เขาเป็นคนเข้มแข็ง ฉลาด ใจเย็น ไม่มีสถานการณ์ไหนที่เขาควบคุมไม่ได้
นั่นคือ สิ่งที่คนส่วนใหญ่คิดว่าเขาเป็น แต่แท้จริงแล้ว เขาต้องเป็นเช่นนั้นให้ได้
เขาทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และจัดการทุกอย่างจนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ทุกอย่างที่เขาทำคล้ายกับไม่ได้ใช้ความพยายามอะไรเลย แต่ทุกอย่างตรงกันข้าม
เขายิ้ม เขาหัวเราะ เขาเป็นมิตร เขาเป็นศูนย์กลางของทุกคน เป็นที่พึ่งพาของทุกคน
แต่ในเวลาที่เขาเหนื่อย เขาเบื่อ เขากังวล เขาเป็นทุกข์ เขานึกถึงใครไม่ออก นอกจากตัวเอง
จะโทษใครก็ไม่ได้ เพราะเรื่องบางเรื่องก็ยากเกินกว่าจะอธิบายเป็นคำพูดออกมาให้ใครเข้าใจ
อย่างไรก็ตาม ในความโดดเดี่ยวท่ามกลางผู้คนและความเงียบที่ไม่มีใครแปลความหมายออก
ยังมีใครคนหนึ่งที่เข้าใจความหมายของความเงียบ และพูดคุยกับเขาโดยไม่จำเป็นต้องใช้คำพูด
ในความเงียบที่มีเพียงเสียงทอดถอนใจของเขาที่อยู่ตามลำพัง คนคนนั้นได้ยินเสียงของเขา
คนคนนั้นไม่ได้เอ่ยถามว่าเขาเป็นอะไรหรือเกิดอะไรขึ้น เพียงแต่ก้าวเข้ามาหาและนั่งลงข้าง ๆ
เจ้าของมือที่ทำงานละเอียดอ่อนอย่างคล่องแคล่ว แต่แข็งแกร่งพอสำหรับงานที่ต้องใช้กำลัง
วางลงบนบ่าของเขาครู่หนึ่ง แล้วบีบเบา ๆ ก่อนลุกขึ้นและจากไปโดยไม่ได้เอ่ยแม้แต่คำปลอบใจ
แต่สัมผัสจากมือนั้นเหมือนดึงเอาความทุกข์ร้อนเหนื่อยหน่ายที่ไม่อาจเอ่ยออกมาได้ออกไปด้วย
เขาเรียกชื่อของคนที่กำลังผละไป อีกฝ่ายหยุดยืนอยู่ตามคำเขาที่เอ่ยขอ “อยู่นิ่ง ๆ สักครู่ได้ไหม”
คนฟังไม่ได้ตอบ แต่ก็ไม่ปฏิเสธและไม่เบี่ยงหนี เมื่อเขาก้มลงแนบหน้าผากลงกับบ่าข้างหนึ่ง
พวกเขายืนอยู่ด้วยกันอย่างนั้น ในความเงียบ และในความมืดของห้องทำงานที่ไม่มีใครอื่น
เสื้อที่เจ้าของไหล่ที่เขายืมใช้เป็นที่พักพิงชั่วคราวเป็นเสื้อฟลีซตัวเก่าสวมทับเวลาทำงาน
กลิ่นอายที่สัมผัสได้จากร่างตรงหน้า คือ กลิ่นสะอาดของผ้าที่ผ่านการอบกับกลิ่นจากงานไม้
กลิ่นของไม้โอ๊ก หรืออาจจะเป็นไม้บีช เจือกับกลิ่นหอมของน้ำมันผิวมะนาวสำหรับทาผิวไม้
และดูเหมือนว่า จะมีกลิ่นอ่อน ๆ ของวานิลลาที่มาจากกระดาษของหนังสือเก่าปนมาด้วย
กลิ่นเหล่านี้ทำให้เขานึกถึงมุมอบอุ่นหน้าเตาผิงในบ้านที่หลบเร้นจากความวุ่นวายทั้งหลาย
คนที่เขาขอร้องให้หยุดยืนอยู่อย่างนั้นไม่ได้ขยับเขยื้อนไปไหน
ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นมีเพียงแรงสะท้อนของจังหวะหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ
และมือที่เอื้อมมาหาเขาที่อยู่ด้านหลัง กับนิ้วยาวที่ลูบผ่านเส้นผมของเขาแผ่วเบา
เขารู้สึกว่าศีรษะของอีกฝ่ายเอนลงแนบกับศีรษะของเขา ก่อนที่ฝ่ายหลังจะเอ่ยขึ้น
เป็นคำตอบของคำถามกึ่งของร้องที่เขาถามก่อนหน้านี้ “นานเท่าไหร่ก็ได้ ตามที่ต้องการ”
จากวันนั้นจนถึงวันนั้น ในวันที่ผมสีน้ำตาลต่างคนต่างมีสีขาวแซมอยู่จนทั่ว
มือของคนที่สัมผัสและซ่อมแซมเครื่องเรือนเก่าในความดูแลของตนอย่างทะนุถนอม
ยังคงเป็นมือเดิมที่สัมผัสใบหน้าและนิ้วยาวที่ลูบผ่านเส้นผมของเขาอย่างระมัดระวังยิ่งกว่า
ไม่มีคำปลอบใจ ไม่มีคำพูดใด ๆ ทั้งสิ้นระหว่างกัน มีเพียงความเงียบตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน
แต่สำหรับเขาแล้ว ความเงียบและการสัมผัสที่แบ่งเบาเอาความกลัดกลุ้มกังวลออกไปนั้น
เป็นวิธีการที่ดีทีสุดยิ่งกว่าคำปลอบโยนใด ๆ หรือเวทมนตร์วิเศษบทไหนบนโลกใบนี้
เขาจำได้ว่า อีกฝ่ายเคยบอกว่า ตนเองคิดไม่ผิดที่ยังคงทำงานอยู่ที่นี่ ในร้านของเก่าแห่งนี้
แต่เขายังไม่เคยบอกกลับไปเลยว่า เขาโชคดีมากแค่ไหนที่อีกฝ่ายยังคงอยู่ที่นี่กับเขาจนถึงวันนี้
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in