เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Gabriel's Workshop - A Den of Antiquities Spin-Offpiyarak_s
Silence Speaks
  •  In Silence




    ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาแล้ว 

    สิ่งที่ตั้งใจเอาไว้ พอถึงเวลาเข้าจริง ๆ แล้ว ก็ไม่เคยได้ทำอย่างที่คิดเอาไว้สักที
    ต่างคนต่างบอกกันว่า ถ้ามีเวลาว่าง ได้อยู่กันตามลำพังสองคน ก็จะได้พูดคุยกันเต็มที่เสียที
    ท้ายที่สุดแล้ว เมื่อมีเวลาอยู่ด้วยกันตามประสาคนที่รู้จักและผ่านอะไรกันมานาน ก็ไม่เคยได้ทำเช่นนั้น



    อาหารจีน (ที่ตกลงกันว่าจะนั่งกินกันที่ร้านแต่เปลี่ยนใจหลังจากนั้นไม่นานว่าจะซื้อกลับบ้าน) หมดแล้ว
    เบียร์สิงห์ที่ซื้อมาดื่มด้วยกันก็หมดเช่นกัน รายการโทรทัศน์ของคืนก่อนคริสต์มาสไม่มีอะไรพิเศษนัก
    คนในโทรทัศน์กำลังพูดคุยกัน เขาได้ยินเสียง แต่ไม่ได้ใส่ใจฟัง และหลังจากเก็บกวาดทุกอย่างเรียบร้อย
    ต่างคนต่างกลับมาที่ห้องนั่งเล่น พวกเขาทำเพียงแค่นั่งอยู่ด้วยกัน ไม่มีการสนทนาใด ๆ เกิดขึ้นตามเคย


    ไม่ใช่ไม่มีเรื่องคุย แต่จะว่ามีมากจนไม่รู้ว่าจะเริ่มที่ตรงไหนก็ไม่ใช่อีกเช่นกัน
    พวกเขารู้จักกันดี และอาจดีเกินไป จนไม่ขัดเขินหรือใคร่ครวญเกินเหตุก่อนพูดกันแบบซื่อตรงกับใจตัว
    บางที พวกเขาแค่อาจไม่จำเป็นต้องพูด ในเมื่อมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ดีกว่าคำพูดจากปากหลายเท่า


    ในห้องนั่งเล่นเงียบเสียงหลังจากเขาปิดโทรทัศน์ เครื่องแผ่ความร้อนข้างโซฟาทำงานของตัวเองเงียบ ๆ
    เงียบเช่นเดียวกับหิมะที่ร่วงหล่นสะท้อนแสงไฟริมถนนนอกหน้าต่าง เงียบเหมือนคนที่อยู่ด้วยกันตอนนี้


    ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่พวกเขาเริ่มพูดคุยกันด้วยความเงียบ
    ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ที่เสียงหายใจและเสียงหัวใจ สองเสียงที่บ่งบอกถึงชีวิตท่ามกลางสิ่งไร้ชีวิต 

    กลายเป็นสิ่งที่มีความหมายมากสำหรับเขาขนาดนี้


    มือที่เคยสอดเข้ามาในเรือนผมที่เคยเป็นสีเข้มเสมอกันยังคงลูบผมที่มีสีเทาแซมของเขาด้วยกิริยาเดิม
    เหมือนความเคยชิน แต่ในความเคยชินในอิริยาบถเหล่านั้นมีความหมาย แม้ไม่มีเสียงเอ่ยคำใด ๆ สักคำ


    เขาไม่ปฏิเสธว่าเขาชอบความรู้สึกที่ส่งผ่านปลายนิ้วเรียวยาวอย่างคนทำงานศิลปะของอีกฝ่ายเหลือเกิน
    ปลายนิ้วของมือที่มีรอยบาดจากคมเครื่องมือและกร้านจากสารเคมี นิ้วที่ลูบคลำสำรวจไปตามผิวเนื้อไม้
    ของเครื่องเรือนเก่า แกร่งแต่มีบาดแผลและจุดเปราะบางจากกาลเวลาซุกซ่อนเพื่อซ่อมแซมให้ดีดังเก่า


    ก่อนหน้านี้ เขาเคยสงสัยว่า ปลายนิ้วที่สอดสางเส้นผมเขาในเวลานี้ค้นพบสิ่งใดที่เขาเก็บงำบ้างหรือไม่
    เวลานี้ คำถามที่เคยคิดในใจข้อนั้นก็ยังคงอยู่ แต่ด้วยความรู้สึกที่เปลี่ยนแปลงไป จากสงสัยเป็นอัศจรรย์
    แต่บางที... เขาก็อยากรู้ว่า มือที่เคลื่อนไหวเงียบเชียบคู่นี้ค้นพบและซ่อมแซมบาดแผลที่มีได้อย่างไร



    แต่เขารู้ดีว่า ถึงถามไปก็เท่านั้น...


