.
ได้แต่สอดสางมือลูบโลมเรือนผมสีอ่อน
ปลอบโยนเขา ทั้งที่ตนเองก็หนักใจ
คริสไม่อยากเป็นดอนขนาดนี้
ถ้าเขากล่อมให้เจ้าตัวยอม
จะถูกตราหน้าว่าเป็นคนทรยศหรือเปล่า?
ระหว่าง
คุณ กับ
เราผมควรปกป้องอะไร?.
.
"นั่งสิ ต้องให้สั่งทุกอย่างหรือไง"
ทอมยังยืนอยู่ที่เดิม "ตรงไหนล่ะ"
"ทอม"
"ถ้านั่งไม่ถูกที่ ไม่ถูกใจ แล้วพี่แจ็คเป็นอะไรไป ผมต้องรับผิดชอบนะ ก็ต้องระวังสิครับ บอส"
ฟินน์ขบกรามเบาๆ มือตบที่ว่างข้างตัว
"ตรงนี้"
คนตัวเล็กหย่อนร่างลงสุดริมโซฟา
ฟินน์ส่ายหัว "มาใกล้ๆ ก็ได้"
ทอมกัดริมฝีปาก แกล้งขยับตัวเข้าหา
ใกล้...จนเกินจำเป็น
พูดให้ชัด คือเกยขึ้นตัก
เรียวปากนุ่มพรมเสียงกระซิบลงข้างหู
"ใกล้..." จุ๊บห่วงสีเงินเบาๆ "...พอรึยัง"
ฟินน์เสหน้าหลบ
จับมือเล็กที่ล้วงเข้าไปในอกเสื้อตนได้ทัน
ก่อนปากกาในนั้นจะถูกฉวยฉกออกไป
"คำนวณดีแล้วใช่ไหมว่าจะไปถึงโรงพยายาลทันน่ะ"
เขาปรามาส ดึงมือเล็กออก มือเรียวอีกข้างตวัดส่งสัญญาณบอกบอดี้การ์ดข้างหลังตนว่าไม่ต้องเคลื่อนไหวอะไร ก่อนหันกลับมา ผลักคนบนตักลงไปนั่งบนโซฟาดีๆ
"อย่าทำแบบนั้นอีก"
ทอมมืดแปดด้านเมื่ออะไรก็ไม่ได้ผล
หมอนี่ฉลาดเกินไป"คุณบรานาห์มาถึงแล้วครับ"
เลขาฯ เข้ามาแจ้งข่าว ฟินน์พยักหน้า
ฝ่ายกฎหมายของเอิร์ลถือกระเป๋าเดินเข้ามา
สีหน้าไม่สู้ดีนัก
เพราะทอม กลินน์-คาร์นีย์ —ในฐานะผู้กุมอำนาจของเอิร์ลขณะนี้— กำลังจะต้องเซ็นเอกสารยกกิจการทุกอย่างของแก๊งเอิร์ลทั้งถูกและผิดกฎหมายให้กับฟินน์ ไวท์เฮด แลกกับชีวิตของแจ็ค ลาวเดน
ต้องทรยศเอิร์ล เพื่อช่วยเอิร์ล
ทอมขอโทษ...ขอโทษจริงๆต่อให้สุดท้ายพี่จะไม่ให้อภัยทอม
ทอมก็ยังยืนยันว่าชีวิตพี่สำคัญกว่า
ต่อให้พี่ฟื้นขึ้นมาแล้วจะไม่อยากพบทอมอีกก็ไม่เป็นไร วันนี้จะทำให้ทอมต้องเสียพี่ไปก็ไม่เป็นไร เพราะตราบใดที่พี่ยังมีชีวิต...ขอแค่พี่มีชีวิตต่อไป ทอมจะทำทุกทางให้เราได้กลับมารักกันใหม่ พี่ยังอดทนกับทอมมานานจนถึงวันนี้ได้ ทอมก็ต้องทำได้เหมือนกัน
ต้องทำให้ได้"แค่ตรงนี้ใช่ไหมครับ" ทอมถามเสียงเบา
เคนเนธพยักหน้า "ครับ ทุกฉบับ..."
