pairing : yunho x jaejoong
rate : PG – 15
genre : romance
inspired song : born to love you
ยุนโฮเคยคิดสงสัยว่าทุกวันนี้มนุษย์แต่ล่ะคนใช้ชีวิตไปแต่ล่ะวันเพื่ออะไร
หรือแม้กระทั่งว่า คนเราเกิดมาลืมตาดูโลกโดยมีจุดประสงค์อะไร
เขากำลังคิดตอนที่ทอดมองไปริมหน้าต่างแล้วริมฝีปากเขาก็ต้องยกยิ้มจางๆ โดยไม่รู้ตัว
ครบหนึ่งปีแล้วสินะ
กระดาษเก่าเก็บที่เคยเขียนไว้เมื่อปีที่แล้ว ( :
ถึง คุณ (อดีต) คนแปลกหน้า
10 ตุลาคม 2011
วันที่ -เราพบกันครั้งแรก-
วันนั้นฝนเพิ่งจะหายตก
ผมยังจำได้ดีถึงกลิ่นไอละอองฝน ฝ่าเท้าผมย่ำลงไปบนผืนทรายสีนวลเนื้อละเอียด
ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องบังเอิญหรือพรหมลิขิตที่ทำให้ผมได้พบกับคุณ
คุณนั่งกอดเข่าอยู่ที่ริมทะเล ทั้งที่ๆ ฟ้าใกล้มืด แสงสุดท้ายของดวงอาทิตย์เริ่มคืบคลานเข้ามาเรื่อยๆผมรู้สึกได้ถึงลมหนาวที่พัดผ่านและสังเกตเห็นว่าไหล่บองบางคู่นั้นกำลังสั่น ให้ผมทาย คุณกำลังหนาว
แต่ก็ยังเลือกที่จะนั่งอยู่ตรงนั้น
ผมมองเห็นเสี้ยวหน้าข้างหนึ่งของคุณแม้ผมสีน้ำตาลอ่อนที่ถูกซอยยาวระต้นคอจะพัดปลิวจนบดบังใบหน้าส่วนนั้นไว้เล็กน้อยก็ตาม แล้วหัวใจผมก็กระตุกแปลกๆ อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เหมือนมีเส้นด้ายบางๆกั้นไว้ระหว่างเรา น้ำสีใสที่ไหลออกจากปลายหางตาคู่สวยของคุณนั้น...
คุณร้องไห้
น้ำตากำลังไหลอาบแก้มของคุณช้าๆ แต่ดูเหมือนคุณจะไม่สนใจมัน
คุณยังคงนั่งนิ่งไม่ยอมเคลื่อนกายไปไหน
แม้ว่าในยามนี้ที่หาดจะเหลือเพียงคุณ กับ ผม
ตัวคุณสั่นหนักขึ้นเรื่อยๆ จากที่ไหล่แผ่ไปเป็นทั้งตัว
หัวใจผมเต้นรัวเร็วเป็นจังหวะที่ผมไม่เคยได้ยิน
เหมือนมันกลับมามีชีวิตอีกครั้งหลังจากที่หลับไหลไปนานแสนนาน
คุณทำให้ผมหวั่นไหว ทำให้จิตใจปั่นป่วน
แล้วขาของผมก็ก้าวเดินนำหน้าการสั่งงานของสมองของผมเสียแล้ว
ผมยอมรับ ผมเป็นห่วงคุณ เป็นห่วงในแบบที่ไม่เคยเป็นกับใครคนไหน
คุณคือ คนแรก
และดูเหมือนจะรวมเป็น รักแรก
ผมรู้ว่ามันอาจจะดูแปลกไปหน่อย ประหลาดไปนิดแต่.. ก็ทำไปแล้ว
ทั้งๆที่เราไม่เคยรู้จักกันแท้ๆ
ผมไม่รู้ชื่อคุณในขณะที่คุณเองก็คงไม่เคยเห็นหน้าผม
เราต่างเป็นคนแปลกหน้าของกันและกัน ผมรู้ดี
ผมทิ้งตัวนั่งลงที่ผืนทรายนุ่มข้างๆคุณ เขยิบตัวเข้าไปใกล้อีกนิดจนมือของเราแทบสับผัสกัน
คุณไม่หันมามองผม จนสุดท้ายผมเลยตัดสินใจเรียกคุณเบาๆ
“คุณครับ”
คุณหันมาพร้อมใบหน้าเปื้อนน้ำตา นัยน์ตาคู่สวยของคุณแดงช้ำเล็กๆปลายจมูกรั้นออกแดงนิดหน่อยแม้ผมที่ถูกเซ็ทมาอย่างดีของคุณจะยุ่งเหยิง ริมฝีปากขาวซีดแต่คุณก็ยัง คงงดงาม
นัยน์ตากลมโตของคุณสบเข้ากับดวงตาของผม เราจ้องมองกันเนิ่นนาน
ผมจับได้ว่าแววตาของคุณสั่นไหว
แล้วนั่นอาจเป็นวินาทีที่หนึ่งร้อยสิบที่ผม ตก-หลุม-รัก-คุณ
คุณผินหน้ากลับไปแล้ว ส่วนผมยังคงยิ้มบางๆอยู่อย่างนั้น
ผมเอ่ยถามคุณอีกครั้ง
“ใกล้มืดแล้ว ไม่กลับที่พักหรือครับ”
คุณไม่ตอบ ก่อนจะขยับตัวเลื่อนไปให้ไกลจากผมอีกนิดแต่มีเหรอที่คุณจะไวกว่าผม
ผมจับข้อมือคุณไว้ คุณสะบัดหน้ากลับมาอย่างหงุดหงิดใจแล้วส่งเสียงเรียบแต่ฟังดูหนักแน่น
“ปล่อยมือฉัน!”
