ปัจจุบันเรายังคงได้เห็นหรือได้ยินปัญหาต่างๆของกลุ่มชาติพันธุ์ หลายๆคนคงเคยได้ยินผ่านข่าวมาบ้าง แต่ยังคงมีคนสงสัยว่าปัญหานี้มันเกิดจากอะไร วันนี้เราจึงอยากรวบรวมสิ่งที่กลุ่มชาติพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยต้องพบเจอ พร้อมกับบทสัมภาษณ์ของคุณเกด นักศึกษาชาวกะเหรี่ยง เพื่อให้ทุกคนได้มีความเข้าใจถึงสิ่งที่เคยได้ยินมาอย่างแท้จริง
ไร้สัญชาติ ถูกตัดขาดจากสิทธิ์
สำหรับปัญหาแรกที่กลุ่มชาติพันธุ์ยังคงพบเจออยู่คือการไม่ได้รับสัญชาติ ไม่ได้รับสิทธิสถานะบุคคล หมายความว่า หากเราไม่มีสิทธิในสถานะบุคคล เราก็จะไม่มีแม้กระทั่งสิทธิขั้นพื้นฐาน และสิทธิพลเมือง เมื่อเจ็บป่วยบางคนอาจจะไม่ได้รักษาเนื่องจากไม่มีสวัสดิ์การจากรัฐ แม้ว่าจะเริ่มมีการแก้ไขปัญหาด้วยการกำหนดให้คนไร้สถานะสามารถเข้าถึงสิทธิ์ดังกล่าวได้แล้วแต่ก็ยังมีมากกว่าครึ่งหนึ่งที่ไม่ได้รับการเข้าถึงการรักษาพยาบาล นอกจากจะไม่ได้การรักษาพยาบาลแล้ว บางคนไม่มีโอกาสในการศึกษาในระดับสูงเนื่องจากไม่สามารถกู้ยืม กยศ. ได้ เป็นเจ้าของที่ดินก็ไม่ได้หรือมีบ้านเป็นของตัวเองไม่ได้ จะจดทะเบียนสมรสเมื่อแต่งงานยังไม่ได้เลยเมื่อไม่มีสัญชาติ ไม่มีสิทธิ ไม่มีความรู้ พอออกไปรับจ้างที่ต่างจังหวัดก็ถูกนายทุนหรือนายจ้างเอารัดเอาเปรียบได้ง่ายเพราะการออกไปต่างจังหวัดต้องทำเรื่องขอหนังสือเดินทาง ในกรณีนี้เราจะเห็นได้จากเด็กกลุ่มชาติพันธุ์หลายๆคนที่มีความสามารถจนสามารถเดินทางไปแข่งขันในเวทีระดับโลกได้แต่ไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้อย่างเสรีเนื่องจากต้องทำหนังสือขออนุญาตที่ใช้เวลานาน นอกจากนี้ยังไม่มีสิทธิทางการเมือง อย่างเช่นการเลือกตั้งเพราะในกฎหมายได้ระบุไว้ว่าผู้ที่มีสิทธิเลือกตั้งจะต้องได้รับสัญชาติไทยมากว่า 5 ปี ลองคิดดูว่าหากเราเกิดมาในครอบครัวที่อยู่อาศัยในประเทศไทยมานาน แต่กลับไม่ได้รับสิทธิดั่งการเป็นคนคนหนึ่งอย่างที่ควรจะเป็น มันคงน่าอึดอัดน่าดู
ในปัจจุบันประเทศไทยมีคนไร้สัญชาติกว่า 480,000 คน ซึ่งในความเป็นจริงตัวเลขอาจจะมากกว่านี้ด้วยซ้ำ และยังคงมีอีกหลายคนที่ประสบกับปัญหาการไม่สามารถเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานได้
ชัยภูมิป่าแสนักกิจกรรมชาวลาหู่ ผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียน
