เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Together, Maybe?Moschan Nutthapat Suma
จดหมายสำคัญ
  • หลังจากกิจกรรมหน้าเสาธงจบลง แต่ละชั้นเรียนค่อยๆ ทยอยเดินแยกกันเป็นแถวไปตามอาคารของตัวเองเพื่อเริ่มการเรียนการสอนในวิชาแรกของวัน กลุ่มพี่ใหญ่ ม.เป็นกลุ่มสุดท้ายที่ได้เดินออกจากสนามเพราะพวกเขาไม่มีห้องประจำเหมือนนักเรียนระดับอื่นๆ การเรียนการสอนจะวนไปตามอาคารแต่ละหมวดวิชาต่างๆ เสียมากกว่า

     

    โรงเรียนเกษมสาสน์ เป็นโรงเรียนมัธยมขนาดกลางตั้งอยู่ไม่ไกลจากอำเภอเมือง เนื่องจากเป็นโรงเรียนที่มีประวัติการก่อตั้งมายาวนาน อาคารเรียนที่มีอยู่จึงไม่ทันสมัยเหมือนโรงเรียนระดับจังหวัดและแม้จะมีพื้นที่มากกว่าที่อื่นๆ แต่งบในการสร้างอาคารเรียนใหม่ค่อนข้างจำกัด ถึงอย่างนั้นผู้อำนวยการโรงเรียนก็พยายามพุ่งเป้าไปที่การพัฒนาคุณภาพระบบการเรียนการสอนเพื่อให้นักเรียนได้รับการศึกษาแทบเท่าโรงเรียนใหญ่ๆ ควบคู่ไปกับการส่งเสริมกิจกรรมการแข่งขันต่างๆ เพื่อสร้างชื่อเสียงที่ดีให้กับโรงเรียน

     

    นักเรียนชั้นมัธยมปลายแบ่งออกเป็นเจ็ดห้อง แน่นอนว่าสี่หนุ่มแสบนั้นอยู่ห้องระดับต้นๆ ถึงแม้พวกเขาจะไม่ได้เก่งขั้นหัวกะทิ แต่ก็ถือว่าเอาตัวรอดได้ในสายวิทย์คณิตที่การแข่งขันสูง จะให้ทำอย่างไรได้ โรงเรียนนอกเมืองแบบนี้การได้เรียนสายวิทย์คือการเปิดโอกาสมากมายให้พวกเขาได้เข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยต่อไป แม้บางคนจะไม่อยากเลือกสายนี้แต่เพราะมติระหว่างทั้งสี่คนเมื่อ ม.เป็นเอกฉันท์ พวกเขาเลยต้องเกาะกลุ่มมาอยู่ห้องเดียวกันอีกครั้ง

     

    ระหว่างที่พวกมอหกห้องหนึ่งกำลังเดินเรียงแถวไปที่ตึกวิทย์ สารวัตินักเรียนซึ่งสวมเสื้อกักสีส้มเรืองแสงเดินตรงเข้ามา เขาก้มลงดูแผ่นกระดาษเล็กๆ ในมือก่อนจะเอ่ยเรียกชื่อ

    "ตะวัน พิทักษ์กุล" เขาว่าแล้วกวาดสายตาหาเจ้าของชื่อ

    "เฮ้ย ทำไมมันรวดเร็วอย่างนี้วะ" ธันวาแปลกใจ

    "เวรกรรมที่มึงทำกับน้องส้มเช้งไว้ไงลูก" กันต์แซว

    "นังส้มเช้ง สงสัยต้องโดนสั่งสอนแล้ว" ซันฟึดฟัดก่อนจะค่อยๆ ก้าวออกจากแถว เพื่อนๆ ในห้องมองตามหลังเขา แต่ไม่แปลกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น

    "กูบอกมึงแล้วว่าให้จัดการก่อนเปิดเทอม" พีทพูดเสียงอ่อน

    "ขอโทษค้าบบน้องพีท" ซันว่ากวนๆ แล้วโบกมือโดยไม่หันหลังมามอง

     

