เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รีวิว - RoseMarina Book Blog
รีวิว - ลิ่วเหยา : Priest
  • เรื่องย่อหลังปก

    เหยียนเจิงหมิง ศิษย์พี่ใหญ่ผู้มีชาติกำเนิดร่ำรวยสูงส่ง เมื่อตอนอายุเจ็ดขวบหนีออกจากบ้านแล้วถูกอาจารย์ที่เจ้าเล่ห์เพทุบายเก็บได้ ต่อมาก็กลายเป็น ""ที่พึ่งของสำนัก"" ""ผู้สนับสนุนของเจ้าสำนัก"" และ ""ศิษย์เอกเปิดขุนเขาแห่งสำนักฝูเหยา"" เขาเป็นบุรุษรูปงามที่มีผมสีดำยาวสยาย เป็นคุณชายเหยียนผู้ไม่เอาไหน เจ้าสำอาง หลงตัวเอง ปากร้าย จนบรรดาศิษย์น้องแอบเรียกว่า ""เจ้าแม่"" แต่ในยามคับขันเขาคือศิษย์พี่ใหญ่ที่พึ่งพาได้

    เฉิงเฉียน ศิษย์คนที่สามของสำนักฝูเหยา เป็นเด็กฉลาด ความจำดี มีใบหน้าน่ารักแต่เย็นชา รูปร่างเจริญเติบโตเชื่องช้าตามอายุไม่ทัน เขาสุขุมรอบคอบ ขยันหมั่นเพียร เห็นตนเองเป็นคนงานน้อย ข้ารับใช้น้อย...เพียงแต่คนในครอบครัวไม่เคยเห็นเขาเป็นบุตรชาย ดังนั้นเมื่อถูกขายเขาจึงตามชายแปลกหน้าท่าทางเหมือนนักต้มตุ๋นไปจนถึงเขาฝูเหยา และได้พบกับศิษย์พี่ศิษย์น้อง ""ผู้ร่วมลิขิตฟ้า ร่วมชะตากรรม""

    คุยกันหลังอ่าน


    เล่ม 1 - E Book: CLICK!
    เรื่องนี้เราตั้งใจจะรีวิวรายเล่มค่ะ เพราะกลัวว่าตอนถึงเล่มสามจะลืมความรู้สึกในตอนนี้ไปแล้ว ก็เลยอยากจะทำนองว่าบันทึกไว้ก่อน...ประมาณนั้นล่ะมั้งคะ
    สารภาพว่าเราอ่านลิ่วเหยาใช้เวลาค่อนข้างนานกว่าความเร็วปกติของเรามาก จริงๆสามเล่มควรจะสักสองวันน่าจะเหลือเฟือ แต่เราอ่านมาสามสี่วันแล้วค่ะ เพิ่งจะจบเล่มแรกเอง ดูจากวันที่ลงรีวิวสัตบุรุษได้ คือเราอ่านเรื่องนั้นจบตั้งแต่วันที่ 1 ตุลา ตอนที่เขียนรีวิวเล่ม 1 อยู่นี่วันที่ 5 แล้วอะ
    ก็ฉบับที่เราอ่านนี่ เป็นฉบับที่มีปัญหากันเรื่องการแปลนะคะ คือส่วนตัวพูดกลางๆละกันนะ ว่าเราเองก็ไม่ได้มีความรู้ภาษาจีนอะไร แต่ส่วนที่มีคนเทียบต้นฉบับแล้วชี้ว่าแปลผิดแปลตกก็คิดว่าสมควรจะแก้ค่ะ แต่ในเรื่องของภาษาหรือเนื้อเรื่อง เราไม่ได้รู้สึกว่ามันยากอะไรขนาดนั้น อาจจะมีช่วงที่เรางงประโยคบ้างเหมือนกัน แต่คิดว่าพลอตมันไม่ได้อ่านยากนะ เราอาจจะอ่านแนวกำลังภายในมาก่อนอยู่แล้วด้วยก็คงจะมีส่วนบ้างล่ะมั้ง 

