จนทุกวันนี้ สกิลการเบลนส่วนผสมของซาวด์แบนด์กับซาวด์สังเคราะห์เหล่านั้นของ NELL ยิ่งเข้ามือมากขึ้นเรื่อย ๆ (ไม่เชื่อไปฟัง U-Hee ได้) งานดนตรีในอัลบั้มจึงให้โทนเย็นทั้งหมดในความรู้สึกของเรา แม้แต่ Full Moon ที่เป็นแทร็คอัพบีทเองก็ตาม 


    และแม้ขีดความมืดมนโดยรวมของอัลบั้มนี้จะเบาบางลง แต่ในฐานะแฟนเพลงเราดีใจที่เมสเสจในเพลง ณ ตอนนี้ของพวกเขา หนีห่างจากช่วงอัลบั้ม Healing Process (2006) อยู่มาก ใช่ มันคือความดีงามอย่างที่สุด แต่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเจ็บปวดไปด้วย ซึ่งอัลบั้มนั้นก็จะอยู่บนหิ้งตลอดไป และไม่ผิดเลย ที่บางคนอาจโหยหาเพลง NELL ในยุคเก่า ๆ แต่จะให้พวกเขาทำเพลงแบบตอนช่วงอายุ 20 ตลอดไปไม่ได้หรอก งานดนตรีนั้น ๆ มันก็คือช่วงหนึ่งของชีวิต แต่การได้ซึมซับและเติบโตไปพร้อมกันต่างหาก ที่ทำให้มันมีความหมาย 


    และอัลบั้ม C ก็เป็นอีกก้าวหนึ่ง ที่ทำให้ค้นพบความรู้สึกใหม่ในการฟังเพลงของ ​NELL ความรู้สึกที่ว่า จักรวาลรอบตัวกำลังแผ่ขยายกว้างใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ทุกครั้งที่ได้ฟัง 


    .


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in