เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ยิงสิ ศึกปืนนองเลือด(1)KCD.JOR
อะไรว่ะเนี่ย
  • “ท่านลานุ ท่านลานุ”ภาคีเรียกลานุอยู่ที่หน้าประตูวัง

    “เราตัดสินใจแล้ว อย่าไม่ถามเราอีก”ลานุตอบอย่างบ่ายเบี่ยง

    “ท่านแน่ใจแล้วใช่หรือไม่ที่จะให้สอผ่านด่านแรกนี้ไปผมนึกว่าท่านจะกำจัดสอให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เสียอีก”ภาคีพูดกรีดใจของทั้งลานุ และดุสิตาที่เดินตามหลังลานุ

    “มันก็ส่วนหนึ่งแต่ถ้ามันผ่านบททดสอบได้ เราก็ไม่มีสิทธิตัดสิทธิได้ มันไม่ถูกต้อง”

    “นั้นคือการตัดสินใจของท่านหรือของท่านตากันแน่?”กรีดใจครั้งที่2 ดุสิตาที่อยู่ข้างหลังลานุนั้น จับมือลานุแสดงถึงการส่งกำลังใจไปให้แล้วเดินเข้าประตูวังไปพร้อมกับนม

    “อีกอย่างนะท่านบททดสอบที่สองและสามที่จะเกิดขึ้นต่อไป ท่านแน่ใจแล้วใช่มั้ยว่าท่านตาจะยอมรับได้”ภาคีแกล้งว่าเป็นห่วงดุสิตาในบททดสอบของสอ

    “ไม่ต้องเป็นห่วงเธอ เราตัดสินใจไปแล้วและมันเหมาะสมที่สุด ทั้งตัวเรา ตัวตา และทางวัง”

    “ผมส่งลูกน้องเข้าไปในการสอบครั้งนี้”ภาคีจงใจพูดถึงแผนที่เขาวางไว้

    “ทำอะไรก็ทำเถอะ แต่อย่าให้ถึงตายเข้าใจมั้ย”

    “ไม่ตายหรอกท่าน เพราะถ้ามันตายท่านตาก็คงจะตายตามด้วย และถ้าท่านตาตายไป ท่านคงจะลำบากไม่น้อย ถูกหรือไม่” รอบที่3แล้วนะภาคี

    “ถ้ามันตาย มึงก็ตายด้วยเข้าใจใช่มั้ย?” ลานุขู่คืน

    “เพยะค่ะ พักผ่อนให้สบายนะกระหม่อม”น้ำเสียงบ่งบอกได้ถึงความมีไม่ชอบมาพากลอย่างเห็นได้ชัด 

  • หลังจากที่ภาคีออกมาจากบริเวณหน้าประตูวังก็มุ่งหน้ากลับมาที่กรมทหารเพื่อพบกับเจ้ากรมทหารและพ่อของดุสิตาที่รออยู่ข้างใน

    “สวัสดีท่านภาคี”ทั้งสองทักทายภาคีที่กำลังเดินเข้ามาในห้องอย่างรีบเร่ง

    “คนของผมบอกมาว่า มีพลทหารอีกนายเข้าร่วมด้วยหมายความว่าอะไรท่านเจ้ากรม ผมต้องการคนอธิบาย”ภาคีพูดถึงหินที่ไม่เชื่อคำขู่ของเจ้ากรมทหาร

    “แสดงว่ามันอยากตายครับ ง่ายๆนิ ผมบอกมันแล้วว่าอย่ามาถ้าไม่อยากตาย โง่ชิบหาย” เจ้ากรมทหารพูดออกมาอย่างติดตลก

    “แน่นอน ว่าท่านตายังรักไอ้สอมันอยู่จากด่านแรกก็บ่งบอกได้ชัดเจน” ภาคีหันหน้ามาทางพ่อของดุสิตา

    “หมายความว่าอะไรท่าน”

    “ก็หมายความว่า ลูกสาวคนเดียวของท่านกำหนดด่านนี้เพื่อให้ไอ้สอมันผ่านไปได้นะสิ ด่านอะไร คิดได้แค่นี้ไง ด่านรอรอไปเรื่อยๆงั้นหรอ ไร้ปัญญา” ภาคีหัวร้อนนิดหน่อย

    “อย่างไรก็ตาม คนของผมก็ยังอยู่ในนั้นตอนนี้ก็สนิทกับพวกมัน ฆ่าตอนไหนก็ได้ถ้าผมสั่งมันเท่านั้น และด่านต่อไปทั้ง2ถ้าไอ้สอมันไม่ตายนะ ชาตินี้มันก็ไม่ต้องตาย”ภาคีมั่นใจในแผนของตนเองอย่างมากในการกำจัดสอ

    “ก่อนท่านจะไป ขอถามได้มั้ยท่านทำไมเล็งที่ไอ้สอมัน” เจ้ากรมทหารถามอย่างสงสัยเพราะถึงแม้ว่าจะได้ประโยชน์จากแผนครั้งนี้ แต่ก็เลี้ยงดูสอมาเหมือนกัน

    “ถ้าสอมันตายท่านลานุคงจะยอมอะไรง่ายขึ้นกว่านี้เยอะ ผมบอกได้เท่านี้ ตอนนี้” ภาคีลุกออกจากห้องหลังจากจบการสนทนาเพราะอีก2วันข้างหน้า คืองานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขาเพื่อสิ่งที่เขาต้องการ

  • เสียงปืนดังลั่นบ่งบอกถึงเวลาที่เข้ามาถึงในการทดสอบด่านที่2ของไตรมรณะลานุและดุสิตาเดินทางมาถึงบริเวณหน้ากรมทหารพร้อมกับภาคี