    มาที่เรื่องกันบ้าง ส่วนที่เราชอบที่สุดของลิ่วเหยาคือพลอตกับคาแรกเตอร์ โดยเฉพาะคาแรกเตอร์ คือดีมากกก แบบดีมากๆๆ โดยเฉพาะเฉิงเฉียนกับเหยียนเจิงหมิง สองคนนี้แบบมีบุคลิกที่กลมมาก มีข้อเสียที่แบบจับต้องได้ แล้วก็ดูเป็นมนุษย์มากๆอะ คือไม่ใช่ตัวละครที่ออกแบบมาเท่ๆอะ แต่เป็นตัวละครที่มีชีวิตชีวามากๆ ซึ่งเรารู้สึกว่าไม่ใช่ทุกคนจะทำได้แบบนี้ น้อยคนด้วยซ้ำ จุดนี้เราประทับใจมาก มันยังทำให้การเติบโตการเปลี่ยนแปลงของตัวละคร แบบ character development แน่นมาก เราชอบตัวละครสองตัวนี้มากแบบที่ไม่รู้จะเอาอะไรมาติเลย ดีมากจริงๆ

    ในส่วนพลอตแล้วก็โทนของเรื่อง เรารู้สึกว่ามันก็เป็นแนวฝึกเซียนที่มีความเป็นวรรณกรรมเยาวชนอะ โดยเฉพาะช่วงครึ่งเล่มแรก ยิ่งตอนที่เด็กห้าคนออกไปด้วยกัน แบบรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังอ่านวรรณกรรมเยาวชนอยู่รึเปล่า อาจจะเพราะตัวดำเนินเรื่องเป็นเด็กด้วย ซึ่งเป็นส่วนที่เราชอบนะคะ 

    ซีนที่เราชอบในเล่มแรกคือ ซีนที่หมิงเจิงเหยียนกอดเฉิงเฉียนหลังจากอาจารย์ตายแล้วบอกว่า ศิษย์พี่อยู่ตรงนี้ อะ คือรู้สึกว่าตัวละครอย่างหมิงเจิงเหยียน ถ้าไม่มีคนเฉิงเฉียนในชีวิตก็ไม่มาถึงจุดนี้ ตั้งแต่วันนั้นที่อาจารย์ตายแล้ว หมิงเจิงเหยียนก็เหมือนถูกการมีอยู่ของเฉิงเฉียนบังคับให้โตขึ้นอย่างรวดเร็วภายในเวลาสั้นๆ เราชอบศิษย์พี่ใหญ่คนนี้มาก พอๆกับที่ชอบตัวละครของเฉิงเฉียน ชอบความดื้อด้านของเฉิงเฉียน ชอบวิธีการคิดของเฉิงเฉียน ชอบไปหมดเลยค่ะ

    อีกซีนที่ชอบก็คือ ซีนที่อาจารย์กันฝนให้เฉิงเฉียน แล้วเฉิงเฉียนคิดเองเออเองอยู่ในใจว่าต่อให้อาจารย์ทำอะไรก็จะให้อภัยแล้วก็จะเชื่ออาจารย์อะ เพราะตลอดชีวิตที่ผ่านมาไม่เคยมีใครทำให้เฉิงเฉียนรู้สึกถึงความถูกปกป้องอย่างจริงใจแบบนั้นมาก่อน TT^TT สะเทือนใจ ฮือ

    ชอบความสัมพันธ์ของศิษย์พี่ศิษย์น้องในสำนักด้วย แอบรู้สึกถึง death flag รางๆ เราแอบคิดว่าตอนจบเหลือไม่ครบชัวร์ แล้วเราต้องร้องไห้แน่เลย ...ก็มาดูกันค่ะ (ฮา)

    แล้วก็ถึงแม้ว่าเราจะรู้สึกว่าเราเพิ่งจบเล่ม 1 แต่เรารู้สึกว่าในบรรดาเรื่องของพีต้าที่เราเคยอ่านมาทั้งหมด เทียนหย่าเค่อ กาเดี้ยน เราคิดว่าตัวเองจะชอบลิ่วเหยาที่สุดค่ะ เอาจริงนับว่าเหนือความคาดหมาย (ในทางที่ดี) มากๆเลยค่ะ


