*บทนี้ไม่เหมาะกับคนที่กำลังเป็นโรคซึมเศร้า / กำลังหมดหวังในชีวิต / self esteem ต่ำ
รีบปิดไปซะ ฉันไม่อยากเป็น trigger ให้ใคร*
เอาจริง มันเป็นบทที่ดูเรียกร้องความสนใจดี
ใครอยากจะด่ายังไงรบกวนด่าในใจเถอะ เหนื่อยที่จะรับรู้แล้ว
แรงจะเคาะคีย์บอร์ดยังแทบจะไม่มี
บทที่แล้วอุตส่าห์ดีขึ้น
ไม่รู้ทำไมถึงดิ่งวูบลงไปอีก
เหมือนปีนหน้าผามาได้ระดับหนึ่ง แล้วจู่ ๆ ก็ถูกหลุมดำดูดเข้าไป
มันเคว้ง มันฟุ้ง มัน ไม่รู้ อธิบายแบบชัดเจนไม่ถูก
จมกับตัวเองมาหลายชั่วโมงแล้ว
แต่เคยสัญญากับตัวเองไว้ว่า ถ้าดิ่งต้องห้ามจมนะ ต้องพาตัวเองไปทำอย่างอื่น นอกจากการอยู่เฉย ๆ
เลยพาตัวเองมาเขียนบล็อก อย่างน้อยออกแรงแค่นิ้วกับข้อมือ คงพอมีแรงอยู่
อยากจะออกกำลังกาย แต่ดันตัวเองไม่ขึ้น
ตลกดีนะ ร่างกายตัวเองแท้ ๆ ความรู้สึกตัวเองแท้ ๆ ยังควบคุมไม่ได้เลย
นึกถึงประโยคที่แม่เคยพูด
"แม่พยายามเข้าใจและหาข้อมูลนะ โรคซึมเศร้านี่ ก็คือโรคขี้เกียจใช่ไหม?"
จำได้ว่าตอนนั้นร้องไห้โฮแล้วตอบกลับไป
"ไม่ใช่นะ ถ้าขี้เกียจก็คือขี้เกียจทำสิ่งนั้น อยากนอนเฉย ๆ หรือไปทำอย่างอื่นที่มีความสุข
แต่ซึมเศร้าไม่ใช่
มันเป็นกล่องเปล่า ๆ
ไม่มีความอยากจะทำ ไม่มีแรงจะทำ
มันไม่ใช่การอยากหนีแบบขี้เกียจ แต่มันคือความว่างเปล่า"
แน่นอนว่าแม่ไม่เข้าใจ ฉันร้องไห้หนักขึ้น และแม่สัญญาว่าจะไม่พูดเรื่องนี้กับฉันอีก เพราะมันทำให้ฉันร้องไห้
ไม่รู้ว่าดีหรือเปล่า แต่ก็ช่างมันเถอะ
คุณว่าคุณค่าของตัวเองเกิดจากอะไร
พอเล่นโซเชียลเข้า เห็นเพื่อนดูมีความสุข ดีจังนะ
ฉันไม่คิดว่าการเข้ามหาลัยเป็นความสุขของชีวิตหรอก
แต่ทำไมตอนนี้ถึงอยากเข้ามาก ๆ ไม่รู้
ทำไมนะ
คงเพราะอยากได้การยอมรับจากสังคมมั้ง
อย่างน้อยก็มีที่เรียน ไม่ใช่ลอยไปลอยมาอยู่วัน ๆ แบบนี้
เพราะแม่สนิทกับพวกพ่อค้าแม่ค้าในตลาด
ไปตลาดทีก็มีแต่คนถามว่าเรียนที่ไหน
พอบอกว่าไม่เรียน กลับได้รับสีหน้าไม่ดีกลับมา
ฉันสิควรจะรู้สึกไม่ดี
ไม่ใช่คุณ
เหนื่อย
พอมาลองคิดดูแล้ว
คนรอบตัวก็มีแต่คนเก่ง ๆ ทั้งนั้น
เพื่อนคนนึงกำลังจะเปิดร้านของตัวเอง จากเงินที่หามาเอง พร้อมเรียนไปด้วยทั้งที่อายุเท่าเรา
เพื่อนบางคนไม่ต้องพยายามอะไรเลย แต่ก็ได้ทุกอย่างมาง่าย ๆ
หมายถึงว่า มีทุกอย่างที่ฉันอยากจะมี ได้ทำทุกอย่างที่ฉันอยากจะทำ เพราะมีคนซัพพอร์ต
ใช่ อิจฉา
รู้สึกเหมือนสู้อยู่คนเดียว โดยไม่รู้ว่าสู้กับอะไรอยู่
เหมือนต้องหยิบดาบมาฟันลมไปเรื่อย ๆ
โดยไอ้ลมบ้านั่นก็ไม่ได้ตาย แถมยังเหนื่อยเอง
แต่ต้องทำ ไม่รู้ว่าทำเพื่ออะไรเหมือนกัน
อยากคุยกับใครสักคน อยากได้กอด อยากร้องไห้ใส่แล้วได้ปลอบว่าไม่เป็นไรนะ
แต่ไม่อยากเอาตัวเองไปเป็นภาระใคร
แค่ทุกวันนี้แชทกับเพื่อน ก็รู้ว่าเป็นภาระเขาที่ต้องมาแคร์เพื่อนเก่า ๆ อย่างเราแล้ว
เขาควรไปมีสังคมใหม่ ไปเจอเพื่อนที่ให้พลังบวก ไม่ใช่จมอยู่กับกองขยะที่ให้แต่พลังงานลบ ๆ แบบนี้
รู้สึกตัวเองเหมือนจานข้าวที่กินหมดแล้วในเดอะซิมส์หนึ่ง
วางตรงไหนก็เกะกะไปหมด
รั้งแข้งรั้งขาคนอื่นไปทั่ว และไม่ได้ทำประโยชน์ให้ใครเลย
คงดีกับคนอื่นมากกว่าถ้าหายไป
ถ้าตายยังต้องตามเก็บศพ จัดงานนู่นนี่อีก ตายแล้วยังเป็นภาระ
ถ้าโดดน้ำ ก็ยังต้องงมศพ
โดดตึกนี่ไม่ต้องพูดถึงเลย
ถ้าหายวับไปเลยเฉย ๆ ก็คงดี
นึกถึงพี่ชายคนนึง ผูกคอตายที่อพาร์ตเมนท์ตรงข้ามบ้านเมื่อสิบปีก่อน
เหมือนจะกรีดแขนด้วย จำไม่ค่อยได้แฮะ และเอาเลือดเขียนตรงประตูห้องน้ำว่าอะไรสักอย่าง พร้อมจดหมายลา
พี่เขาเป็นคนดีมากเลย นิสัยดี วิ่งรอบหมู่บ้านและใส่บาตรทุกเช้า แถมชีวิตก็ไม่มีหนี้สินอะไรทั้งนั้น
ไม่รู้อะไรทำให้พี่ตัดสินใจแบบนั้น
คงคล้าย ๆ ฉันตอนนี้
ตอนนั้นฉันยังเด็กมาก และโรคนี้ก็ยังไม่เป็นที่รู้จักนักในไทย
ถ้าพี่ยังอยู่ เราคงได้ปรับทุกข์กัน พากันไปหาหมอ ในฐานะเพื่อนร่วมโรค
โรคที่มักเกิ้ลไม่เข้าใจ
ผีมีจริงมั้ยเนี่ย พิมพ์ ๆ อยู่ประตูห้องนอนดังตึ้ง
พี่รู้ว่าแอบนินทาเหรอ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in