เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
The Dream Devourers #นักกินฝันdaiong
[ฝันที่ 1] บทที่ 1 : ออกรัง
  • [ฝันที่ 1]

    หนึ่งดวงจิตกลืนกายเนื้อ 499 คน



    บทที่ 1 : ออกรัง



    ลีอาร์ โรเชสเตอร์ หนุ่มผิวสองสี หน้าตาเนือย ดวงตาสีดำลึกโหล และผมยุ่งประบ่าสีเดียวกัน โหนกแก้มสูงชวนให้ใบหน้าดูคล้ายอิสตรี รูปร่างเขาก็ผอมเก้งก้างแบบชายหนุ่มวัยกำลังโตคนหนึ่ง การกระทำของเขาก็เนือยไม่แพ้หน้าตา กระทั่งจะตรวจว่าตัวเองผ่านรายชื่อเข้ารอบการคัดเลือกเพื่อสอบเป็นนักกินฝันรึยังนั้น เขาก็ยังดองไปเป็นวัน ส่วนหนึ่งก็เพราะเขาจำไว้คร่าว ๆ เท่านั้นเองว่ามันประกาศเมื่อไร อีกส่วนหนึ่งก็เพราะเขาไม่อยากเอาเวลาไปเสีย ด้วยการเอาคอมพิวเตอร์เครื่องเก๋ากึ้กไปเปิดดูรายชื่อจากเว็บไซต์องค์กรผู้วิเศษในวันและเวลาที่ทุกคนจะรุมเช็คมัน


    “ผ่าน…” เขาพึมพำขณะโน้มเข้าไปมองหน้าจอคอมใกล้ ๆ  “ค่อยยังชั่ว” เงียบไปพักหนึ่งระหว่างที่ชายหนุ่มกำลังไล่อ่านรายละเอียดที่ทางองค์กรมอบให้ ก่อนจะปิดหน้าจอคอมเพื่อทิ้งมันไว้ชั่วคราว แล้วเดินลงไปชั้นล่าง เขาแว่วเสียงลุงโรเบิร์ตคุยกับลูกค้าผู้มาเช่าอาศัยอยู่ที่โรงเตี๊ยม


    “ตอนลีอาร์เกิดน่ะ... ไม่ยอมออกจากดักแด้ตัวเองตั้งปีครึ่ง...” เสียงของลุงตามมาด้วยเสียงแก้วเบียร์สดที่วางลงเสิร์ฟให้ลูกค้า “นานที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมา”


    “โอ้โห ไม่อยากจะเชื่อ ปกติก็แค่เก้าเดือนแท้ ๆ” สาวนักท่องเที่ยวกล่าวด้วยสำเนียงแปร่งหู

    “นั่นสินะ แต่กรณีแบบนี้นาน ๆ ทีก็มีให้เห็นอยู่นะ”


    “อืม...” หญิงสาวพยักหน้าช้า ๆ “ถ้ามองในแง่ดีก็น่าจะแปลว่าสะสมพลังงานจาก ‘ชาติก่อน’ มาเยอะนะคะ”


    ซึ่งหากมองในแง่ที่อาจไม่ดีนัก บ้างก็ว่าวิญญาณของลีอาร์มีเหตุติดค้างกับโลกมนุษย์ ลีอาร์ได้แต่คิดแบบนั้นระหว่างฟังเจ้าหล่อน ก่อนจะโบกมือทักทายลุงโรเบิร์ต แล้วก้าวเข้าไปช่วยจัดเรียงแก้วที่ล้างเสร็จแล้วที่เคาน์เตอร์บาร์


    “อ้าว นี่ไงครับ พูดถึงก็มาเลย ลีอาร์ที่ผมอุปถัมภ์ไว้” ลุงโรเบิร์ตกล่าวเป็นเชิงแนะนำ ลีอาร์ยิ้มสุภาพแล้วกล่าวสวัสดีทักทาย ด้วยความที่ชาวเมโดว์แบงค์ไม่ได้มี ‘ลูกแท้ ๆ’ เป็นส่วนมากกัน จึงมักจะแนะนำตัวผู้ที่อยู่ในความดูแลของตนในฐานะเด็กที่อุปถัมภ์เอาไว้