    เล่ม 2 - E Book: CLICK!
    เราใช้เวลาอ่านเล่ม 2 น้อยกว่าเล่ม 1 มาก รู้สึกเหมือนเครื่องติด อาจจะเป็นเพราะว่าเนื้อหาในช่วงเล่ม 2 เองก็เข้มข้นมากๆด้วยค่ะ เนื้อเรื่องดำเนินต่อจากการเรียนในห้องโถงเกาะมังกรเขียว ไปจนกระทั่งการกดดันเจ้าเกาะ เจ้าเกาะฝืนส่งตัวศิษย์สำนักฝูเหยาทุกคนออกมาจากเกาะ ตัวเจ้าเกาะกับผู้บรรลุถังสุดท้ายตาย ศิษย์สำนักฝูเหยาหนีออกทะเลมา ไปจบที่เกาะร้างแห่งหนึ่ง ต่อสู่กับโจวหานเจิ้ง หานยวนถูกวาดวิญญาณฆ่าเฉิงเฉียน หมิงเจิงเหยียนพาหลี่อวิ๋นกับสุ่ยเคิงหนีออกจากเกาะร้าง เฉิงเฉียนอาศัยสร้างร่างขึ้นมาใหม่ใช้เวลาทั้งหมดร้อยปี ก่อนจะเดินทางกลับไปหาศิษย์พี่ศิษย์น้องอีกครั้ง

    เรารู้สึกว่าเล่มนี้เนื้อหาแน่นมาก แทบจะไม่มีเวลาให้หยุดพักหายใจเลย บวกกับเนื้อหาค่อนข้างสะเทือนใจ คือเป็นเล่มที่รู้สึกว่าหมิงเจิงเหยียนรักเฉิงเฉียนมาก รักมากกว่าศิษย์น้องคนอื่น ไม่ว่าอะไรก็ทำไม่ลง แล้วการสูญเสียเฉิงเฉียนไป ก็เหมือนเฉือนเอาส่วนนึงของหมิงเจิงเหยียนไปด้วย คือรู้สึกว่าคนเขียนไม่ได้ขยี้มากแต่ว่าสัมผัสได้ว่าเจ็บปวดมาก ทั้งวิญญาณที่สร้างขึ้นมาเพื่อมองดู เพื่อเป็นเพื่อนพูดคุยด้วย ศิษย์พี่ที่ต้องพยุงสำนักที่คลอนแคลนอยู่ร้อยปี ในร้อยปีนั้น โทษตัวเองไปเท่าไหร่ แค้นตัวเองไปเท่าไหร่ คิดว่าแค้นหานยวนเท่าไหร่ แค้นตัวเองยิ่งกว่านั้นมาก

    บวกกับเล่มนี้เป็นเล่มที่หมิงเจิงเหยียนเริ่มรับรู้แล้วก็ยอมรับแล้วว่าความรู้สึกที่ตัวเองมีกับเฉิงเฉียนเป็นความรู้สึกแบบไหน ชอบพารากราฟที่บอกว่าเหมือนเป็นเด็กยากจนที่เฝ้าลูกกวาด อยากจะฮุบเอาไว้เองแต่ไม่มีความกล้า 

    ซีนหนึ่งที่เราชอบมากคือตอนที่เฉิงเฉียนตบหน้าหานยวน (ไม่ได้ชอบตรงนี้นะ) แต่ชอบตรงที่สุ่ยเคิงเรียก 'ศิษย์พี่' ขึ้นมา แล้วบรรยายว่า ไม่รู้นางเรียกศิษย์พี่คนใด แต่คนที่ควรได้ยินล้วนได้ยินแล้วไม่เว้นแม้แต่คนเดียว ตรงนี้รู้สึกแบบประทับใจมากๆ รู้สึกว่ามันเป็นความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นมาก หานยวนที่เข้ามรรคาปีศาจไปแล้วยังชะงักเพราะเสียงเรียกนี้

    ในช่วงท้ายของเล่มเฉิงเฉียนเองก็มีวี่แววว่าจะรับรู้ความรู้สึกของตัวเองในเร็วๆนี้ค่ะ
    ส่วนตัวเราชอบมากเลย ชอบความความเป็นไปของความสัมพันธ์ของเฉิงเฉียนกับหมิงเจิงเหยียนอะ ชอบความกระวนกระวาย ความรู้สึกผิด ความอดรนทนไม่ได้ ของหมิงเจิงเหยียนที่เหมือนมดเดินบนกะทะร้อนใบหนึ่ง ส่วนเฉิงเฉียนมีความรู้สึกอยู่แต่ไม่เข้าใจ แล้วก็คิดว่าคงไม่เคยไปคิดด้วยว่าความรู้สึกที่ตัวเองมีต่อหมิงเจิงเหยียนเป็นแบบไหน



