นี่เป็นสิ่งที่คนมักพูดถึงเกี่ยวกับเพลงนี้ เพลงที่เต็มไปด้วยความคิดถึง การโหยหาช่วงเวลาในอดีตที่แสนอบอุ่นในปัจจุบันที่หนาวเย็น เพลงที่เปิดโหมด Nostagia เหมาะสำหรับการฟังเพื่อคิดถึงใครสักคน ส่วนผสมที่รวมกันระหว่างความเศร้า ความเหงา และความสุข

"기억을 걷는 시간" เป็นเพลงแทร็กที่ 3 ในอัลบั้ม Separation Anxiety สตูดิโออัลบั้มเต็มชุดที่ 4 ของวง Nell (ไม่นับรวมอัลบั้มอินดี้)  ออกมาเมื่อปี 2008 ซึ่งเป็นเพลงหลักสำหรับใช้โปรโมท และถือเป็นเพลงที่ประสบความสำเร็จเพลงหนึ่งของวง ต่อเนื่องมาจากเพลง Good Night , 마음을 잃다 ในอัลบั้มที่แล้ว Healing Process (2006) ที่ทำให้วง NELL ไม่เพียงแต่เป็นที่ชื่นชอบในหมู่คนฟังเพลงเฉพาะกลุ่มเท่านั้น หากแต่ได้รับความนิยมในหมู่คนฟังทั่วๆไป เข้าสู่ความเป็นเมนสตรีมมากขึ้นกว่าเดิม ส่งผลให้วงเป็นที่รู้จักในวงกว้าง และในปีนั้นเพลง 기억을 걷는 시간 ก็ทำให้คิมจงวาน (นักร้องนำและผู้แต่งเพลงทั้งหมดของ NELL) ได้รับรางวัล Composer Award และ วง NELL ได้รับรางวัล Best Rock Performance จากงานประกาศรางวัล 2008 Mnet Asian Music Award (MAMA 2008) และ Best Rock Award จากงาน Golden disk 2008 จนถือว่าเป็นเพลงที่ทำให้วงได้รับความนิยมอย่างมากในเกาหลีจนถึงทุกวันนี้

ในทีแรกเพลง 기억을 걷는 시간 ไม่ได้ถูกวางให้เป็นเพลงโปรโมทของอัลบั้ม Separation Anxiety เพราะทางวงคิดว่าเพลงนี้มีความยาวมากเกินไป ซึ่งปกติเพลงที่มักจะนำมาโปรโมทจะมีความยาวอยู่ในช่วง 3-4 นาที แต่สำหรับเพลงนี้กินความยาวถึง 5:12 นาที (แต่ 5 นาทีถ้าเทียบกับเพลงอื่นๆของ Nell ถือว่าปกติมาก) โดยเพลงที่คิดไว้ในตอนแรกว่าจะใช้โปรโมทในอัลบั้มนี้ก็คือ "Moonlight Punch Romance" แต่ท้ายที่สุดก็มาลงเอยที่ "기억을 걷는 시간" (ใช้โปรโมทร่วมกันกับเพลง 멀어지다 ) และกลับกลายเป็นเพลงที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ทั้งเรื่องความนิยมและชาร์ตเพลง ซึ่งทางวงก็คิดว่าตลกดี เพราะพวกเขาไม่เคยสนใจเรื่องของชาร์ตเพลงเลย แต่กลับกลายเป็นได้ผลลัพธ์ที่เกินความคาดหมายไปมาก

และเช่นเคย เพลงๆนี้มีส่วนผสมระหว่างเนื้อร้องหม่นๆรวมกับเมโลดี้สว่าง ละมุนละไม เนื้อเพลงเพ้อๆ แต่มีความเป็นบทกวีสูง แม้คนที่ไม่เข้าใจภาษาเกาหลีเลยก็จะพบความสวยงามของภาษาได้ไม่ยาก มีทั้งสัมผัสนอก สัมผัสใน และยังคงความหมายที่ลึกซึ้ง กินใจ มีความลงตัวพอดิบพอดีในหลายๆอย่าง ทั้งเนื้อร้อง ทำนอง และเมโลดี้ การทำดนตรีให้ฟังง่าย ไหลลื่น มีความเป็นธรรมชาติ ทั้งเสียงร้องและทุกๆอย่างที่เรียบง่าย แต่ให้ความรู้สึกที่มาก ทาโบล (Epik High) ยังเคยพูดออกอากาศครั้งหนึ่งว่า เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนอย่างคิมจงวาน จะเขียนเพลงที่สวยงาม เต็มไปด้วยความอบอุ่น นุ่มนวลอย่างนี้ขึ้นมาได้ ซึ่งมันขัดกับบุคลิกของเพื่อนของเขามาก 

หากฟังผ่านๆ "기억을 걷는 시간" เป็นเพลงที่มีเมโลดี้หวานละมุน กับดนตรีใสๆ ฟังเรื่อยๆ สบายๆ แต่เมื่อฟังอย่างถี่ถ้วนแล้วมันคือเพลงเศร้าอย่างไม่ต้องสงสัย แต่เป็นเพลงเศร้าที่ให้รสประหลาด เหมือนมีทั้งความสุขและความทุกข์ ทั้งหวานและขม จังหวะกลางชวนโยกช้าๆ แต่กลับพาให้นึกย้อนถึงความทรงจำที่แสนอบอุ่นในอดีต คู่ขนานไปกับปัจจุบันที่หม่นหมอง ล่องลอย เดียวดาย เพลงที่ทำให้ทุกอย่างรอบตัวเคลื่อนไหวไปอย่างช้าๆ อ้อยส้อย ไร้จุดหมาย ความทรงจำในอดีตที่เราอาจจะลืมมันไปแล้วเมื่อเวลาผ่านไป เพลงนี้กลับเรียกมันขึ้นมาใหม่ ซึ่งอาจจะทำให้บางคนพบกับความอบอุ่นที่แผ่ซ่าน หรือกับบางคนอาจสวนทาง พบกับความหนาวเหน็บ เปล่าดายยิ่งกว่าเดิม 