ฟินน์ยื่นปากกาให้
ทอมยื่นมือไปรับ
ฟินน์ยื้อกลับ
ยกนิ้วชี้ขึ้น ให้รอ
"..." มือเล็กกำแน่นจนข้อขาวโพลน
อีกฝ่ายสั่งลูกน้องส่งโทรศัพท์มาให้
ต้องลากสายยาวกว่าจะวางบนโต๊ะได้
ฟินน์ต่อสายถึงโรงพยาบาล
ถึงลูกน้องของตนที่เฝ้าห้องแจ็ค
"ถ้าสายตัดโดยฉันไม่พูดอะไร ก็ยิงได้เลย"
ก่อนยื่นปากกาให้ทอมรับไปช้าๆ
ให้คิดดีๆ หากจะตุกติกการเซ็นเอกสารเป็นไปอย่างเงียบเชียบ มีเพียงเสียงหัวปากกาเสียดสีแผ่นกระดาษ เคนเนธเหงื่อตกโดยไม่มีเหตุผล แค่จู่ๆ คนของไวท์เฮดโผล่ไปเคาะประตูบ้าน กรรโชกให้เตรียมทุกอย่างตามที่บอสพวกมันสั่งเขาก็หัวใจจะวายตายอยู่แล้ว ไม่มีอะไรรับประกันด้วยซ้ำว่างานเสร็จฟินน์จะปล่อยเขาเดินกลับออกไปแบบมีชีวิต
แต่คนรับแรงกดดันมากกว่าเขาก็คือทอม
เขาดูแลการเซ็นสัญญาสมรสระหว่างทั้งคู่มาแล้วสองครั้ง ไม่ใช่ญาติผู้ใหญ่ก็เหมือนใช่ ไม่มีคุณคริส คนที่ทำงานให้คำปรึกษาเอิร์ลอย่างใกล้ชิดที่สุดก็คือเขาและในทางโหดเหี้ยมกว่านั้นก็คือทอม แม้สองแก๊งจะยังแค่ร่วมงานกันอยู่ แต่ในทางปฏิบัติก็แทบจะเหมือนรวมกันเป็นองค์กรเดียวไปแล้ว ในเมื่อผู้นำสูงสุดของทั้งสองฝั่งเป็นคู่ชีวิตกันจริงๆ และทำอะไรก็ปรึกษากันแทบตลอด
แต่วันนี้เรดแฮนด์ถูกบังคับให้หักหลังเอิร์ล
แค่คิดเขายังเจ็บปวดแทน
"ไม่ต้องรีบ..."
ฟินน์กระซิบปลอบ เสียงอ่อนกว่าทุกครั้ง
เพราะคนเซ็นกำลังปล่อยน้ำตาให้ไหลลงมา
ตวัดปากกาครั้งสุดท้าย
ผ้าเช็ดหน้าสีดำก็ถูกหยิบยื่นให้
"เรียบร้อยแล้ว" ฟินน์เอ่ย ก่อนวางหูโทรศัพท์
คนแก้มเปียกไม่รับน้ำใจ
"หมดเรื่องแล้วใช่ไหม ปล่อยพี่แจ็คได้รึยัง"
"หันมาก่อน"
ใบหน้าสวยไม่ได้ขยับ
มือเรียวบีบคางสวยให้หันมา
ซับน้ำตาบนแก้มนั้นหนึ่งครั้ง
ยัดผ้าเช็ดหน้าใส่มือเจ้าตัว
"ผมสงสัยอะไรอย่าง คุณเคนเนธ..."
"..."
ฟินน์ละสายตาจากทอม
"ถ้าอยากเคาะประตูบ้านคุณดาร์ซี ให้คุณหรือทอมไป เขาจะตอบรับไวกว่ากัน"
"นายจะเอาอะไรอีก!"