ชัยภูมิ ป่าแสเป็นนักกิจกรรมชาวลาหู่ เขาก็เป็นอีกหนึ่งในผู้ไร้สัญชาติ เป็นนักกิจกรรมในวัย 17 ปีที่ฝากผลงานไว้มากมายผลงานที่สำคัญของเขาก็คือบทเพลงเพื่อคนไร้สัญชาติ “จงภูมิใจ” เขาถูกทหารยิงเสียชีวิตโดยอ้างว่าเป็นการวิสามัญเนื่องจากชัยภูมิขัดขืนในระหว่างตรวจค้น หลังจากพบระเบิดและยาเสพติด แต่การตายของเขายังคงเป็นข้อกังขาเนื่องจากการให้ปากคำของพยานแวดล้อมที่ไม่ตรงกัน ประกอบกับพยานหลักฐานอย่างกล้องวงจรปิดจากกองทัพบกกลับถูกบันทึกทับ ทำให้ไม่มีภาพบันทึกจากกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุ ไม่พบDNA ของชัยภูมิบนอาวุธที่ใช้ขัดขืน รวมทั้งปากคำจากพยานที่เห็นว่าชัยภูมิถูกซ้อมก่อนเสียชีวิต
สุดท้ายแล้วการเสียชีวิตของเขาก็ยังคงเป็นปริศนาและถูกตั้งคำถามว่าเป็นการเสียชีวิตอย่างไม่เป็นธรรมหรือไม่? เราไม่ได้ต้องการจะบอกว่าเขาถูกหรือผิด แต่เราอยากให้ทุกคนลองตั้งคำถามว่าการทำผิดแล้ว ถูกลงโทษด้วยความรุนแรงแทนการใช้กฎหมายในการลงโทษมันถูกต้องแล้วหรือ?
แล้วปัญหาพวกนี้เกิดจากอะไร?
ฐานข้อมูลงานวิจัยทางชาติพันธุ์ในประเทศไทยศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร รายงานถึงปัจจัยที่ทำให้ชาวอาข่า หมู่บ้านพญาไพรเล่ามา จังหวัดเชียงราย ไม่ได้รับสัญชาติได้แก่ 1.การทำงานช้าของเจ้าหน้าที่อำเภอที่มีความล่าช้า เกิดจากการไม่ให้ความสนใจต่อคำร้องขอของชาวบ้านขาดความรู้เกี่ยวกับกฎหมายสถานะบุคคล 2.ตัวบุคคลไร้สัญชาติไม่แสดงตนยื่นคำร้องสถานะบุคคลเกิดจากความไม่รู้เกี่ยวกับกฎหมาย ไม่ติดตามความคืบหน้าหลังจากยื่นคำร้องขอตกหล่นจากทะเบียน และแจ้งไม่ตรงกับความจริงเกี่ยวกับสถานะบุคคล 3.ความย้อนแย้งของ พรบ. สัญชาติที่กำหนดว่าบิดามารดาบุคคลต่างด้าวย่อมไม่ได้สัญชาติไทย
เราคิดว่าจุดเริ่มต้นก็คือรากฐานทางความคิดของการไม่ยอมรับว่าประเทศไทยเป็นพหุสังคม มีพหุวัฒนธรรม ซึ่งมันฝั่งลึก คิดดูว่าในสมัยนี้ยังมีคนนั่งเถียงกันว่าใครเป็นไทยแท้ กับไทยไม่แท้ กันอยู่เลย นอกจากนี้ยังมีปัญหาการแพร่กระจายของลัทธิคอมมิวนิสต์ ในยุคสงครามเย็น มีผู้อพยพหนีสงครามจากหลายๆประเทศ ซึ่งในสมัยนั้นคนที่มาจากประเทศที่ใช้ระบบคอมมิวนิสต์ถือว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง มันทำให้รัฐไปขีดเส้นแบ่ง แยกกลุ่มคนไทยกับคนต่างด้าวชัดเจน ซึ่งต่างด้าวในที่นี้ก็รวมไปถึงชาวเขาคนที่อาศัยอยู่บริเวณชายแดนด้วย ทำให้เด็กๆที่เกิดมาจากพ่อแม่ซึ่งเป็นคนต่างด้าวก็ไม่ได้รับสัญชาติไทยนั้นเอง การขอสัญชาติในปัจจุบันมันเลยยากและต้องกินเวลานานขึ้น และเนื่องจากต้องตรวจสอบหลายขั้นตอน ต้องให้คนมายืนยัน ตรวจดีเอ็นเอ หากเจ้าหน้าที่รัฐให้สัญชาติกับคนที่ไม่ใช่คนไทยเท่ากับว่าเจ้าหน้าที่รัฐจะต้องติดคุกบวกกับมีช่องโหว่ในการหาผลประโยชน์จากการขอสัญชาติของผู้ไม่หวังดี นั้นเลยทำให้เจ้าหน้าที่ต้องให้ความระมัดระวังในการทำเรื่องให้สัญชาติอย่างมาก