คุณพยายามขืนตัวออกจากผมแต่ก็ไร้ความหมายในที่สุดคุณก็ต้องมาดิ้นขลุกขลั่กอยู่ในอ้อมกอดผม
ริมฝีปากผมกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ เด็กน้อย
ผมก้มลงมองใบหน้าของคุณที่ตอนนี้เริ่มขึ้นสีแดงเรื่อเพราะความโกรธ นัยน์ตาคุณจ้องมองผมอย่างดุดัน
คุณไม่พอใจ ผมรู้ แต่..
“จะปล่อยได้หรือยัง ฉันอึดอัดนะ โถ่เว้ย!”
คุณสะบัดหัวไปอย่างมางุ่นงานแล้วนั่นยิ่งทำให้คุณดูน่ารักน่าเอ็นดูขึ้นเป็นเท่าตัว
คุณเริ่มออกแรงดิ้นอีกครั้งและคราวนี้ดูเหมือนจะรุนแรงกว่าเก่าคุณผลักอกผมออกไปแต่กลับกลายเป็นผมยิ่งออกแรงกอดคุณแน่นมากขึ้นเท่านั้น คุณยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆคราวนี้ควรเปลี่ยนเป้าหมายมาที่ใบหูฟันขาวๆ ของคุณกัดลงไปเต็มรักจนผมต้องส่งเสียงครางเบาๆเพราะความเจ็บปวด
คุณเหมือนลูกแมวที่อยู่ในอ้อมแขนของราชสีห์
คุณรู้ว่ายังไงก็ต้องแพ้แต่ก็สู้ไม่ถอย สู้ยิบตาจริงๆ ให้ตาย
คุณเปิดปากร้องโวยวายอีกครั้งจนเป็นผมเองที่ทนเสียงแหลมๆของคุณไม่ไหวเลยจัดการปิดเสียงของคุณ
ด้วย
ริมฝีปากของผม
แล้วสุดท้ายคุณก็กลายเป็นลูกแมวเชื่องในอ้อมแขนของผม โถ่สิ้นฤทธิ์แล้วน่าเอ็นดูจริง
คุณหอบหายใจถี่รู้สึกได้ถึงอาการเกร็งทั่วร่างคุณพยายามจะผลักไสตัวเองออกไปแต่ก็ไม่สามารถ ผมเป็นฝ่ายยื้อไว้จนถึงที่สุด แล้วดูเหมือนคุณจะไม่ไหวจริงๆคุณเลยลงมือทำร้ายร่างกายผมทั้งทุบ
ทั้งผลักต่อยตี แถมด้วยสะบัดหน้าตัวเองแรงๆ
ในที่สุดคุณก็หลุดรอดจากจูบมาราธอนครั้งนี้เสียที หน้าของคุณแดงก่ำแต่คราวนี้ผมกลับไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะคุณโกรธ เหนื่อยหรือว่าเพราะอะไรกันแน่ หืม . . ?
แต่ที่เหนือความคาดหมายกว่านั้นผมได้ของที่ระลึกครั้งแรกจากคุณเป็นคำด่าทอจำนวนไม่น้อยพร้อมกับรอยฝ่ามือประทับที่แก้มข้างขวาเต็มแรง ตัวเล็กแต่พลังเยอะไม่เบา
คุณหยัดตัวลุกขึ้นคล้ายจะพยายามวิ่งหนีผม
แต่..มีหรือที่ลูกแมวอย่างคุณจะไวไปกว่าราชสีห์
หรือ ต่อให้คุณวิ่งหนีไปไกลแค่ไหนผมก็ต้องตามล่าคุณให้ทันให้ได้ สาบานเลย!