    หนึ่งในความแตกต่างระหว่างชาวเมโดว์แบงค์กับมนุษย์โลกนั้นก็คือ วิธีการเกิด มนุษย์โลกจำนวนหนึ่งมักจะตั้งคำถามว่าตายแล้วไปที่ไหน ส่วนใหญ่แล้ว พลังงานที่หลงเหลือของมนุษย์ที่ตายแล้วจะเคลื่อนผ่านมิติไปสู่เมโดว์แบงค์ สะสมจนกลายเป็นดักแด้ตามถ้ำติดแหล่งน้ำ อย่างไรก็ดี บุคคลหรือคู่ที่ปรารถนาจะมีลูกเป็นของตัวเองก็สามารถสร้างตัวอ่อนเป็นของตัวเองได้ แต่นับว่าไม่มีให้เห็นมากเท่าเด็กอุปถัมภ์ สัญชาตญาณที่จะแพร่พันธุ์ของชาวเมโดว์แบงค์นั้นต่างจากมนุษย์ อัตราการเกิดจึงต่ำกว่า


    คนจากสถานเลี้ยงเด็กทั้งของรัฐบาลและเอกชนคอยตระเวนและอยู่เฝ้าตามถ้ำต่าง ๆ เป็นประจำ เพื่อดูแลทารกทันทีที่ออกจากดักแด้ แล้วย้ายไปที่สถานเลี้ยงเด็ก ลีอาร์เองก็เป็นหนึ่งในนั้น เมื่อเขาอายุได้หกปี เขาก็ได้รับเลือกจากลุงโรเบิร์ตที่ต้องการมีลูกบุญธรรม ครั้นย้ายจากสถานเลี้ยงเด็กมาอยู่กับผู้อุปถัมภ์ในหมู่บ้านเล็ก ๆ ลีอาร์ก็แทบไม่มีเพื่อนวัยเดียวกันอยู่รอบตัว


    ตำนานกล่าวเอาไว้ว่า แผ่นดินเมโดว์แบงค์คือ มิติที่อยู่ระหว่างกลางระหว่างนรกและสวรรค์ อนึ่ง ทางผ่านของวิญญาณมนุษย์ อย่างไรก็ดี อายุขัยของชาวเมโดว์แบงค์ก็ยาวกว่ามนุษย์มาก


    เมื่อสบโอกาสที่บทสนทนาระหว่างลุงโรเบิร์ตกับลูกค้าซาลงไป ลีอาร์ก็เอ่ยขึ้นว่า “ผมผ่านเข้ารอบสำหรับการไปสอบล่ะครับ” แต่แล้วเขาก็สะดุ้งโหยงเมื่อลุงโรเบิร์ตปล่อยโฮออกมา แล้วหยิบผ้าขี้ริ้วมาซับหัวตา ฟังดูจากลักษณะการร่ำไห้โหยหวนแล้ว ดูเหมือนจะไม่ใช่เพราะความปลื้มปิติ


    “เขาว่ากันว่าอาชีพนั้นน่ะมันอันตรายจะตายไปไม่ใช่รึไง” ลุงโรเบิร์ตสะอื้น


    ลีอาร์เบิกตากว้างขึ้น เขาปัดมือทั้งสองไปมาราวกับพยายามทำให้ลุงโรเบิร์ตใจเย็นลง “ก็ใช่ครับ ก็เพราะไม่รู้ว่าจิตใต้สำนึกของมนุษย์จะสร้างอะไรขึ้นมาบ้าง แต่โดยรวมแล้ว ผมก็ได้ยินว่ามันปลอดภัยขึ้นเยอะนะครับ”