    ส่วนส้มที่เห็นเหตุการณ์ก็ภูมิอกภูมิใจกับหน้าที่หัวหน้าห้องที่เธอทำอย่างเต็มที่ เธอไม่เคยขาดตรงบกพร่องเลยแม้แต่นิด จริงๆ ถ้าซันพูดดีๆ กับเธอสักหน่อยเรื่องก็คงไม่ถึงห้องปกครองเร็วแบบนี้ แต่คนเกเรอย่างหมอนั่นโดนแบบนี้ก็สมควรแล้ว บางครั้งเธออดสงสัยไม่ได้ว่าคนแบบซันเข้ามาอยู่ห้องหนึ่งสายวิทย์คณิตห้องเดียวกับเธอได้อย่างไร

     

    ที่อาคารวิชาการซึ่งเป็นอาคารหลังเก่าสองชั้นกึ่งไม้กึ่งปูน ชั้นล่างเป็นส่วนที่ต่อเติมขึ้นมาใหม่ด้วยปูนซีเมนต์ ลักษณะเรียบง่ายได้มาตรฐาน แบ่งเป็นห้องเรียนสำหรับมัธยมต้นสี่ห้องเรียงกัน มีบันไดสองทางซ้ายขวาเป็นทางขึ้นไปยังระเบียงไม้ชั้นบนซึ่งเป็นตัวอาคารดั้งเดิม ห้องผู้อำนวยการตั้งอยู่ทางซ้ายสุด ถัดมาคือห้องพนักงานธุรการและห้องปกครอง

     

    "เอาล่ะทุกคน ยืนเรียงแถวหน้ากระดานเลย" ครูสมพงษ์พูดด้วยน้ำเสียงเข้ม นักเรียนชายนับสิบคนทำหน้าเบื่อหน่ายแล้วเดินไปเรียงแถวตามคำสั่งที่ระเบียง "เป็นความรับผิดชอบเล็กน้อยเท่านั้นเองเนอะเรื่องทรงผมเนี่ย" ครูสมพงษ์ว่าแล้วก็หยิบเอาปัตตาเลี่ยนไร้สายออกมาจากถุงผ้าที่ถือเอาไว้

    "ครูครับ เดี๋ยววันนี้พวกผมกลับบ้านไปตัดผมเลยครับ" นักเรียนคนหนึ่งพูดขึ้น

    "จริงหรือเปล่า พูดแบบนี้แล้วก็ไม่ทำ พอถึงเวลา พวกเธอก็หลบหน้าหลบตาครูอีก ตัดให้เเหว่งหมดหล่อไปเลย พวกเธอถึงจะยอมไปตัดกัน"

    "โห ครูครับ วันเปิดเทอมวันแรกเองนะครับ" ซันว่าแล้วทุกคนก็ทำท่าทางเห็นด้วย

    "นายตะวันเจ้าเก่ามามุขวันเปิดเทอมวันแรกอีกแล้วนะ" ครูสมพงษ์ว่าแล้วยิ้มเพราะรู้จักนายตะวันหรือซันเป็นอย่างดี

    ไม่รอข้ออ้างใดๆ ครูสมพงษ์เริ่มปฏิบัติการไถผมนักเรียนชายทีละคนจากหัวแถว ทุกครั้งที่ปัตตาเลี่ยนดังขึ้น คนที่อยู่ใกล้รู้สึกวาบหวิว ส่วนคนข้างๆ ก็หัวเราะเยาะเย้ย ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ต้องตกเป็นเหยื่อรายต่อไปเช่นกัน ซันที่รู้ชะตาตัวเอง ถึงจะบอกว่าไม่สนใจ แต่เอาเข้าจริงก็แอบเซ็ง อุตส่าห์ไว้ผมมาตั้งหลายอาทิตย์กว่าจะยาวเท่แบบนี้ กะว่าจะเอาไว้อวดสักสองสามวันเสียหน่อย ดันต้องมาโดนไถผมให้แหว่งแบบนี้ตั้งแต่วันแรกของการเปิดเทอม เป็นเพราะส้มแท้ๆ ที่ถือดีว่าตัวเองเป็นหัวหน้าห้อง ชอบให้คนพูดจาประจบสอพลอ พอโดนเสียดสีเข้าหน่อยก็ทนไม่ได้ อยากจะใช้อำนาจมากดขี่คนอื่นเสียตัวสั่น ยังไงแค้นนี้ต้องชำระให้ได้!

