ในช่วงปีการศึกษาระดับมัธยมปลายปีสุดท้าย ชีวิตของเหล่าเด็ก ม.6 นั้นเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย บางคนมุ่งมั่นตั้งใจติวเข้มอย่างหนักเพื่อจะให้ตัวเองพิชิตเป้าหมายเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยในฝัน บางคนยังคงพยายามตามหาคำตอบว่าจะเอาอย่างไรกับชีวิต บางคนเศร้ากับการจากลากับกลุ่มเพื่อนที่คลุกคลีอยู่ด้วยกันมานาน บางคนกลับดีใจที่จะได้บินออกจากขุมนรกแห่งนี้เสียที
“สวัสดีนักเรียนทุกคน ขอต้อนรับเข้าสู่ปีการศึกษาใหม่ หวังว่าทุกคนจะตื่นเต้นกับการเรียนการสอนในปีนี้…” ชายวัยห้าสิบปลายๆ สวมแว่นหนาเตอะปกปิดหน้าตาที่แท้จริงเอาไว้เบื้องหลังกล่าวผ่านไมโครโฟน เสียงเจี๊ยวจ๊าวของเด็กนักเรียนกว่าสองพันคนแทบจะกลบคำพูดของเขาให้หายไปกับอากาศ
“คุณครูทุกท่านก็เตรียมการสอนกันอย่างเต็มที่ อาจจะมีอะไรใหม่ๆ ให้ได้เรียนรู้กันเยอะ ทั้งหลักสูตรการเรียนใหม่ของชั้นมัธยมปลาย กิจกรรมแข่งขันต่างๆ นักเรียนควรวางแผนการเรียนให้ดี โดยเฉพาะนักเรียน ม.6 ปีนี้จะเป็นปีสุดท้ายที่จะมีระบบสอบเข้ามหาวิทยาลัยผ่านโครงการและสอบตรงต่างๆ…”
“เฮ้อ…จะผ่านไปกี่ปีกี่ปี ผอ. นี่ก็พล่ามเก่งไม่เปลี่ยน” เขาว่าก่อนถอนหายใจ
“ธันวา มึงซื้อรองเท้าใหม่หรอ” เด็กหนุ่มหน้าทะเล้น เอื้อมมือมาดึงไหล่เขาแล้วโผล่หน้ามาดูจากข้างหลัง
“เฮ้ย!” ธันวาตกใจเพราะไม่ทันตั้งตัว ถึงจะนั่งอยู่กับพื้นแต่ก็แทบจะหงายหลังไปทับไอ่คนขี้สงสัย
“จะเปลี่ยนทำไมวะ อีกปีเดียวก็ไม่ได้ใช้แล้ว” ซันว่า แต่ก็ยังแอบมองรองเท้าใหม่ของเพื่อนอยู่
“แล้วมันเรื่องอะไรของมึงล่ะ กูอยากเปลี่ยนก็เงินของกูมั้ย” ธันวาว่าแล้วพยายามทรงตัวนั่งตัวตรง
“ซัน มึงนี่ก็หาเรื่องกวนคนอื่นเขาไปทั่ว” พีทที่นั่งอยู่หน้าธันวาหันมาจ้องเขม็ง
“ช่างมันเถอะ มันก็หาเรื่องคนอื่นเขาไปอย่างนั้นแหละ” ธันวาว่า
“ซัน แม่มึงมาแล้วน่ะ มึงโดยจัดการแน่!” กันต์หันมาสมทบกับพีท ยิ้มเยาะเมื่อรู้ชะตาของซันว่ากำลังจะโดยจัดการโดยหัวหน้าห้องผู้ชื่นชอบอำนาจของตัวเองเสียเหลือเกิน
“ซัน ทำไมเธอไม่ตัดผมให้เรียบร้อยก่อนวันเปิดเทอม” เด็กสาวท่าทางจริงจังโน้มตัวลงมานั่งข้างๆ ซัน ในมือถือสมุดบันทึกพร้อมปากกาที่พร้อมจะพิฆาตทุกชีวิตที่ทำผิดกฏระเบียบ
