เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เก็บเล็กผสมน้อย...ร้อยเป็นเรื่องปลายฟ้า
โลกอีกใบกับหัวใจดวงเดิม

  • แต่ก่อนเวลามีคนถามว่ามีงานอดิเรกอะไร ฉันไม่เคยตอบอย่างซื่อตรงกับตัวเองได้เลยว่ามันคืออะไร ... ช่วงชีวิตที่ผ่านมา ความสนใจอันหลากหลายนำพาฉันไปเรียนรู้สิ่งต่างๆมากมาย มามองย้อนดู ฉันคงเป็นนักเสพประสบการณ์ตัวเป้ง แต่สำหรับฉัน มันคือการพัฒนาตัวเองในมิติที่อยากรู้ และยอมทุ่มเทเวลาให้กับมันแบบไม่อั้น เวลาที่เหลือจึงเป็นเวลาของครอบครัว เพื่อนฝูง และการพักผ่อน... ดูเหมือนว่าจะไม่มีที่ว่างให้งานอดิเรกได้แทรกตัวเข้ามาในชีวิตเท่าไรนัก...

    ช่วงก่อนหน้านี้ประมาณ 3-4 ปี ฉันคิดว่าน่าจะต้องหางานอดิเรกทำบ้าง เพราะคาดว่าฉันน่าจะมีเวลามากขึ้น หลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตน่าจะได้รับการปลดเปลื้องออกไป อีกทั้งการมีงานอดิเรกทำอย่างเป็นชิ้นเป็นอัน นอกจากจะใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์แล้ว อีกทางหนึ่งเหมือนเป็นการเติมเต็มอะไรบางอย่างที่ขาดหายไป... แล้วโอกาสนั้นก็มาถึง เห็นโพสใน facebook ของน้องที่สนิทกันหาคนมาร่วมเรียนสีน้ำด้วยกัน รับจำนวนจำกัด ไม่รอช้า ฉันยกมือเข้าร่วมด้วยคน

    วันแรกที่เรียน ตื่นเต้นมาก นักเรียนเกือบทั้งหมดเป็นรุ่นใหญ่เบบี้บูมกับเจนเอ็กซ์ ทุกคนดูกระตือรือร้น มากันก่อนเวลาเรียน บางคนเป็นศิษย์เก่า บางคนเป็นน้องใหม่ ซึ่งฉันเป็นหนึ่งในนั้น  แถมไม่มีพื้นฐานใดๆเรื่องสีน้ำมาก่อน นอกจากการเรียนวิชาศิลปะตอนเด็กๆ

    ห้องเรียนขนาดกะทัดรัดเมื่อมี 10 กว่าชีวิตมานั่งรวมกัน ดูค่อนข้างแออัดไปในทันตา เมื่อเดินเข้ามาในห้อง ฉันเห็นภาพวาดวาดสีน้ำวางซ้อนทับกันเรียงรายรอบพื้นผนังห้อง และยังลามไปบนโต๊ะติดผนังรอบนอก ส่วนโต๊ะเรียนกลางห้องจัดเป็นรูปตัว U ทำให้อาจารย์สามารถเดินดูภาพ และแนะนำเป็นรายคนได้...อาจารย์คงรู้ว่ามีนักเรียนใหม่หลายคนที่อาจจะเกร็ง หรือตื่นเต้น จึงเปิดเพลงบรรเลงเบาๆ ในท่ามกลางอากาศเย็นสบาย ให้พวกเราผ่อนคลาย ทักทายกันเล็กน้อย ก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องสี เรื่องพู่กัน เทคนิคต่างๆ ของการระบายสีน้ำ คล้ายเป็นภาคทฤษฎีสั้นๆ ก่อนเริ่มภาคปฏิบัติกัน

    เราเริ่มต้นกันด้วยการทำความเข้าใจถึงคุณสมบัติของสีน้ำที่เป็นของไหล ด้วยการทดลองการไหล และการซึมของสีบนแผ่นกระดาษที่ระบายน้ำไว้เป็นพื้นหลัง... การสร้างความคุ้นเคยในการใช้พู่กัน การขยับข้อมือ การลงน้ำหนัก และคุณลักษณะของสี ทำให้แต่ละคนได้ภาพแบบฝึกหัดแรกที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปริมาณสี ปริมาณน้ำ ความเปียก ความหมาด ความแห้ง  กระทั่งการจัดวางความลาดเอียงของกระดาษ มันเป็นอิสรภาพของผู้ระบายสีที่จะเลือกอย่างที่อยากทดลอง แล้วเฝ้าดูผลลัพธ์ของมัน...

    จุดเริ่มต้นของการเรียนรู้ 

    ฉันเพิ่งได้รับรู้ในวันนั้นเองว่าการระบายสีน้ำจะระบายจากสีอ่อนมาสีเข้ม ดังนั้น เมื่อเลือกภาพได้ จึงต้องคิดวางแผนว่าจะลงสีอะไรก่อนหลัง อาจารย์ทำให้ดูเป็นตัวอย่าง หลังจากนั้น เป็นทีของพวกเราต้องทำบ้าง รูปแบบการเรียนเป็นแบบนี้ทุกครั้ง ทำให้ฉันเห็นเทคนิคต่างๆจากการเฝ้ามอง แล้วลองทำด้วยตัวเอง การสร้างชิ้นงานแต่ละครั้งให้บทเรียนใหม่ๆเสมอ ทำให้ฉันค่อยๆก้าวเข้าไปในโลกอีกใบอย่างช้าๆ “โลกของสีน้ำ”...

    ทันทีที่เรียนจบคลาส ฉันเริ่มวาดภาพระบายสีน้ำด้วยตัวเอง เมื่อมี 2 สิ่งมาบรรจบกัน นั่นคือเวลากับแรงบันดาลใจ...ทุกครั้งที่เริ่ม เหมือนฉันได้เข้าไปอยู่ในโลกอีกใบ โลกที่มีความหอมหวานของอิสรภาพ โลกที่ทำให้เข้าใจตัวเองได้ลึกซึ้งขึ้น โลกที่ทำให้ฉันรับรู้ถึงอารมณ์ ความรู้สึก และความคิดของตัวเอง ตั้งแต่การเลือกภาพ การวางแผน ร่างภาพ เลือกสี ทดลองผสมสี ระบายสี แก้ไขจุดบกพร่อง จนถึงความภูมิใจเมื่อได้นั่งจิบชา ชื่นชมภาพที่เสร็จสมบูรณ์พร้อมจะนำไปมอบให้ใครสักคนที่ฉันอยากให้และเขาอยากได้... แม้หัวใจยังเป็นดวงเดิมแต่เติมเต็มไปด้วยความเบิกบาน...

    วันนี้ ถ้ามีคนถามว่าทำงานอดิเรกอะไร ฉันไม่ลังเลเลยที่จะตอบว่า “ระบายสีน้ำค่ะ” แล้วคุณหละ ลองหาโลกใบใหม่ของคุณบ้างหรือยัง?    


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in