    “มีอะไรหรือเปล่า”


    เป็นครั้งแรกที่ความเงียบถูกทำลายลง แต่ไม่มีอะไรที่สูญหายและไม่มีอะไรเพิ่มเติมมากขึ้นกว่าเสียงพูด
    เขาเพิ่งรู้ตัวตอนที่ได้ยินเสียงนั่นเองว่า ปลายเท้าของเขาที่พาดบนโต๊ะหน้าโซฟาสะกิดถูกเท้าอีกฝ่าย


    “เปล่า...” เขาตอบ หันไปมองคนที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวเดียวกัน “นายอยากไปทำอะไรอย่างอื่นหรือเปล่า”


    คิ้วของคนฟังขมวดหากัน ดวงตาสีน้ำตาลหรี่ลงมองสำรวจหาร่องรอยพิรุธจากคำพูดและสีหน้าของเขา
    ก่อนที่สีหน้าจะเปลี่ยนกลับไปเป็นปกติ ใบหน้าที่เคยนิ่งเฉยเป็นนิจมีรอยยิ้มบางเบาฉาบอยู่บนริมฝีปาก


    “ไม่ว่าอะไรใช่ไหม ถ้าฉันอยากอยู่แบบนี้อีกสักพัก” เขาเอ่ยถาม เลื่อนตัวลงอิงศีรษะบนบ่าคนข้างกาย


    เพื่อนคนเดียวที่ใช้ความเงียบแทนคำพูดที่ไม่อาจเอ่ยออกมาให้ตรงความหมายได้อย่างมีความหมาย
    ส่ายหน้าช้า ๆ มือที่ชะงักอยู่เมื่อครู่นั้นเคลื่อนขยับ สนองตอบคำกล่าวที่เป็นการร้องขอมากกว่าคำถาม


    “ตามใจ”


    ไม่ใช่คำตอบเดียวกับที่เขาเคยได้ยินในครั้งแรกที่เขาแนบศีรษะลงเหนือไหล่ของอีกฝ่ายยามเหนื่อยล้า
    ไม่ใช่คำตอบเดียวกัน แต่เขารู้ว่า ความหมายของคำที่อีกฝ่ายเอ่ยนั้นเป็นสัญญาที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง


    เขาหลับตาลงและยิ้มน้อย ๆ กับตัวเอง


    อาจเป็นตอนนั้นก็ได้ที่พวกเขาเริ่มพูดคุยกันด้วยความเงียบ และได้รู้ว่าเสียงของความเงียบมีความหมาย
    เช่นเดียวกับสัมผัสจากมือและคำตอบรับสั้น ๆ จากคนที่อยู่กับเขามาตั้งแต่วันนั้นจนวันนี้



    เกเบรียลเคยพูดว่า ‘นานเท่าที่ต้องการ’ ... แต่สแตนลีย์รู้ว่า ข้อความนั้นมีความหมายว่า ‘เสมอไป’ 

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
xxhhhllll (@nnchaab)
จากใจคนที่ชอบ In Silence มาก ๆ Silence Speaks อธิบายความสัมพันธ์ของสองคนนี้ต่อได้ดีจนเราตกหลุมรักเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ค่ะ ตกหลุมรักในความสัมพันธ์แสนพิเศษของสองคนนี้และตกหลุมรักในการบรรยายบรรยากาศระหว่างสองคนนี้มาก ๆ อ่านด้วยความรู้สึกว่าเราเป็นคุณสแตนลีย์ และความเงียบทั้งหมดทั้งมวลนั้นโอบกอดเราเอาไว้ แค่นี้ก็รู้สึกอุ่น ๆ ในใจแล้วค่ะ
ยังคงชอบมาก ๆ และจะติดตามต่อไปนะคะ
ขอบคุณที่เขียนงานดี ๆ เช่นนี้ค่ะ :)
piyarak_s (@piyarak_s)
@nnchaab ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ เราจำได้ว่าเคยคุยกันเรื่อง In Silence ด้วย :)

In silence เป็น drabble ที่เราชอบมากเหมือนกันค่ะ บางทีก็สงสัยเหมือนกันว่าจะเขียนอะไรแบบนี้ออกมาได้อีกไหมนะ แต่ในที่สุดก็มี Silence Speaks ออกมาอีกเรื่องจนได้

ดีใจที่ชอบนะคะ ^^
xxhhhllll (@nnchaab)
@piyarak_s รอคอยเรื่องต่อ ๆ ไปด้วยเลยค่ะ :)
ถึงอย่างนั้น In Silence สำหรับเราก็ยังเป็นที่สุดค่ะ อ่านตอนที่ล้ามาก ๆ แล้วเรารู้สึกเหมือนได้รับการปลอบใจไปพร้อม ๆ กัน มันเลยวิเศษมาก ๆ ค่ะ :)