    “คนที่มีสัญลักษณ์จากเมื่อวานจงอย่าทำให้สัญลักษณ์นั้นหายไปเด็ดขาด เพราะถ้ามันหายไปนั้นหมายถึงจะต้องออกจากไตรมรณะทันที” ภาคีอธิบายถึงสัยลักษณ์ที่ทำเมื่องานให้กับคนที่ผ่านรอบแรกทุกคน

    “ทำได้ดีทุกคนการทดสอบเมื่อวานคือการทดสอบการอดทน และแน่นอนการเข้าตัวรอดในสถานการณ์ต่างๆซึ่งทุกคนทำได้ดีมาก ขอแสดงความยินดีด้วย” ลานุปรบมือแสดงความยินดี

    “แต่ก็ยังเร็วเกินไปที่จะมีความสุขเพราะหลังจากนี้ไป จะเป็นบททดสอบที่ยากขึ้น เราเองและท่านหญิงดุสิตาขออวยพรให้ทุกคนโชคดี” ลานุกล่าวอวยพรกับผู้สมัครที่เหลือทุกคน ก่อนที่จะเดินออกไปดดยดุสิตาก็ยังคงอยู่ที่เวทีเหมือนเดิม

    “จงย้อนนึกกลับไป เหตุผล..เหตุผลที่อดทนฝึกซ้อม เช้าเย็น แดดฝน มาสมัครเพื่ออะไร และเพื่อใคร หากท้อ ให้คิดถึงเหตุผลนั้นและให้คิดถึงคนนั้น ขอให้โชคดีค่ะ” ดุสิตากล่าวให้กำลังใจผู้สมัคร ซึ่งแน่นอนคนที่เข้าใจความหมายของมันมากที่สุดของคือใคร ลองเดาดูเอง

     

    “ด่านทดสอบไตรมรณะที่ 2 และที่3ฟังให้ดี เพราะจะไม่มีการพูดซ้ำอีกแล้ว ไม่มีผู้คุมสอบติดตามไปด้วย มันคือภารกิจที่มีแต่พวกเอ็งทุกคนที่ต้องทำให้สำเร็จ” ภาคีเริ่มอธิบาย

    “ด่านที่2 ผู้สมัครทุกคนจะกระเป๋าคนละ1ใบ”ไม่นะ สอส่ายหัว

    “กระเป๋าใบนั้นมีทุกอย่างที่ต้องการในการใช้ประคองชีวิตได้2-3อาทิตย์” จู่ๆสอก็ตัวเริ่มสั่น

    “และสิ่งของอีก1อย่าง ซึ่งแต่ละคนจะได้ไม่เหมือนกันสิ่งนั้นคืออาวุธที่ทางทหารเก็บรวบรวมได้จากชายแดนเมืองบูลวา”

    “ด่านที่2คือผู้สมัครจะต้องทำอย่างไงก็ได้ให้สิ่งของพวกนี้ทำงานได้โดยด่านที่3คือกลับมาที่นี้และแสดงให้เราดู ถ้าทำได้ ถือว่าผ่านไตรมรณะ”ทั้งหมดก็ต่อแถวรับกระเป๋าและรับสิ่งของภารกิจ

    “มึงๆ” หินสะกิดสอ

    “เออ กุรู้ ปืนทั้งนั้นแต่ก็ไม่เคยเห็นเหมือนกัน ไม่ใช่ปืนเมืองเรา กระสุนก็ไม่มียากๆทั้งนั้น” สอตอบกลับ

    “แต่อันนั้นไม่ใช่ปืนนะนั้น”สองพูดแทรก

    “มันคือลูกระเบิด แต่มันก็แน่หละมันไม่ใช่อาวุธเมืองเรา ไม่ใช่ง่ายๆเลย” มีทั้งระเบิด มีทั้งปืนอาวุธสงครามทั้งนั้น มีเรื่องอะไรที่สอไม่รู้หรือเปล่า สุดท้ายแล้วทั้งหมดได้กระเป๋าและสิ่งของที่ต้องมาทำภารกิจ

    “เหี้ยอะไรว่ะ”หินอุทานขึ้นอย่างตกใจกับสิ่งของที่ตัวเองได้รับ

    “ก็ เหี้ยไรว่ะ เหมือนกิ่งไม้ชิบหาย”สอพูดเสริม ทั้ง5คน ต่างได้รับระเบิดรูปแบบต่างๆ ไม่เหมือนกันเลย

    “ขอย้ำเตือนอีกครั้งสิ่งของภารกิจที่ได้รับ ห้ามพัง ห้ามทำลาย จนกว่าจะมาแสดงให้เราเห็น ขอย้ำ”ภาคีย้ำเตือนอีกครั้ง

    “เพิ่มเติม มีเวลา 15 วันเท่านั้น15วัน ขอย้ำ ขอย้ำ” ภาคีพูดเสริม

    “เอาไงดีว่ะสอ ถ้าเดินเท้าไปก็ใช้เวลา2-3วัน ไปกลับรวมๆก็6วัน เรามีเวลาพอปะว่ะที่จะหาข้อมูลเกี่ยวกับไอ้เหี้ยพวกนี้หินดูเป็นกังวล

    “อย่าลืมนะ พวกมึงมีพวกกุ” กลุ่ม123แสดงตัว

    “พวกกุถูกส่งตัวมา เพื่อมาช่วยพวกมึง”1 กล่าวเปิด

    “เพราะพวกกุทำตามประสงค์ของท่านตา”2กล่าวตาม

    “ท่านตา ที่พวกกุถวายหัวถวายชีวิตและเป็นคนที่รักมึง” 3กล่าวปิด 

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in