     

    ระหว่างที่เคียดแค้นคนต้นเรื่องอยู่ พีทเดินขึ้นมาบนอาคาร เขาส่งสายตาทักซันที่ยืนหน้ามุ้ยเป็นปั๊กอยู่กับกลุ่มนักเรียนชาย

    "อ่าว พีทพล เธอมาแจมพวกนี้ด้วยหรอ" ครูสมพงษ์ปิดปัตตาเลี่ยนแล้วเอ่ยทัก พีทเป็นที่รู้จักดีของคุณครูตึกนี้ แต่ด้วยเหตุผลที่ต่างจากซันราวฟ้ากับเหว พีทมักจะได้รับรางวัลเรียนดีจากผู้อำนวยการทุกปี

    "เปล่าครับครู พอดีครูอรอนงค์ให้มาหยิบแฟ้มเอกสารที่โต๊ะน่ะครับ"

    "อ๋อ เธอเข้าไปถามครูสมใจที่นั่งโต๊ะข้างๆ แล้วกัน" ครูสมพงษ์ว่า แล้วหันกลับไปปฏิบัติงานต่ออย่างเคร่งครัด

     

    พีทพยักหน้าพร้อมกับหันไปมองซันด้วยหางตา เขานึกไม่ออกเลยจริงๆ ว่าทำไมการทำตามกฎระเบียบมันถึงยากนักสำหรับซัน ตั้งแต่รู้จักกันมาเกือบหกปี ซันเข้าออกห้องปกครองเป็นว่าเล่น ทั้งเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ เขาเองก็พยายามช่วยอยู่หลายครั้ง แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่ยอมเรียนรู้อะไรเลย

    “สวัสดีครับครูสมใจ” พีทโน้มตัวไหว้ครูสมใจ ในห้องพักอาจารย์แทบไม่มีใครอยู่ประจำโต๊ะเวลานี้นอกจากครูสมใจที่กำลังวุ่นอยู่กับเอกสารกองใหญ่ตรงหน้า

    “อ่าวนายพีทพล มาเอาของให้ครูอรอนงค์รึ” อาจารย์สมใจมองผ่านแว่น

    “ใช่ครับครู อาจารย์บอกเป็นแฟ้มโครงการรับตรงจากมหาวิทยาลัยครับ”

    “อ้อ ครูเขาน่าจะเอาไว้ในลิ้นชักฝั่งซ้ายละมั้ง ลองหาดูสิ” ครูสมใจว่าแล้วละมือจากเอกสารตรงหน้า คว้าโทรศัพท์ขึ้นมาดู

    “ขอบคุณครับครู” พีทค่อยๆ เดินเข้าไปที่โต๊ะประจำครูอรองค์ที่จัดวางของไว้เป็นระเบียบ บนโต๊ะแทบไม่มีเอกสารหรือของเกะกะเหมือนครูคนที่นั่งอยู่ข้างๆ

    “อุ๊ย ตายแล้วพวกเด็กมอห้าทะเลาะกันที่โรงอาหาร” ครูสมใจที่กำลังจ้องหน้าจอโทรศัพท์พูดเสียงตื่น

    “โห หนักมั้ยครับครู” พีทถามลอยๆ คิดว่าอีกฝ่ายต้องการคู่สนทนา

    “เธอดูสิ มันจะต่อยกันอีกแล้ว” ครูสมใจยื่นโทรศัพท์ให้พีทดู จังหวะนั้นเองที่เขาเจอแฟ้มที่มอบหมายให้มาเอาเจอพอดี พร้อมกับจังหวะยูเรก้า เขานึกแผนการอะไรออกขึ้นมาในหัวอย่างรวดเร็ว

    “หนักเลยนะครับครูเดี๋ยวผมต้องไปรายงานครูสมพงษ์แล้วครับ!” พีทรีบคว้าแฟ้มเอกสารแล้วเดินออกจากห้องพักครูปกครองอย่างรวดเร็ว

     

    ที่ระเบียงหน้าห้องครูสมพงษ์ยังคงทำหน้าที่จัดการทรงผมนักเรียนชายอย่างเคร่งครัด ดูเหมือนเขายังไม่รู้ว่ามีเหตุการณ์บางเกิดขึ้น ซันหันมามองหน้าเจ้าเล่ห์ของพีทที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องพักครู