เพลงๆหนึ่งมักจะทำงานกับแต่ละคนแตกต่างกันออกไป และเพลงนี้ก็ให้ความรู้สึกหลายอย่างที่ปะปนอยู่ในนั้น วันหนึ่งที่เรามีความสุขเรามักได้ยินเมโลดี้ดังชัดออกมา มันจะกลายเป็นเพลงหวานหู จะรู้สึกว่าท่อนร้อง ลาลาลา ช่วงท้ายเต็มไปด้วยความละมุนละไมเสียเหลือเกิน แต่ถึงอย่างนั้นกลับเป็นความสุขที่ไม่สุด เป็นความสุขแบบขื่นๆ หม่นๆ ปลงๆ แต่หากวันไหนที่เรามีความเศร้าเพลงๆนี้จะขับเนื้อร้องให้ดังชัด ก้องอยู่ในหัว คำร้องทุกคำจะทำให้เรานึกย้อนถึงวันเก่าๆ ท่อนลาลาลา ช่วงท้ายก็จะหงอยๆ เฉาๆ และแผ่รังสีของความเหงาอย่างแรง แต่ในขณะเดียวกันความคิดถึงนั้นกลับให้ความอบอุ่นอย่างประหลาด และนี่คือความ gloomy แบบพิเศษที่มีในเพลงของ NELL เสมอ

นอกจากจะเป็นเพลงที่ถูก cover ไว้มากมายแล้ว วง NELL ก็เคย re-arrange เพลงนี้ไว้ในรูปแบบอะคูสติก ในคอนเสิร์ต NELL'S SEASON 2015 'Beautiful Day' ซึ่งใช้กีตาร์โปร่งเป็นหลัก และเมื่อไม่นานมานี้ได้เรียบเรียงใหม่อีกครั้ง โดยถูกรวมไว้ในอีพีอัลบั้มอะคูสติกล่าสุด "행복했으면 좋겠어" (I wish you happiness) ออกมาเมื่อปี 2018 ซึ่งเป็นอัลบั้มที่รวบรวมเพลงเวอร์ชั่น re-arrange ที่เล่นในคอนเสิร์ต NELL'S SEASON 2018 'HOME' โดยมีส่วนผสมของเปียโนและเสียงร้องที่เป็น autotune เล็กน้อย ความสว่างใสที่เคยปะปนในเวอร์ชั่นต้นฉบับหายไปหมดสิ้น ถูกแทนที่ด้วยความหน่วงเศร้า จมไปกับดนตรีเงียบๆ เบาๆ บวกกับเสียง synthesizer ที่เพิ่มเข้ามาในช่วงท้ายเพลง เป็นสีสันที่เข้ากันกับเพลงได้เป็นอย่างดี  (ใส่หูฟังฟังจะสนุกมาก เพราะเสียงมันวิ่งซ้ายขวา) ให้ความรู้สึกดำดิ่ง เยือกเย็นมากขึ้นกว่าเดิม  ซึ่งโดยส่วนตัวรู้สึกทึ่งกับเวอร์ชั่นนี้อยู่ไม่น้อย เพราะการจะเรียบเรียงเพลงเก่าที่มีเอกลักษณ์และเป็นที่ติดหูของคนส่วนใหญ่แล้วนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ NELL ก็ยังสามารถทำให้มันกลายเป็นเพลงที่ให้ความรู้สึกสดใหม่เสมอ แถมเพราะเอามากๆด้วย

มากกว่า 10 ปีแล้วที่เพลง 기억을 걷는 시간 ถูกปล่อยออกมา จนถึงทุกวันนี้ ก็ถือเป็นเพลงๆหนึ่งที่เหมือนกับเป็นตัวแทนของวง จะเรียกว่าเพลงชาติเลยก็ว่าได้ ถ้าหากจะพูดว่าเป็นเพลงที่แมสที่สุดของวงก็คงไม่ผิดนัก และเมื่อไปเล่นงาน Music Festival ที่ใดแล้วจะมี "기억을 걷는 시간" อยู่ใน Setlist เสมอ (แต่ถ้าเป็นโซโล่คอนเสิร์ตของวงก็ไม่เสมอไปว่าจะเล่น) จะมีท่อน ลาลาลา ท้ายเพลงที่มักจะให้แฟนเพลงร่วมกันร้องเป็นคอรัส โดยพักหลังๆมานี้เริ่มเพิ่มความยาก เมื่อคิมจงวานมักให้แฟนเพลงช่วยกันร้องเป็นคีย์สูงของผู้หญิง และแบ่งฝากคนดูร้องเสริมกันคนละคีย์ ซึ่งสำเร็จบ้าง ล่มบ้าง 5555 เป็นเหมือนคลาสร้องเพลงย่อมๆ ที่ตั้งใจสอนแบบจริงจังมาก เพิ่มความน่ารัก อบอุ่น เป็นกันเองให้กับคอนเสิร์ต