เราเริ่มลองอ่านหนังสือเป็น E-Book ในช่วงปี 2019 ซึ่งปีนั้นทำให้เราอ่านได้ถึง 80 เล่มเลยทีเดียว จนตอนนี้เรียกได้ว่า E-book เป็นตัวเลือกแรกในการเลือกซื้อนิยายสำหรับเราไปแล้ว ยิ่งถ้าเล่มหนา ๆ ก็จะมองหา E-Book ก่อนเลย
บล็อควันนี้เลยจะมาแนะนำแหล่งซื้อและยืม E-Book และ Audiobook กัน โดยเราจะแบ่งเป็น 1. หมวดซื้อ 2. หมวดยืมรายเดือน 3. หมวดอ่านออนไลน์ และ 4. ห้องสมุด นะ
1. หมวดซื้อ
หมวดนี้คือการซื้อขาด หนังสือเป็นของเราทันทีหลังจ่ายและจะเปิดอ่านเมื่อไหร่ก็ได้
สำหรับรายนี้คงไม่ต้องพูดอะไรมาก เป็นเจ้าใหญ่ที่สุดในบล็อคนี้เลย มี E-reader และ App ชื่อดัง Kindle เป็นของตัวเอง ข้อดีของการซื้อที่นี่คือมีหนังสือหลากหลาย นักเขียนอินดี้ชอบมาลงขายที่นี่มากที่สุด แบ่งหมวดชัดเจน อ่านจาก E-reader ก็สะดวก แต่มีแต่หนังสือภาษาอังกฤษ ไม่มีภาษาไทย และเป็นการสนับสนุนนายทุนเสียอีก
ทาง Amazon เองก็มี audiobook เรียกว่า
Audible โดยจ่ายค่าสมาชิกรายเดือน เดือนละ $7.95 ประมาณ 270 บาท แล้วเราจะได้ credit มา นำไปกดเลือก audiobook อีกที
เจ้านี้อาจจะไม่ค่อยได้ยินชื่อในไทยเท่าไหร่ แต่ในต่างประเทศถือว่าตีตื้นมากับ amazon ได้บ้าง มี e-reader เป็นของตัวเองเหมือนกัน แต่ไม่มีหนังสือภาษาไทย
Google play books มีหนังสือหลากหลาย นิยายโรแมนซ์เก่า ๆ ก็มี ทั้งภาษาอังกฤษและไทย สามารถอ่านได้ใน app Play books แต่สำหรับเราที่ชอบอ่านนิยายจากนักเขียนอินดี้ ไม่ค่อยใช้บริการเท่าไหร่เพราะที่นี่ไม่มีขายเลย
ถ้าอยากอ่าน e-book ภาษาไทยก็ต้องเว็ปนี้เลย มีหลากหลายมาก ๆ นักเขียนอินดี้มาลงขายกันเยอะด้วย สามารถอ่านผ่าน app Meb เองหรือใครมี e-reader ยี่ห้อ Boox สามารถโหลด app แล้วอ่านในนั้นได้ด้วย
เจ้านี้เราเพิ่งเคยลองทำความรู้จักมานิดหน่อย การซื้อหรือลงนิยายก็เหมือนกับ Meb เลย เป็นหนังสือภาษาไทยล้วน อ่านนิยายผ่าน app ได้
2. หมวดยืมรายเดือน
หมวดนี้จะเป็นการจ่ายรายเดือนให้ App แล้วเราก็เข้าไปอ่าน/ฟังกี่เล่มก็ได้ เหมือนว่าเป็น Netflix แต่แทนหนัง/ซีรี่ส์ด้วยหนังสือแทน แต่พอหมดอายุสมาชิกก็จะไม่สามารถเข้าไปอ่านได้อีก
เราเคยใช้บริการของเจ้านี้ ใช้งานง่าย มีหนังสือหลากหลาย รวมถึงหนังสือจากนักเขียนอินดี้ด้วย ทั้งในรูปแบบ E-Book และ Audiobook มีให้ทดลองใช้ได้ถึง 30 วัน หลังจากนั้นเป็น $8.99 หรือประมาณ 305 บาทต่อเดือน มีแต่หนังสือภาษาอังกฤษเท่านั้น