“หนูส้มเช้ง หนูจะจริงจังอะไรไปมากมายละลูก อีกไม่นานหนูก็จะต้องถูกปลดจากตำแหน่งแล้ว หนูก็ปล่อยผ่านอะไรไปบางเถ๊อะ!” ซันทำหน้าทำตาจริงจัง
“ซัน! อย่ามาเล่นลิ้นนะ ฉันจะจดชื่อเธอเอาไว้ คอยฟังข่าวจากครูสมพงษ์เถอะยะ!” ส้มหน้านิ่ว รีบจดชื่อซันลงสมุดแล้วลุกขึ้นเดินตรวจความเรียบร้อยของคนใต้บังคับบัญชาของเธอต่อ
“ฮ่าๆ ฮ่าๆ ฮ่าๆ” สามหนุ่มหันหน้ามาหัวเราะเยาะนายซันตัวแสบพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
“แหม่ พวกมึงก็ซะใจกันเชียว” ซันว่า “กูไม่มายอยู่แล้ว ยังไงก็ต้องตัดอยู่ดี” เขาทำหน้าเซ็ง
“เป็นไงละ มัวแต่จุ้นจ้านเรื่องคนอื่น เรื่องตัวเองไม่สนใจ” พีทตอกย้ำเขาอีกครั้ง
“มึงนี่มันปากดีจริงๆ ไอ่พีท เดี๋ยวมึงเจอกูแน่” ซันขู่ แต่อีกฝ่ายดูเหมือนจะไม่สะทกสะท้าน
“เจ้าสี่หนุ่มตัวแสบ ถ้าไม่หยุดคุยฉันจะให้พวกเธอออกไปยืนหน้าเสาธงนะ” เสียงแหลมเล็กของครูอรองค์ที่ดังมาจากปลายแถวทำเอาทั้งสี่ขนหัวลุก รีบกลับไปนั่งตัวตรงเรียบร้อยสงบปากสงบคำทันที
สี่หนุ่มตัวแสบคือฉายยาประจำที่แพ็ครวมเอาเพื่อนซี้ต่างขั้วทั้งสี่คนเอาไว้ด้วยกัน พีท เด็กเรียนหน้าห้อง ซัน หัวโจกกวนโอ๊ย กันต์ นักล่ารางวัล และธันวา หนุ่มหล่อเจ้าอารมณ์
พวกเขาเป็นเพื่อนที่รู้จักกันมาตั้งแต่มัธยมต้น เติบโตและผ่านเรื่องราวมากมายมาด้วยกัน แม้ว่าแต่ละคนจะแตกต่างกันไปคนละทิศคนละทาง แต่มิตรภาพความเป็นเพื่อนคือสิ่งที่เชื่อมต่อพวกเขาเอาไว้ให้อยู่ข้างกันเสมอ
พีทเอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง เขากุมกระดาษที่พับเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสเพื่อเช็คว่ามันไม่หล่นหายไป เพราะหากใครพบแล้วเปิดอ่านมีหวังแผนการทุกอย่างต้องพังทลายลง หัวใจเขาเต้นแรงเมื่อนึกถึงสิ่งที่กำลังจะลงมือทำ เขาใช้เวลาทบทวนแผนการนี้ตลอดช่วงปิดเทอม มันเป็นเรื่องยากลำบากสำหรับเขา ยากกว่าโจทย์ฟังก์ชันตรีโกณมิติหรือเมทริกซ์เสียอีก แต่มันมาถึงจุดนี้แล้ว จะยอมให้โอกาสสุดท้ายของภาคเรียนปีสุดท้ายหลุดมือไปอย่างนั้นหรอ แล้วถ้าหากไม่มีโอกาสแบบนี้อีกเลยล่ะ เขาจะต้องเสียใจและมัวแต่คิดเสียดายที่ไม่ได้เลือกทำในสิ่งที่ใจต้องการไปตลอดชีวิต อย่างน้อยถ้าได้ลงมือถึงจะไม่เป็นไปอย่างที่ต้องการก็สามารถบอกกับตัวเองได้ว่าได้ลองทำไปแล้ว
แม้จะต้องแลกมากับมิตรภาพระหว่างเพื่อนก็ตาม
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in