ยามแสงจันทร์สาดส่องทระนง ผมหลับฝันเคลิ้มคล้ายไม่ใช่โศก แต่กลับกลายไร้ซึ่งแสงสุขสันต์ ทันใดนั้นพลันตื่นไม่อาจหวน ฝันร้ายกับกลายทำลายใจ บาดลึกเสียดแทงไม่อาจทน – เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นเหมือนกับว่าโลกจะแตกผมตื่นขึ้นมาราวกับศพไร้ซากนึกถึงฝันที่เหมือนเกิดขึ้นจริงวนเวียนก่อนลุกขึ้น ผมฝันถึงเธอทุก ๆ เดือนอย่างน้อยต้องมีสักหนแล้วแต่ว่าความฝันจะนำพาให้เรื่องราวเราเศร้าหรือสุข ไม่ทันได้พักสมองผมก็ลุกขึ้นหยิบโทรศัพท์คว้านหาเบอร์โทรเธอในบัญชีชื่อที่ลายตาลากยาวลงไปจนเจออักษรแรกของของเธอชื่อที่แม้ได้ยินแว่วหูก็มิอาจฝืนทน ไม่ทันได้ไตร่ตรองผมพลันโทรหาเธอเสียง ตู๊ด ตู๊ด เสียงรอสายสามัญดังขึ้นแต่ไม่ยังไม่ได้เว้นหายใจเสียงที่ผมรอคอยก็ตอบผ่านสัญญาณ
“ฮัลโหล” เธอทักทาย “ปกติคุณไม่เคยโทรมา”
“ผมพึ่งตื่น” ผมรีบร้อนตอบไป
“มีเรื่องร้ายแรงอะไรคุณถึงกับต้องรีบร้อนโทรมา” เธอยังสงสัย
“ผมแค่ฝันถึงคุณ” ผมตอบเว้นช่วงเล็กน้อย “คุณจากไป ไกลแสนไกล ผมกลัวจะไม่ได้พบคุณอีก”
เธอนิ่งเงียบไปสักพักแล้วเอ่ย “แม้ตอนนี้เราก็ยังไม่ได้เจอกันเลย”
“อือ” ผมคิดไม่ออกว่าจะตอบโต้อย่างไร ผมนิ่งเงียบได้ยินเพียงเสียงหายใจของกันและกัน “จริง ๆ แล้วผมแค่อยากจะบอกว่า...ผมรักคุณ รักคุณมากกว่าคนใดที่เคยพบ ผมไม่อาจเสียคุณไปได้” ผมไม่สามารถต้านทานคำพูดหรือความรู้สึกต่าง ๆ ใด ๆ ไว้ได้แม้เพียงเล็กน้อยก็ไม่อาจกั้น ผมปล่อยปากพูดตามที่ใจอยากไปจนหมด เลือดกำลังสูบฉีด หัวใจกำลังเต้นแรง ผมรู้สึกได้
“เห้อ” เธอถอนหายใจ “ฉันรู้ หวังว่าเราจะได้เจอกัน ฉันต้องไปก่อนไว้คุยกันใหม่” เธอวางสาย
ทุกอย่างเงียบสงบมีเพียงเสียงลมหายใจผมที่รุนแรงจนได้ยินชัด ผมยืนเหม่อไม่รู้ว่าฝันหรือจริง ลมพัดลอดหน้าต่างมุ้งลวดทำผ้าม่านปลิวไหว แสงอาทิตย์รำไรคอยสาดส่องไม่เหมือนวันใดที่เคยพบ ผมคิดว่านี่คือฝันแต่ไม่ใช่ ไม่เลย มันคือความจริง ไร้คำลวง ผมเฝ้ารอวันที่จะได้พบเธอ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in