    “ครูสมพงษ์ครับ” พีทรีบเดินไปประกบ “ครูสมใจเพิ่งเห็นพวกเด็กมอห้ากำลังมีเรื่องกันที่โรงอาหาร ดูเหมือนจะเป็นเรื่องใหญ่เลยครับ”

    “หื้อ!” ครูสมพงษ์ละมือจากหัวเกรียนๆ ของนักเรียนชาย “สงสัยไอ้พวกเด็กห้องศิลป์อีกแล้ว” ไม่ทันขาดคำครูสมพงษ์ก็ละมือจากปัตตาเลี่ยน วางอุปกรณ์ไว้ที่ม้านั่งชายระเบียง แล้วรีบมุ่งหน้าไปที่โรงอาหารทันที ทิ้งให้พวกนักเรียนชายยืนงงกับชะตาชีวิตตัวเองหลังจากนี้

    “เฮ้ยพี่พีทสุดยอดเลยพวกเรารอดแล้ว!” ซันว่าก่อนจะวิ่งเข้ามากอดแล้วเขย่าพีทสุดแรง พวกนักเรียนชายที่เหลือต่างก็หัวเราะยิ้มร่า บางคนถึงขั้นตบมือเกรียวกราวเพราะรอดพ้นจากการเป็นเหยื่อผมแหว่งไปได้

    “เบาๆ มึง” พีทว่าแล้วพยายามหยุดซันที่ออกท่าทางเกินเหตุ

    “มึงที่สุดยอดเลย” ซันค่อยๆ คลายแขนออกจากเพื่อน 

    “เออแล้ววันนี้มึงก็กลับไปตัดผมซะ” พีทขย้ำผมอีกฝ่าย “หล่อซะไม่มี”

    “ฮ่าๆ ชอบมั้ยล่ะ” ซันยิ้มอย่างมีเลศนัย

    “ชอบตอนถูกตัดแหว่งๆ มากกว่า” 

    พีทอมยิ้มแล้วผละออกมาจากกลุ่มนักเรียนชาย ก่อนจะเดินลงบันไดไปชั้นล่าง ซันอดประทับไอ้เพื่อนซี้คนนี้ไม่ได้ เพราะหลายครั้งที่เขาตกอยู่ที่นั่งลำบาก อยู่ๆ พีทพลคนดีก็โผล่มาช่วยเขาอย่างไม่คาดหมาย มันคือมิตรภาพของเพื่อนรักที่แท้จริง ถึงจะจู้จี้จุกจิกน่ารำคาญบางครั้ง ท่าทางหน่อมแน้มดูจริงจังตลอดเวลา แต่เอาเข้าจริงก็แข็งแกร่งเจ้าเล่ห์ไม่แพ้พวกหัวหน้าแก๊งนักเลง เขาคิดไม่ผิดเลยที่ช่วยหมอนี่เอาไว้ตอนนั้น

    ซันมองตาหลังเพื่อน ขณะที่เขากำลังเคลิบเคลิ้มกับชัยชนะอยู่นั้น ซันก็สังเกตเห็นแผ่นกระดาษบางอย่างที่พื้น เขาก้มลงเก็บมันขึ้นมา ดูเหมือนจะถูกพับไว้เป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสอย่างดี คงจะมีอะไรหรือข้อความที่มีความหมายอยู่ข้างในแน่ๆ แต่พอจะเปิดดูข้างใน สิ่งที่ไม่คาดคิดมากกว่าก็เกิดขึ้น

    “โอ๊ยย!” เสียงปัตตาเลี่ยนที่คุ้นเคยแต่ดังกว่าปกติเพราะคาดนี้มันถูกสัมผัสที่หัวของซันโดยตรง เขาสะดุ้งโหยงก่อนจะพยายามเอามือบังจุดที่เพิ่งโดนตัดผมไป

    “ครูสมพงษ์ไม่อยู่ ครูจัดการต่อเอง” ซันหันไปตามเสียงของผู้หญิงวัยกลางคน

    “ครูสมใจ” เขาเสียงอ่อน

    “ครูรับหน้าที่ต่อเองจ้า” ครูสมใจว่าพร้อมกับรอยยิ้มที่ทำเอาใบหน้าของเธอยับยู่ยี่เสียกว่าปั๊กเสียอีก

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in