    “โกหกทั้งเพ คนสมัครน้อยลงเท่านั้นแหละ” ลุงโรเบิร์ตปล่อยโฮออกมาอีก แม้จะเป็นช่วงเวลาที่คนจะมานั่งดื่มในร้านกันน้อย แต่แทบทุกสายตาก็เริ่มหันมามองพวกเขา “อาชีพที่ไม่ต้องใช้พลังเวทก็มีเยอะขึ้นแล้ว-แล้วนะ ลีอาร์…”


    “นักกินฝันงั้นเหรอ…” สาวนักท่องเที่ยวเอ่ย “อายุเท่าไรเนี่ย พ่อหนุ่ม”


    “สิบเจ็ด… ครับ” ลีอาร์ตอบ


    “เห เพิ่งถึงอายุที่อนุญาตให้ขับรถตามกฎหมายเองนี่นะ” หญิงสาวเอามือเท้าคาง “เพราะอะไรถึงอยากจะไปเป็นนักกินฝันล่ะ”


    ลีอาร์นิ่งไป


    “อ๊ะ… เป็นเรื่องส่วนตัวไปหน่อยสินะ”


    ลีอาร์ผงกหัว


    ลุงโรเบิร์ตหัวเราะแห้ง ๆ ขึ้นมา “ขอโทษครับ แกเป็นเด็กเงียบ ๆ น่ะ”


    “เพราะว่า...” ลีอาร์เอ่ยขัดขึ้น “เมตามอร์โฟซิสของฟรันซ์ คาฟคา”


    เมตามอร์โฟซิสอ้อ นวนิยายที่เกี่ยวกับผู้ชายคนหนึ่งที่ตื่นขึ้นมาแล้วกลายเป็นแมลงน่ะเหรอ”


    “ครับ” ลีอาร์พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย “ผมตั้งใจจะอธิบายว่า เคยมีคนรู้จักที่ต้องกลายเป็น ‘ฝันร้าย’  ผมมักจะคิดว่าสภาพการณ์ก็คล้าย ๆ เรื่องนั้นครับ”


    หญิงสาวเงียบไปชั่วขณะ เธอเข้าใจดีว่า ‘โรคฝันร้าย’ นั้นไม่ต่างจากความตาย “ขอแสดงความเสียใจด้วยนะจ๊ะ”


    “ไม่เป็นไรหรอกครับ” ลีอาร์ปัดมือไปมา



    _



    นับจากวันที่ประกาศรายชื่อก็มีเวลาหนึ่งเดือนก่อนจะถึงวันกำหนดการเดินทางไปสถานที่สอบ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ผู้ผ่านเข้ารอบจะต้องไปพักอยู่อาศัยชั่วคราว โดยปกติการคัดเลือกในแต่ละปีจะกินเวลาไม่เกินสองสัปดาห์


    ลีอาร์ไล่อ่านกระทู้ตามเว็บบอร์ดคร่าว ๆ ระหว่างหาข้อมูลเพื่อเก็บกระเป๋าเดินทาง


    ในอินเตอร์เน็ตช่วงนี้มีการหารือกันเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการคัดเลือกที่กำลังมาถึง


    หัวข้อกระทู้ : การคัดเลือกนักกินฝัน 2018 – ปรึกษาหารือ


    สิ่งที่น่าคิดสำหรับปีนี้ :


    - คิดว่าผู้สมัครปีนี้จะเก่งกันแค่ไหน


    พวกที่มาสอบปีที่แล้วจะกลับมาสอบและผ่านเข้ารอบกันเยอะไหม


    - คิดว่าหัวข้อการสอบน่าจะเป็นประมาณไหนบ้าง


    - นักกินฝันแบบไหนบ้างที่องค์กรผู้วิเศษกำลังตามหาอยู่ในปีนี้


    โดย JTheHitchhiker เมื่อ 2 วันที่แล้ว


    ความเห็นยอดนิยม :


