เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
นิยายจีนmenalin
ชะตารักพันภพ (奈何)
  • ที่จริงแล้วการได้รับความรักลึกซึ้งจากใครคนหนึ่งถือเป็นเรื่องน่ายินดีนัก แต่ข้ากลับรู้สึกว่า หากได้เป็นหญิงในดวงใจของฮวาจื่อเซียว คงจะเจ็บปวดอยู่ไม่น้อย
    ส่วนสาเหตุที่แน่ชัดนั้น ข้ามิทราบเช่นกัน
    (บทที่ 4 ผีห่มหนังคน, หน้า 90)

    "ชะตารักพันภพ (奈何)"

    ผู้เขียน: จวินจื่ออี่เจ๋อ (君子以泽)
    ผู้แปล: อาจือ
    สนพ. อรุณ
    พิมพ์ครั้งแรก, กุมภาพันธ์ 2561

    ยังจดจำแหนบัวขาว
    โฉมน้องงามราวบุปผา
    มาพบพักตร์สบสายตา
    ไยน้องยากลับลืมเลือน

             งฟางเม่ย คุณหนูตกยากชะตาอาภัพ ตอนมีชีวิตนางแต่งให้บุรุษ 3 คน สามีคนแรกสิ้นชีวิตในสงคราม สามีคนถัดมากลับสิ้นใจคาเรือนหอด้วยสุขภาพอ่อนแอ เป็นเหตุให้นางได้ชื่อว่าเป็นสตรีกินผัว ส่วนคนที่ 3 ก็มาตายขณะหลบหนีไปด้วยกันพร้อมกับตัวนางเอง ครั้นพอถึงยามตายกลายเป็นผีนางกลับได้แต่งกับผีสามตนพร้อมกันในคราวเดียว ในปรโลกสตรีมีสามีคราวละหลายคนนับเป็นเรื่องปกติ สามีหลวงของนางคือปีศาจจิ้งจอกรูปงามนามหยางจี คนที่สองเป็นถึงยมฑูตขาว ใต้เท้าไป๋อู๋ฉาง นามเซี่ยปี้อัน ส่วนคนที่สามคือทังเส้าชิน เคยเป็นสามีของนางยามมีชีวิต และเขายังลากนางลงมาเป็นภรรยาเขาอีกในปรโลก สามคนนี้ล้วนมีตำแหน่งไม่ธรรมดา นับว่านางได้กำไรไม่น้อย แต่คนที่นางรักและมีใจให้ตลอดมาคนนั้นกลับไม่ใช่หนึ่งในพวกเขา

              เมื่อได้พบกับสามีคนแรกอีกครั้ง เขาเป็นถึงภูตฮ่องเต้หยางหวังแห่งทิศอุดรในปรโลก กับคนผู้นี้นางมีใจรักจริงให้เขา ทุ่มเทให้เขา แต่เขากลับไม่เคยรักนางเลย ในใจเขามีเงาของสตรีอีกคนครอบครองอยู่ เขากับสตรีผู้นั้นของเขาคือส่วนสำคัญที่ทำให้นางผันตัวเองไปเป็นนางโลมเมื่อครั้งยังมีชีวิต พบกันอีกครั้งในชีวิตหลังความตาย ความเจ็บปวดเสียใจของตงฟางเม่ยยังคงอยู่ แต่นางก็นับว่าปล่อยวางได้มากแล้ว หากแต่เขาก็ยังไม่พ้นที่จะทำร้ายนางครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่เพียงเท่านี้ นางยังมีเหตุให้ต้องไปพัวพันกับอดีตเซียนระดับสูงผู้ต้องสาป ฮวาจื่อเซียว เข้าให้อีก พบกันครั้งแรกคิดว่าเขาเป็นคน เมื่อพบกันอีกครั้งจึงได้รู้ฐานะที่แท้จริง เดิมทีไม่ควรได้ใกล้กัน แต่สุดท้ายกลับไม่พ้นต้องพัวพันอย่างยากจะไถ่ถอน...

