เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
บ่นเรื่อยเปื่อยJan A E-nee Kitsada
ความแตก
  • เคยสังเกตไหมว่าความสุขมักอยู่กับเราได้ไม่นานก็จางหายอย่างรวดเร็วราวกับหมอกที่เกิดขึ้นในตอนเช้าและสลายไปในช่วงพริบตา ชีวิตแต่งงานของตะปูดูเหมือนจะราบรื่นและมีความสุขตลอดเกือบ 2 ปีแต่แล้วก็มีเรื่องราวบางอย่างไม่คาดฝันเกิดขึ้นกับชีวิตของตะปูอย่างไม่ทันตั้งตัว โดยช่วงนั้นนักมวยรุ่นน้องคนรักของตะปูต้องเดินทางกลับเมืองไทยถือเป็นการเดินทางกลับตามปกติเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมาแต่การกลับไปของเขาในครั้งนี้มันกลายเป็นความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตของตะปูเลยทีเดียว

    เมื่อนักมวยรุ่นน้องคนนี้เดินทางกลับซิดนีย์ก็เกิดความเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ช่วงแรกตะปูไม่ได้สงสัยความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นมากนักนึกแต่ว่าคงเกิดจากความเหนื่อยล้าจากงานที่ทำในซิดนีย์ ไม่ได้เอะใจว่าคนรักตัวเองเปลี่ยนแปลงเพราะเรื่องอื่น 

    ในที่สุดตะปูเริ่มสงสัยกับอาการของคนรักที่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือไม่ว่าจะเป็นการคุยไลน์ในมือถือนานขึ้น พยายามจะพลิกโทรศัพท์หนีเวลาพิมพ์ข้อความแล้วตะปูมองเพื่อไม่ให้ตะปูเห็น แอบคุยโทรศัพท์เมื่อตะปูเดินมาเห็นก็รีบว่าง ติดโทรศัพท์ไม่ยอมห่างหรือวางไว้เลยถ้าอยู่กับตะปู และอื่น ๆ อีกมากมาย

    ด้วยสัญชาตญาณความเป็นผู้หญิงตะปูมั่นใจในทันทีว่าต้องมีอะไรเกิดขึ้นกับคนรักของเธออย่างแน่นอน ตะปูเริ่มสังเกตพฤติกรรมของนักมวยรุ่นน้องอยู่ห่างๆ ไม่พยายามแสดงอาการว่ากำลังจะค้นหาความจริงจากเขา ตะปูเริ่มเช็คเฟสบุ๊คคนรักของตัวเองและอดีตแฟนเก่าของนักมวยรุ่นน้องคนนี้

    ในที่สุดภาพที่ทำให้ตะปูตกตะลึงงงเป็นไก่ตาแตกพูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ เป็นภาพที่อยู่ในเฟสของคนรักของเธอเองเพราะภาพที่ถ่ายลงเฟสเป็นสถานที่เดียวกันกับอดีตแฟนเก่าของนักมวยรุ่นน้องคนนี้เพียงแต่ไม่ได้ถ่ายภาพคู่กัน แต่ระยะเวลาที่ลงในเฟสใกล้ ๆ กัน  ตะปูพยายามคิดในทางที่ดีแต่เมื่อดูภาพไปเรื่อยๆ  ก็เริ่มมั่นใจเพราะมีหลายภาพมากที่เป็นแบบนี้  

    “มันไม่ใช่ความบังเอิญแน่นอน”ตะปูมั่นใจในสิ่งที่ตัวเองเห็นแต่ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดพอที่จะยืนยันสิ่งที่ตัวเองคิดได้

    วันหนึ่งตะปูอดรนทนไม่ไหวจึงโพล่งถามนักมวยรุ่นน้อง

     “ถามจริง ๆมีใครใหม่หรือป่าว”

    “ไม่มีครับ”

    “ถ้ามีก็บอกได้นะ ไม่ชอบคนโกหก”

    “ไม่มีใครจริง ๆ “นักมวยรุ่นน้องตอบเสียงอ่อย ๆ

    “ทำไมช่วงนี้ติดโทรศัพท์จังมีอะไรหรือป่าว”ตะปูแกล้งถาม

    “ไม่มีอะไรมาก แฟนคลับพิมพ์มาคุยด้วยนะ” ตะปูพยายามเข้าใจเรื่องนี้มาโดยตลอด เพราะเขาเป็นนักมวยชื่อดังจึงมีแฟนคลับที่มาติดพันและชื่นชอบถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา แค่มั่นใจว่าการพิมพ์คุยกันไม่ได้มีอะไรไปมากกว่านั้นได้ ตะปูจึงปล่อยให้พิมพ์คุยกันไม่อยากเข้าไปขัดขวางคนที่ชื่นชอบในตัวเขา แต่คราวนี้ไม่เหมือนเดิมเพราะการกระทำ พฤติกรรมของนักมวยรุ่นน้องคนนี้เปลี่ยนไปมาก มากเสียจนตะปูไม่เชื่อว่าเป็นแฟนคลับ

    แล้วทำไมห่วงโทรศัพท์จัง”

    “ห่วงที่ไหนกัน เอาอะไรมาพูด”

    “ทำไมต้องเอาโทรศัพท์เข้าไปในห้องน้ำด้วย”

    “ไม่มีอะไรจริงๆ“ตะปูไม่เชื่อในสิ่งที่นักมวยรุ่นน้องคนนี้บอกเธอยังคงเก็บงำความรู้สึกไม่แสดงออก

    และแล้วเหตุการณ์ที่ทำให้ชีวิตรักตะปูต้องขาดสะบั้นลงเกิดขึ้นในค่ำคืนหนึ่งตอนที่นักมวยรุ่นน้องอยู่กับตะปูในห้องเกิดอาการปวดท้องกระทันหันจึงเดินเข้าห้องน้ำโดยลืมหยิบโทรศัพท์ติดมือเข้าไปเช่นทุกครั้ง ตะปูนิ่งแสร้างทำเป็นไม่สนใจรอจนกว่าคนรักของเธอเดินเข้าห้องน้ำไปแล้วจึงจัดการล๊อคห้องน้ำด้านนอกทันที

    เธอรีบคว้าโทรศัพท์เปิดดูทันทีขณะที่นักมวยรุ่นน้องที่ติดอยู่ในห้องน้ำก็เอะอะโวยวายส่งเสียงตะโกนให้เปิดประตูพร้อมทุบประตูเสียงดังแต่วินาทีนั้นตะปูไม่สนใจเสียงรอบข้างยังคงก้มหน้าก้มตาดูโทรศัพท์อย่างเอาเป็นเอาตาย

    ในที่สุดตะปูรับรู้ความจริงและเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดจากโทรศัพท์เครื่องนั้น หลักฐานแน่ชัดไม่ว่าจะเป็นข้อความที่พิมพ์คุยกัน คำหวานคำรักที่พร่ำเพ้อรำพันถึงกันภาพถ่ายคู่กันตามสถานที่ต่าง ๆ ที่ลงในเฟส  ตะปูปลดล๊อตประตูห้องน้ำ ยืนโทรศัพท์คืนเขา

    “สรุปจะเลือกใคร”

    “ผมเลือกใครไมได้ ผมรักทั้งสองคน”

    สิ้นเลียงตอบชองชายคนรักตะปูวิ่งออกมาจากห้องอย่างไม่สนใจใยดี ทิ้งร่องรอยความเจ็บปวดไว้ข้างหลัง 

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in