แขนขาวๆ ของคุณถูกคว้าไว้ให้ทรุดตัวลงนั่งบนตักผม
คุณดิ้นไม่คิดชีวิตพยายามจะแกะมือที่โอบรอบเอวคุณไว้
แต่ บอกเลยมือผมน่ะเหนียวกว่ากาวตราช้างอีกนะ หึ
สุดท้ายแล้วคุณก็ได้แต่นั่งนิ่ง ตัวคุณเกร็งสั่นอีกครั้งเหมือนพยายามกลั้นน้ำตา
สั่นจนผมรู้สึกได้ สั่นจนหัวใจผมเริ่มเต้นผิดจังหวะ
ผมก้มลงมามองหน้าคุณ แสงสุดท้ายของพระอาทิตย์กำลังจะลับไปดวงตะวันสีฉานใกล้จะสัมผัสกับพื้นน้ำเต็มที ไม่ถึงนาทีถัดมา สีแดงส้มของดวงอาทิตย์ก็ค่อยๆกลืนหายไปกับท้องทะเลพร้อมๆ กับที่น้ำตาหยดแรกหลังจากที่หยดก่อนๆที่เพิ่งจะแห้งไป ไหลลงมาอีกครั้ง
ผมกระชับกอดคุณแน่นขึ้น ผมได้ยินเสียงลมหายใจของคุณ สัมผัสได้ถึงอาการสั่นกลัว และ ได้ยินถึง น้ำเสียงแผ่วเบาที่หลุดรอดจากริมฝีปากคุณ
“ปล่อยฉันไปเถอะ ระ..เราไม่รู้จักกันด้วยซ้ำ”
ผมยิ้ม โยกตัวไปมาๆเบา ก่อนจะเอ่ย
“ครับ ผมรู้และเข้าใจดีด้วย แต่..”
“ผมรักคุณ...และคงจะปล่อยคุณไปไม่ได้ ขอโทษด้วย”
คุณเงียบไปสักพักก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นๆที่ผมจับได้ถึงความเย้ยหยันเล็กๆ
"เราไม่รู้จักกันด้วยซ้ำอยู่ดีๆ คุณจะมารักฉันได้ไง”
“ไม่รู้เหมือนกัน.. แต่ผมรักคุณ”
ผมยิ้มอีกครั้งสายตามองไปที่ภาพธรรมชาติตรงหน้าที่ตอนนี้แสงของดวงอาทิตย์ถูกกลืนหายไป
“ผมเคยสงสัยว่าผมเกิดมาเพื่ออะไร ผมไม่เคยรู้และไม่รู้ว่าจะสามารถตามหาคำตอบได้จากไหน
แต่วันนี้แค่เมื่อได้พบคุณ ตั้งแต่วินาทีแรก.. ผมก็รู้แล้ว..”
“...”
“ว่าผม..เกิดมาเพื่อรักคุณ”
คุณนั่งนิ่งเผยอริมฝีปากขึ้นเล็กน้อยๆ แล้วเอ่ยถามผมว่า
“คุณโรคจิตหรือไง ?”
ผมหัวเราะแล้วยื่นหน้าไปใกล้คุณกว่าเก่าใกล้จนคุณยักคอหลบผมแต่ก็ไร้ความหมาย
ผมประทับริมฝีปากบนผิวแก้มอุ่นๆของคุณที่ยังคงมีคราบน้ำตาจางๆ
คุณหันหน้าหนีพยายามสะบัดตัวออกทั้งๆที่รู้ดีแก่ใจว่าคุณไม่มีทางจะหนีพ้น
ผมเอ่ยตอบคุณกลับไปด้วยถ้อยคำที่ไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้จะได้พูด
สำหรับผมหรือแม้แต่กับคุณด้วยมันอาจเป็นประโยคหวานเลี่ยนแต่.. ผมพูดจากใจจริงนะครับ
“ผมอาจจะโรคจิตจริงๆ..เป็นอาการที่จิตใจของผมถูกโรคร้ายที่ผมไม่รู้จักเข้าครอบครอง”
“โรคร้ายโรคนั้น..ก็คือ ‘คุณ’ เอง”
จิตใจมันปั่นป่วนแปลกๆเหมือนไม่ค่อยอยู่กับร่องกับรอยเหมือนมันจะบินมาหาคุณ
เหมือนมันอยากจะเข้ามา..