ร่างเล็กเริ่มขึ้นเสียง
แต่ฟินน์แค่คว้าหูโทรศัพท์ขู่เท่านั้น
เขาก็ต้องยอมข่มใจให้เย็นไว้
หมอนี่ไม่ได้ต้องการยึดแค่เอิร์ลจริงๆ ด้วย"ลืมไปว่ามีอย่างอื่นให้คุณทำ คุณเคนเนธ ช่วยส่งเอกสารทางกฎหมายทุกอย่างที่คุณจัดการให้เอิร์ลมาออฟฟิศผมทีนะ รวมทั้งของฝ่ายบัญชีด้วย ถ้ามันเยอะไปก็เอาลูกน้องผมไปช่วย..."
ฟินน์ยืดตัวเต็มความสูง
ฉุดข้อมือเล็กตามขึ้นมา
"ผมจะพาทอมไปเยี่ยมพวกเรดไรท์แฮนด์สักหน่อย..."
.
.
แบร์รี่ชวนอนายรินออกมาเยี่ยมแจ็ค
แต่การ์ดของฟินน์ไม่ยอมให้เข้าใกล้แม้แต่หน้าประตูด้วยซ้ำ ลงท้ายเลยต้องยอมกลับไปอย่างเสียเที่ยว เขาพาอนายรินไปเดินเล่นแทน หิมะขาวโปรยปรายลงมาทำให้ค่ำคืนสว่างไสว อากาศหนาวเหมาะแก่การจับมือใครสักคนนัก และคนข้างๆ ก็เต็มใจอยากจับด้วยสุดๆ แล้ว
"กินไอติมได้ไหม"
"อากาศแบบนี้น่ะนะนาย"
"มีกฎหมายห้ามเหรอ"
"ครับ ได้ครับ อยากทำอะไรทำเลย"
แบร์รี่ซื้อไอศกรีมร้านข้างทางให้
"อันเดียวเหรอ"
"ต้องประหยัด เดี๋ยวคงโดนไล่ออกแล้ว"
"แบร์..."
เจ้าตัวยังยิ้ม "อย่างแย่กว่าก็แค่โดนตามเก็บ"
"อย่าพูดแบบนั้นสิ แจ็คคงไม่..."
"เอาตรงๆ แบร์จะรู้สึกดีกว่าถ้าแจ็คทำ"
"ถ้ารู้แบบนั้นแล้วช่วยนายทำไม"
"ก็...งานหาใหม่ได้ แต่นายหาใหม่ไม่ได้แล้ว"
คนที่สำคัญกับเขามาตั้งแต่เด็กจนโต
เหลืออยู่แค่คนเดียวบนโลก
จะให้ทำยังไงได้ล่ะ...?
"..." อนายรินยืนนิ่งกับสิ่งที่ได้ยิน
แบร์รี่ยิ้ม แกล้งผลักมือคนเลียไอติมค้างไว้
ของหวานเนื้อเนียนเลอะปากอนายรินไปหมด
"มีผ้าเช็ดหน้าไหมอะ...นี่ หยุดหัวเราะเลย ขี้แกล้งชะมัด" อนายรินตีอกเขาเบาๆ
"ไม่มี...หันมานี่"
แบร์รี่ประคองใบหน้าหวานด้วยสองมือ
ค่อยๆ เคลื่อนริมฝีปากเข้าไปใกล้...
เกลี่ยลิ้มชิมรสไอศกรีมจนหมดจด
คนถูก 'เช็ดปาก' ให้ก้มหน้างุด
ฝังใบหน้าลงกับอกลูกน้องมาเฟีย
"ไม่ชอบเหรอ...แบร์ขอโทษ...เร็วไปใช่ไหม..."
อนายรินสั่นหัวดิ๊ก
"งั้นเป็นอะไร ไหนบอกแบร์หน่อย..."
"ฮึก..."