    เล่ม 3 - E Book: CLICK!
    สารภาพว่าตอนอ่านเล่ม 2 จบ มันเป็นเวลาดึกมากแล้ว แล้วเรามีประชุมเช้า แต่ยังติดพัน เพราะงั้นเราสกิมเล่ม 3 ไปรอบหนึ่งก่อนค่อยมาอ่านละเอียดอีกที ตอนนี้อ่านแบบละเอียดจบแล้วคิดว่าแอบถูกการสปอยล์ของตัวเองทำให้เสียอรรถรสไปนิดหน่อยค่ะ แต่ก็ยังสนุกอยู่ดี
    เล่ม 3 นี้ความรักของศิษย์พี่ศิษย์น้องชัดเจนขึ้นมา เรียกว่าตกลงปลงใจ รักกันแทบบ้า ตายแทนกันได้ ตอนที่ประโยคที่ว่า "เจ้าก็คือชะตาผูกมัดที่แข็งแกร่งจนมิอาจทำลายในโลกิยะของข้าแล้ว" ก็คือเฉิงเฉียนไม่ได้ตัดสินใจไปมรรคาสวรรค์ (ที่ไม่รู้เป็นยังไง) เพราะว่าในโลกโลกิยะยังมีศิษย์พี่ที่รักมากๆ ที่ทิ้งไปไม่ลงอยู่คนนึง ประโยคนี้ชวนให้คิดถึงประโยคหน้าประตูของเต้ามู่อยู่บ้างเหมือนกันนะ (ฮา)
    เรารู้สึกว่าจริงๆแล้วลิ่วเหยาโรแมนติกมาก...แบบมากๆ ถึงแม้ว่าฉากเอนซีจะไม่มี เรียกว่าตัดเข้าโคมไฟสุดๆ แบบแทบจะไม่รู้เลยว่านี่คือพระเอกนายเอกได้กันเรียบร้อย แต่เราก็ยังรู้สึกว่าความหวานจัดเต็ม โรแมนติกมาก ชอบมากค่ะ
    นอกจากความสัมพันธ์ของพระนายที่บิวต์มาดีมากแล้ว พลอตเรื่องแล้วก็มิตรภาพร่วมสำนักก็ดีมากด้วยเหมือนกัน ในตอนอ่านเล่มหนึ่งเราแอบรู้สึกว่า death flag ต้องลงหัวใครสักคน ตอนจบจะอยู่กันครบได้ยังไง ปรากฏว่าเดาผิดแฮะ (ในทางที่ดีอะนะ) ทุกคนมีชีวิตอยู่อย่างค่อนข้างอยู่ดีมีสุขในตอนจบ ก็ถือว่าเป็นตอนจบที่ดีกว่าที่เราคิดเอาไว้มากเลยค่ะ

    สรุปแล้ว ลิ่วเหยานี่เราชอบมาก ถ้านับในเรื่องของพีต้าที่เราเคยอ่านมาทั้งหมด นักรบพเนจรสุดขอบฟ้า การ์เดี้ยน ก็คิดว่าชอบเรื่องนี้ที่สุดค่ะ เผลอๆลิ่วเหยาน่าจะติด top ten ของนิยายวายจีนโบราณที่เราชอบมากที่สุดด้วย เราไม่ได้มีลำดับรายชื่อที่ชัดเจนอะไรขนาดนั้น อ่านมาเยอะจนไล่ลำดับไม่ค่อยถูกเท่าไหร่ แต่ด้วยความชอบที่มีคิดว่าต้องติดสิบอันดับแรกแน่นอนค่ะ คือมันแบบน่ารักมากๆ แทบไม่มีตรงไหนไม่ว่าจะพลอตจะตัวละครที่เราไม่ชอบเลยค่ะ เราชอบหมดเลย


    รีวิวแยกตามสนพ: Home
    รีวิวเรื่องอื่นๆของ ROSE: Rose

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in