เป็นส่วนหนึ่งของคุณ
“หึ.. คิดเหรอว่าฉันจะเชื่อ? เรามันก็แค่คนแปลกหน้าที่บังเอิญมาเจอกัน ไม่มีทางที่คุณจะรักผมได้หรอก”
“คุณครับ.. มานั่งอยู่ในหัวใจผมแล้วเหรอถึงรู้ดีไปหมดน่ะ”
“เอ๊ะ! คุณนี่!”
“ผมไม่รู้หรอกนะว่าคุณร้องไห้เพราะอะไรในตอนแรกแต่ถึงยังไง ตอนนั้นในสายตาผมคุณก็ยังสวย...แต่ผมเชื่อว่า ตอนคุณยิ้มคุณคงสวยกว่านี้อีกหลายเท่า ยิ้มบ่อยๆ ดีกว่านะครับ”
“เพิ่งถูกแฟนทิ้ง จะให้ยิ้มหรือไง”
“งั้นเหรอ.. แต่ตอนนี้คุณควรยิ้มได้แล้วนะเพราะแฟนใหม่คุณก็นั่งอยู่ตรงนี้ไง”
ผมลูบแขนคุณเบาๆเมื่อสายลมหนาวพัดผ่านมาอีกครา
แล้วผมก็ต้องเผยรอยยิ้มอีกครั้งเมื่อเห็นท่าทางนั้นของคุณ
คุณกัดริมฝีปากตัวเองแน่น ทำหน้าครุ่นคิด คิ้วเรียวๆของคุณขมวดเป็นปมน้อย
คุณน่ารัก
ไม่ว่าจะทำอะไรก็น่า(หลงให้)รัก
“ฉันยังไม่มีแฟนใหม่สักหน่อย! อย่ามาซี้ซั้วนะ”
“หึ ยังไม่เป็นก็ยังไม่เป็น แต่อีกไม่นานหรอก... อีกไม่นานเราก็จะเป็นแฟนกัน”
“ทำไมมั่นใจนักล่ะ?” คุณเอียงคอน้อยๆแล้วหันหน้ามามองผม
คุณคงลืมไปแล้วว่าไม่กี่นาทีก่อนคุณยังตัวสั่นเป็นลูกแมวน้อยๆร้องไห้แล้วขอร้องให้ผมปล่อยคุณไป. . .
ขี้ลืมจริง แมวเหมียว!
ผมเอ่ยตอบคุณกลับไปด้วยประโยคที่มาจากส่วนลึกในใจ
“เพราะผมเกิดมาเพื่อคุณ ส่วนคุณก็เกิดมาเพื่อผมไงครับ”
“มั่ว!”
“ผมพูดจริงทั้งนั้นแหละแต่พูดเล่นกับผมแบบนี้แสดงว่า..เริ่มมีใจให้แล้วงั้นสิ”
ผมเอ่ยเย้าแหย่คุณแล้วก็ได้รับคำโต้เถียงขึ้นมาทันควัน
“หลงตัวเองที่สุด นี่ปล่อยเลยนะ!! ไอ้บ้าเอ้ย!”
ผมหัวเราะเต็มเสียงก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบนผืนทรายนุ่มคุณสะดุ้งเล็กน้อยแล้วตั้งท่าจะลุกขึ้นแต่ก็โดนผมผลักให้พลิกตัวลงไปนอนข้างๆ ซะก่อนดวงตาสีดำสนิทของคุณเบิกโตเมื่อผมขยับตัวขึ้นคร่อมร่างคุณไว้
ตอนแรกผมคิดว่าคุณจะผลักผมหรือไม่ก็ส่งเสียงอะไรสักอย่างให้คนช่วยแต่ไม่เลย คุณนอนตัวแข็งทื่อสายตาจ้องมาที่ผม แววตาของเราประสานกัน
ผมรู้
ผมโน้มตัวลงจุมพิตที่หน้าผากลาดเนียนของคุณ แล้วเลื่อนมากระซิบเบาๆที่ข้างหู
“รู้ไหม.. คุณกำลังจะได้แฟน
เป็นคนบ้าและโรคจิตแหละ.. ที่รัก”
Born to love you born to love you , born to share yoursmiles and tears
Born to love you till I die .
end.
_____________________________
เรื่องนี้เป็นฟิคเก่าค่ะ เก่ามากแล้ว เราเอามาแก้คำผิดเล็กๆน้อย 5555555555555555
กลับมาอ่านอีกรอบละแบบ หืม พี่ยุนโฮแม่งโคตรบ้าอะ แจจุงก็นะ สุดท้ายก็แผลงฤทธิ์ไม่ออก
อ่านเพลินๆนะคะ อย่าหาสาระอะไรจากเรื่องนี้
พูดคุยกันได้ที่ @ domonuat_ นะคะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in