"ร้องไห้ทำไมอีกล่ะครับ นางฟ้าของผม"
ถ้าบอกความจริง...แบร์รับได้ไหม
ถ้าคนคนนี้ไม่ได้ดีอย่างที่เห็น
รับได้หรือเปล่า?
"นาย...?"
เจ้าของชื่อเงยหน้าขึ้น
"นายอยากให้แบร์รู้เรื่องหนึ่ง ก่อนตัดสินใจเรื่องของเรา..."
"เรื่องอะไร?"
นัยน์ตากลมโตคู่นั้นหลุบต่ำ
เสียงหวานเปล่งออกมา แค่พึมพำ
"ฟินน์ไม่ได้บังคับนาย..."
อะไรนะ?
หมายความว่ายังไง?.
.
'ฉันให้เวลานายมามากแล้ว พี่แจ็คก็ยังไม่ฟื้นอยู่ดี จะไปกันได้หรือยัง'เสียงใคร?
เปลือกตาหนักอึ้ง จนไม่อยากแม้แต่จะพยายามเปิด โสตประสาททำงานชัดเจนกว่าปกติหลายเท่า ได้ยินแม้แต่เสียงโลหะขนาดเล็กกระทบกับสิ่งที่น่าจะเป็นโต๊ะไม้เหนือหัวเตียง เขาขยับตัวไม่ได้ ลำคอยังส่งเสียงไม่ได้
แต่เมื่อมืออุ่นๆ กุมมือเขาเอาไว้
เขาบีบตอบคนถูกบีบเหมือนจะสัมผัสได้
แม้แผ่วนัก แต่ยังรู้สึก
เมื่อเข้าใจว่าเขามีสติรับรู้
ใครคนนั้นจึงก้มลงมากระซิบ
"ฟินน์เป็นคนทำ..."
ทอม...?
"...ผมรักพี่นะ"
ทอมใช่ไหม?สัมผัสอุ่นเล็กๆ ประทับลงบนหน้าผาก
ตามด้วยแก้ม กราม และริมฝีปาก
ตามด้วยความเปียกชื้น...ขมขื่น
น้ำตา?
ไม่เอาสิ ทอม...อย่าร้องไห้ได้โปรด...อย่าร้อง
.
.
"..."
หลังทอมจากไป แจ็คไม่รู้เลยว่ามันนานแค่ไหน แต่เขารู้สึกตัวอีกครั้งตอนพยาบาลเข้ามาเปลี่ยนถุงน้ำเกลือให้
เขาแง้มเปลือกตาเพียงน้อยนิด ไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าตนฟื้นแล้ว เขาจำหน้าคนในแก๊งได้ทุกคน ชายชุดดำสองคนที่หน้าประตูไม่ใช่คนของเขาแน่ สถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจ ไม่รู้เลยว่าจะไว้ใจใครได้
แม้แต่แบร์รี่ยังหักหลังเขาลง
แต่มันคงถูกบังคับ
เพราะอย่างที่ทอมแอบกระซิบบอก
ฟินน์อยู่เบื้องหลังเหตุรถคว่ำของเขา
"ขออนุญาตนะคะ..."
พยาบาลกระซิบ แม้ไม่อาจทราบได้ว่าคนเจ็บรู้สึกตัวหรือไม่ เธอวุ่นวายกับเสาน้ำเกลืออยู่พักหนึ่ง เขาอาศัยจังหวะที่พวกการ์ดหันมองทางอื่น ส่งเสียงในลำคอเบาๆ
"อ..."
ชู่วรีบปรามเมื่อนางพยาบาลจะพูด
เธอเข้าใจทันทีว่าต้องเงียบเสียงลง
แสร้งทำเป็นจะปรับหมอนให้
จึงโน้มตัวเข้าไปหาคนเจ็บ
ฟังคำขอร้องจากเขา
"ช่วยอะไรผมอย่างสิ..."Next Episode: Way Down We Go 2 (Part
III here)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in