              ก่อนหน้านี้เคยอ่านผลงานของ จวินจื่ออี่เจ๋อ มาแล้วจากเรื่อง เมืองจันทราดอกไม้ร่วง มหาสมุทรดอกไม้บาน (月都花落, 沧海花开) บอกตามตรงว่าไม่ประทับใจกับเรื่องนั้นเท่าไร พล็อตดีเลยนะ เราชอบมาก แต่การเดินเรื่องกลับไม่สนุกเท่าที่ควร (ไม่แน่ใจว่าสำนวนแปลนี่มีส่วนด้วยไหมที่ทำให้อ่านแล้วไม่สุดนัก) ต่อมาพอเห็นมีงานเขียนของนักเขียนท่านนี้ออกมาอีกคือ ไฟผลาญจันทร์ (月上重火) ก็ลังเลไม่กล้าซื้อ แต่มาถูกชะตาปก + พล็อตของ ชะตารักพันภพ (奈何) เรื่องนี้เข้า เลยลองเสี่ยงดูอีกครั้ง

              ชะตารักพันภพ (奈何) เป็นภาคแยกจากเรื่องเมืองจันทราดอกไม้ร่วง มหาสมุทรดอกไม้บาน (月都花落, 沧海花开) มีตัวละครบางตัวที่ถูกกล่าวถึงในเรื่องนั้นมาเป็นตัวเอกในเรืี่องนี้ แต่เนื้อหาไม่ได้ดำเนินต่อเนื่องเป็นภาคต่อ ดังนั้น ไม่จำเป็นต้องอ่านคู่กันก็รู้เรื่อง ทั้งสองเรื่องผู้เขียนใช้กลวิธีเล่าเรื่องโดยใช้สรรพนามบุรุษที่ 1 ให้นางเอกเป็นคนถ่ายทอดเรื่องราว ดังนั้น คนอ่านจะได้เห็นภาพและความรู้สึกแค่ด้านเดียวผ่านสายตาของนางเอก การเล่าเรื่องแบบนี้แน่นอนว่าสุ่มเสี่ยงกับการที่เรื่องจะออกมาเนือย ๆ เหมือนอ่านบันทึก (และบทบรรยายในเมืองจันทราฯ นี่อย่างเยอะ ออกจะอึน ๆ)

              มาพูดถึงบรรยากาศของเรื่อง งานของ จวินจื่ออี่เจ๋อ มีจุดเด่นตรงความคลุมเครือ และอารมณ์ดราม่ากดหนัก ในเมืองจันทราฯ เราจะได้เห็นภาพของภพเซียน ซึ่งฉากของเรื่องจะสดใส สว่าง และสวยงาม แต่ถูกกดทับด้วยอารมณ์ดราม่าของตัวละคร มาที่ ชะตารักพันภพ ฉากหลักของเรื่องคือปรโลก โลกแห่งภูติผีวิญญาณ มีแต่ความมืดหม่น เมฆหมอกสลัว ความเศร้าและความทุกข์ของบรรดาผีที่ติดอยู่กับความยึดติดบางอย่างในใจตน ปนกับความหลอน น่ากลัวนิด ๆ แบบผี ๆ ยิ่งเสริมให้อารมณ์ดราม่ายิ่งเข้มข้น อึน ๆ หน่วง ๆ และแน่นอนว่าขึ้นชื่อว่าจวินจื่ออี่เจ๋อ ย่อมไม่ใช่ทางของสายสุขนิยม

              นอกจากเฝยหว่อซือฉุน และถงหัวแล้ว หลังจากอ่านงานของจวินจื่ออี่เจ๋อมาสองเรื่อง ก็ขอนับรวมนักเขียนท่านนี้เข้าไปในแก๊งนักฆ่า(คนอ่าน) อีกคนแล้วกัน แม้เมืองจันทราฯ จะไม่ประทับใจเราเท่าไร ถึงจะไม่ค่อยสนุกแต่เชื่อว่าถ้าใครได้อ่านต้องปวดตับเหมือนกันแน่ ๆ แต่กับ ชะตารักพันภพ เล่มนี้ บอกเลยว่าโดนใจมาก ชอบมาก อ่านสนุกผิดคาด ดีกว่าเมืองจันทราฯ ทะลวงตับ กระชากใจ บีบหัวใจให้หน่วงหนักมาก อ่านแล้วร้องไห้น้ำตาไหลพราก ๆ เลย สงสารพระเอก ดูแล้วจวินจื่ออี่เจ๋อนี่มาสายพระเอกรักรันทด

