มันเป็นเรื่องน่าหดหู่ใจยิ่งกว่าอะไร เพราะแม้แต่ในสถานที่ที่สามารถถูกมองเห็นได้ง่ายที่สุดก็ยังไม่มีใครมองเห็นคุณ จะบอกว่าเจ็บปวดใจ ความรู้สึกของคุณมันก็ไปไกลกว่าคำนั้นแล้ว คุณรู้สึกชาแต่ไม่ชิน คล้ายว่าตัวคุณกำลังแตกสลายจากข้างใน ความพยายามมากมายที่ทุ่มเทลงไปมักทำให้เกิดคำถามอยู่เสมอว่า...
‘ต้องมากเท่าไรถึงจะพอ’ ทำไมการเป็นตัวเองถึงได้เหนื่อยมากขนาดนี้ ไล่ตามสิ่งที่ไม่เคยมีอยู่ ไล่ตามสิ่งที่มองไม่เห็น กังวลอนาคตที่ยังไม่เกิด สารพันปัญหามากมายรายล้อมรอบตัว
ทั้งเวลาที่เคยมีกับคนสำคัญถูกขโมยไป ความสำคัญที่เคยมีต่อใครคนนั้นถูกลดทอนลง ทั้งการริเริ่มในบางสิ่งที่สุดท้ายแล้วก็ไม่มีใครรับรู้ว่าคุณก็เป็นส่วนหนึ่งของการเริ่มต้นนั้น ทั้งการถูกทิ้งเอาไว้กลางทาง ทั้งเรื่องของใครคนหนึ่งที่หวังอยากให้ระยะห่างของความสัมพันธ์นั้นลดลงแต่กลับกลายเป็นยิ่งห่างไกลออกไปทุกที และเรื่องที่พยายามทำสิ่งต่าง ๆ ให้ดีขึ้นแต่กลับถูกมองข้าม
หลายสิ่งหลายอย่างที่ว่ามานั้นมันทำให้คุณเหนื่อยจนท้อ ความรวดร้าวนั้นมันกำลังบั่นทอนหัวใจของคุณทีละน้อย
ราวกับจมดิ่งลงไปยังหุบเหวที่ไร้ก้นบึ้ง ไม่ว่าที่ไหนก็ไม่มีตัวตนของคุณอยู่เลย ไม่ว่าจะพยายามมากเท่าไรก็ไม่มีใครมองเห็น ทั้งสถานที่ที่เคยเป็นความอบอุ่นใจ ทั้งสถานที่ที่เคยคิดว่าอาจจะมีใครสักคนมองเห็น ไม่ว่าจะเมื่อก่อนหรือตอนนี้ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลย
บางครั้ง...ชั่วขณะที่หลงคิดว่าตัวเองก็มีตัวตนนั้นทุกอย่างตรงหน้าก็มักจะอันตรธานหายไป แม้กระทั่งใครคนหนึ่งที่พร้อมรับฟังเสียงในใจนี้
สุดท้ายแล้วก็ยังหลุดลอยไป สิ่งสำคัญที่หวังว่าจะคงอยู่ อาจไม่ตลอดไปแต่ก็อาจจะนานมากพอจนถึงวันที่คุณสามารถบอกกับใครคนนั้นได้ว่าคุณไม่เป็นไรแล้ว แต่บทสรุปของเรื่องราวก็ยังคงเดิม พวกเขาหายไปก่อนที่คุณจะทันได้พูดอะไร
ทุกอย่างรอบตัวคุณกลับมาว่างเปล่าอีกครั้ง เพราะอย่างนั้นคุณจึงไม่สามารถทนกับความรู้สึกที่อัดอั้นอยู่ภายในใจนั้นได้อีกต่อไป ไม่อยากทุ่มเทให้กับอะไรก็ตามที่ไม่เคยได้อะไรกลับคืนมา ไม่อยากพยายามทั้งที่ไม่มีใครมองเห็น ไม่อาจแบกรับทุกความกังวลเอาไว้ได้ ไม่อาจเมินเฉยต่อสายตาคนรอบข้างที่แสดงถึงความผิดหวังในตัวคุณ และ…
ไม่สามารถพูดกับตัวเองซ้ำ ๆ ได้อีกต่อไปว่า 'ไม่เป็นไร'
ความอดทนมาถึงขีดสุดแล้ว... หัวใจของคุณพังทลาย จิตวิญญาณของคุณลอยละล่อง และในหัวนั้นคุณกำลังคิด...
ทุกปัญหา ทุกสิ่งที่กังวล ทุกเรื่องราวทั้งหมดนั้นวนเวียนฉายซ้ำ หลายสิ่งหลายอย่างนั้นคุณอยากจะละวาง อยากจะปล่อยผ่านมันไป แต่ก็ไม่อาจทำได้ และเพราะไม่อาจวางเฉยได้ สิ่งเหล่านั้นจึงทำร้ายคุณซ้ำ ๆ ซึ่งคุณก็รู้ดีแก่ใจ
รู้...แต่ทำอะไรไม่ได้เลย
ประตูทางออกอยู่ตรงหน้าแต่คุณก็ไม่อาจก้าวผ่านมันไปได้ เพราะความกลัวฝังลึกอยู่ในใจ หยั่งลึกลงถึงจิตวิญญาณ สิ่งเดียวที่คุณทำคือเฝ้าหวังว่าจะมีใครสักคนอยู่หลังประตูบานนั้น และหวังให้ใครสักคนที่ว่าพาคุณออกไป
เหนือสิ่งอื่นใด...คุณวาดหวังถึงการมีตัวตน ณ ที่ไหนสักแห่ง ด้วยเหตุนั้น...
แม้ว่าใจจะแหลกสลาย...แต่คุณก็จะดิ้นรนมีชีวิตอยู่ต่อไป
จนกว่าสิ่งที่เฝ้าหวังนั้นจะเป็นจริง
จนกว่าความหวังทั้งหมดที่มีจะมลาย
--------------------------------------------------------
02/02/2561 เวลา 00.23น.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in