2.2 Storytel
เว็ปนี้การใช้งานและหนังสือมีเหมือนใน Scribd เลย และดีกว่านั้นคือมีหนังสือภาษาไทยด้วย ทั้ง e-book และ audiobook ถือว่าน่าสนใจมาก ๆ สามารถทดลองใช้ได้ 14 วัน หลังจากนั้นจะเป็น 279 บาทต่อเดือน
เจ้านี้เรายังไม่เคยลองใช้ ทางเว็ปบอกว่าเป็นการเช่าหนังสือ สามารถเช่าในรูปแบบรายวันหรือรายเดือนก็ได้ แต่มีแต่หนังสือภาษาไทย และไม่มี audiobook
3. หมวดอ่านออนไลน์
ในตอนนี้การอ่านนิยายออนไลน์คงไม่พ้น 4 เว็ปไซต์นี้ คนแต่งสามารถลงนิยายได้ฟรี หรือจะทำการติดเหรียญเพื่อเก็บเงินเป็นรายตอนก็ได้ คนอ่านก็สามารถสนับสนุนคนแต่งได้ง่ายขึ้นเช่นกัน ได้ทดลองอ่านก่อนจะจ่ายทั้งเล่ม มีทั้งนิยายบรรยายและนิยายแชท สะดวกทั้งสองฝ่ายเลย
4. ห้องสมุด
Libby เป็น app ห้องสมุดที่ค่อนข้างดังในอเมริกาเหมือนกัน โดยใช้บัตรห้องสมุดในการลงทะเบียน ก็สามารถยืมได้เลย มีทั้ง E-book และ Audiobook
ส่วนของไทยนั้น หนังสือใน app Libby ดำเนินการโดย TK Park ใครที่สมัครสมาชิก TK Park ไว้แล้วก็ลง app Libby กรอกรหัสสมาชิก TK Park เข้าไปเข้ายืมหนังสือได้เลย ซึ่งการยืมจะสามารถยืมได้ทีละ 4 เล่ม มีเวลาอ่าน 14 วัน เมื่อหมดเวลาแล้ว หนังสือก็จะถูกนำออกจากบัญชีเราโดยอัตโนมัติ ถ้าไม่มีใครยืมต่อก็กดยืมอีกครั้งได้ แต่ถ้ามีคนยืมต่อ เราก็ต้องรอคนนั้นคืนหนังสือเสียก่อน ถ้าหนังสือดังอาจจะมีคนต่อคิวเยอะ ต้องรอนานเป็นเดือน ๆ เลยก็มี ข้อเสียคือต้องรอหนังสือนานนี่แหละ ส่วนข้อดีคือ ฟรี <3
และทั้งหมดนี้คือแหล่งที่เราไว้หา e-book/audiobook อ่าน อยากให้ทุกคนลองใช้ดู สำหรับเราสะดวกมาก ไม่ต้องพกหนังสือหนักกระเป๋า อ่านในมือถือก็ได้ ที่สำคัญได้สนับสนุนนักเขียนอย่างถูกต้องด้วย
ก่อนจะจบบล็อค ขอโน้ตนิดนึงว่า E-Book ต่างกับหนังสือแบบเล่มอยู่เรื่องหนึ่งคือ ไม่สามารถนำมาขายต่อได้ หรือส่งให้เพื่อนยืมเองก็ถือว่าผิด ดังนั้น ถ้าเจอร้านที่ขายไฟล์หนังสือราคาถูก เป็น pdf ที่ไม่ใช่สำนักพิมพ์หรือเจ้าของเป็นผู้ขาย นั่นคือของผิดกฎหมายค่ะ อย่าไปสนับสนุนร้านเหล่านั้นเลย ร้านพวกนั้นโหลดมาเถื่อนแบบฟรี ๆ ด้วยซ้ำ ไม่มีต้นทุนอะไรแล้วมาหลอกขายอีกที เป็นธุรกิจที่แย่มาก
ยังไงก็ขอฝากบล็อคนี้ไว้เท่านี้ เจอกันใหม่ตอนหน้าจ้า
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in