              ความร้ายกาจของนักเขียนท่านนี้อยู่ที่ ความไม่ชัดเจน และลวงคนอ่านด้วยเทคนิกการเล่าเรื่องผ่านสรรพนามบุรุษที่ 1 เนี่ยแหละ คำใบ้และคำเฉลยต่าง ๆ จะถูกแทรกอยู่ในเนื้อหาแต่ละตอน แต่ละหน้า ถ้าไม่ตั้งใจ หรือเผลอไผลไปเพียงชั่วขณะ คุณอาจจะพลาดจุดนั้นไปอย่างน่าเสียดายและค้างคาใจ พอถึงจุดที่เรื่องเริ่มขมวดปม หรือคลายปมบางอย่าง คำตอบก็เหมือนจะประกาศแจ้งออกมาชัดเจนตัวใหญ่เป้งเท่าป้ายโฆษณา แต่เรากลับต้องอึดอัดและอดทนต่อไปเพราะตัวนางเอกยังไม่เห็นคำตอบนัั้น หรือยังไม่ยอมรับความจริงเหมือนอย่างที่เราพอจะเดาได้ลาง ๆ แล้วนั่นแหละ และเมื่อถึงที่สุดแล้ว จะมีปมบางปมที่ดู ๆ แล้วมีคำตอบได้สองแบบ แต่ถ้าถามว่าจริง ๆ แล้วมีคำตอบได้กี่ทาง ก็น่าจะมีแค่ทางเดียว แค่คุณต้องหาคำใบ้ที่แฝงอยู่ให้เจอแล้วฟันธงเอง เพราะจวินจื่ออี่เจ๋อไม่เฉลยให้แบบโจ่งแจ้งค่ะ! ความรักความอ่อนโยนของแต่ละตัวละครจะค่อย ๆ ซึมเข้าสู่ใจและสมองเราช้า ๆ ถึงเวลาก็ลงมีดเชือดกันนิ่ม ๆ เป็นเหตุให้เสียงกรีดร้องดังไปถึงสวรรค์ ?

    หากความรักงดงามดั่งหมอกบุปผา ไยต้องกลัวเสียช่วงเวลาอันงดงามนั้นไป
    ใครว่าหิมะช่างโหดร้าย แท้จริงรักฝังใจจนต้องเวียนกลับมาปีละครา
    น่าจนใจที่ห้วงรักไหลไปกับสายน้ำ สายน้ำพัดพาห้วงสุขไปอย่างไร้ปราณี
    (บทต่อกลอน ตงฟางเม่ย - ฮวาจื่อเซียว, หน้า 231)

              เชื่อว่าคนที่อ่านเรื่องนี้จบแล้ว จะเทใจให้ฮวาจื่อเซียวกันไม่น้อย เขาผู้รักมั่นในภรรยาเพียงผู้เดียว รอคอยนางมานานปานนั้น แต่นางกลับไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย มันจะเจ็บปวดขนาดไหนที่ทำได้แค่มองเพียงแผ่นหลังของนางยามเดินจากไปภพแล้วภพเล่า พบหน้าก็ไม่อาจเอื้อนเอ่ย ถูกความรัก ความคิดถึง ความเดียวดาย และความทุกข์ทนจากคำสาปกัดกร่อนจิตใจและวิญญาณ จะอยู่ก็ไม่ได้ จะตายก็ยิ่งไม่ได้ เพื่อนางแล้วเขาเสียสละมากมายเหลือเกิน แม้จะสงสารตงฟางเม่ย แต่ก็เข้าใจถึงความรักลึกซึ้งของฮวาจื่อเซียวเช่นเดียวกัน ความรักของเซี่ยปี้อันเองก็ซาบซึ้งสะเทือนใจไม่น้อย จะมีอะไรน่าเศร้าใจไปกว่าความรักที่หลุดลอยไม่อาจรักษาไว้

              อ่านจบแล้วนอยด์ไป 3 วัน นี่พอมาเขียนบล็อกก็เริ่มจะกลับมานอยด์อีกรอบแล้ว ใครไม่ชอบโศกนาฏกรรมก็บอกเลยว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ทาง แต่ถ้าคนไหนชอบดราม่า รักซึมลึก เฉลยปมทีก็ได้แต่โอ้โฮฮฮฮฮฮฮ #คนรักกันเขาไม่ทำกันแบบนี้ ได้จินตนาการบวกเดาทางกันเองนิด ๆ หน่อย ๆ จบแล้วรู้สึกอยู่มิสู้ตายก็จัดค่ะ แนะนำเรื่องนี้ให้ไปพิจารณากันอีกเรื่อง

    ความอ่อนโยนอันล้นเหลือของเขานั้น
    แสดงถึงความทุกข์ระทมเสียยิ่งกว่าการหลั่งน้ำตา
    - ตงฟางเม่ย
    (หน้า 184)

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in