    คำถามราว ๆ นี้ก็ชอบถามกันมาตั้งแต่ปีที่แล้วแล้วนะครับ ผมว่าการคัดเลือกปีนี้ ก็คงไม่มีอะไรที่ต่างจากปีอื่นมากนักหรอก อาจจะยกเว้นแต่เรื่องนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าและได้รับความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ  ทำให้โลกมนุษย์มีการเปลี่ยนแปลงในทศวรรษที่ผ่านมาเยอะกว่าห้าสิบปีที่ผ่านมาซะอีก แถมในปี 2018 เรื่องอย่างปัญญาประดิษฐ์ก็กำลังมาแรงเป็นพิเศษด้วย ถามว่ากระทบพวกที่อยากเป็นนักกินฝันอย่างเรา ๆ ไหม ก็น่าจะเป็นไปในทางที่ดีมากกว่า คือคงมีคู่แข่งน้อยลง เพราะคนเราสนใจจะไปทำงานเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ที่จับต้องได้มากขึ้น ดูอย่างโลกมนุษย์ตอนนี้ก็ไม่ค่อยมีใครสนใจเรื่องการฝึกกำลังภายในแล้วใช่ไหมล่ะ ถึงพวกเราจะเข้าถึงพลังจิตได้มากกว่ามนุษย์ แต่คนที่จะทุ่มเทชีวิตเพื่อเป็นผู้วิเศษก็มีน้อยลงแล้วล่ะนะ ผมจะลองพยายามตอบไปเป็นข้อ ๆ ก็แล้วกัน


    1) หนึ่งในเกณฑ์ที่ใช้ประจำในการคัดเลือกรายชื่อคือ การวัดระดับพลังงานผ่านเอกสารของผู้สมัคร ผมว่าคนส่วนใหญ่ที่ผ่านการคัดรายชื่อก็ถือว่ามีพลังจิตเยอะนะ แต่จะใช้เก่งไหมก็อีกเรื่อง พวกหน้าใหม่ที่มาพัฒนาฝีมือเอาระหว่างการคัดเลือกก็มีเหมือนกัน


    2) ปกติ 80%+ คือหน้าเก่าทั้งนั้นนะครับ ในจำนวนคนที่จะได้รับใบประกอบอาชีพทั้งหมด มีประมาณ 10% เท่านั้นที่จะเป็นคนที่มาคัดเลือกเป็นครั้งแรก


    3) คงตามศาสตร์ Oneironautics (โอไนโรนอทิคส์ ความสามารถในการท่องฝันแบบมีสติ) คือท่องฝันตัวเอง (lucid dreaming) กับท่องฝันคนอื่น (dream telepathy) ต้องมีการทดสอบเกี่ยวกับสองอย่างนี้อยู่แน่นอน


    4) คาดการณ์ยาก ส่วนใหญ่ก็มีแต่นักกินฝันที่สามารถเข้าถึงข้อมูลลึก ๆ ขององค์กรผู้วิเศษได้ ผมคิดว่าพวกที่มีความสามารถประเภททำนายฝันจะเป็นที่น่าสนใจเป็นพิเศษ เพราะเอ็ดมันด์ ฮัตตัน หัวหน้าคนคุมสอบปีนี้เป็นนักพยากรณ์นี่นะ


    โชคดีกับการคัดเลือกนะครับทุกคน ถ้ามีอะไรส่งข้อความส่วนตัวมาหาผมได้นะ พอถึงช่วงคัดเลือกก็ว่าจะรวมกลุ่มกันอยู่ครับ เผื่อมีอะไรจะได้ช่วยเหลือกัน


    โดย D_wraith เมื่อ 2 วันที่แล้ว


    ลีอาร์เข้าไปดูโปรไฟล์ของคุณ ‘ดีเรธ’ คร่าว ๆ  ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะผ่านการสอบมาแล้วสองครั้ง เขาปิดหน้าจอนั้นไป แล้วกลับไปอ่านความเห็นอื่น ๆ ต่อ ถ้าไปแบบโลน วูล์ฟจะดูแปลกแยกรึเปล่านะ เขาคิด กระนั้นก็เพียงแต่ไหวไหล่กับตัวเอง แล้วถอนใจ




    จบบทที่ 1






    Facebook page : Daiong's writings
    Beta-readers : Blue Cat & https://my.dek-d.com/tasenda/writer/

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in