ขาดที่ทำกินถูกทำร้ายด้วยนโยบายทวงคืนผืนป่า
แต่เดิมปัญหาขาดพื้นที่ทำกินของหลายๆชนเผ่าเริ่มต้นจากพวกเขามีวิถีชีวิตอยู่ร่วมกับธรรมชาติ บางชนเผ่าเชื่อว่าจะต้องปลูกบ้านอยู่บนที่สูงเท่านั้น พวกเขาใช้ชีวิตอยู่กับร่วมธรรมชาติมาอย่างยาวนานการไม่ได้รับความยอมรับให้ในสถานะบุคคล ทำให้พวกเขาไม่ได้รับสิทธิเหนือที่ดิน ถึงแม้ว่าจะมีการมอบโฉนดที่ดินให้แก่ชาวบ้านบ้างแล้ว แต่เมื่อเริ่มมีการจัดสรรทรัพยากรจากปัญหาสิ่งแวดล้อมมากขึ้นพื้นที่ที่พวกเขาเคยอาศัย ถูกจัดระเบียบ ถูกไล่ออกจากถิ่นอาศัย ชนเผ่าบางเผ่ามีกรณีพิพาทกับรัฐ มาอย่างยาวนาน ถูกจับ ถูกตรวจค้น เผาทำลายหมู่บ้าน ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีจากนโยบายทวงคืนผืนป่าจากนายทุน ที่ไม่สามารถทำอะไรนายทุนตัวจริง หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการบงการขบวนการตัดไม้ทำลายป่า หรือโรงงานแปรรูปไม้ได้เลย สุดท้ายแล้วกลับเป็นชาวบ้าน หรือกลุ่มชาติพันธุ์ที่ถูกทำร้ายจากนโยบายนี้มากที่สุด
ในส่วนของปัญหานี้คุณเกด ได้ให้ข้อมูลกับเราว่า
"เรื่องที่ดินด้วยค่ะ คือเราทำมาหากินที่นี่นานแล้วแต่เมื่อก่อนไม่มีโฉนด ก็โดนว่ามาตลอดว่าบุกรุกป่า ผิดกฏหมาย เข้าใจนะคะว่ามันผิดจริงๆ แต่ถ้าชาวบ้านไม่ทำก็ไม่มีอะไรจะกิน"
จากกรณีของบิลลี่ พอละจี….
นอกจากนี้ยังจะเห็นได้จากกรณีของบิลลี่ พอละจี ซึ่งเป็นนักกิจกรรมกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงที่เรียกร้องเรื่องพื้นที่อยู่อาศัยของชาวกะเหรี่ยงปาเกอะฌอหมู่บ้านใจแผ่นดิน หลังจากถูกผลักดันให้ออกจากพื้นที่ป่าแกงกระจาน ซึ่งเป็นที่ที่พวกเขาอยู่อาศัยมาอย่างเนินนาน ด้วยการถูกเจ้าหน้าที่เผาทำลายหมู่บ้าน สุดท้ายจากเสียงเรียกร้องถูกทำให้เงียบลงด้วยการฆ่าอย่างอำมหิต และผู้ต้องสงสัยบางส่วนก็ยังคงเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ
ชนเผ่าพื้นเมืองถูกตรีตราว่าเป็นพวกทำลายป่าไม้มากที่สุด จากวาทะกรรมชาวเขาเผาป่า,ชาวเขาทำลายป่า ถูกนำมาใช้เพื่อแสดงความถูกต้องให้ภาครัฐเข้ามาจัดระเบียบที่อยู่อาศัยของพวกเขา ในขณะที่วิถีชีวิตและความเชื่อของพวกเขา เชื่อและเคารพในธรรมชาติ พวกเขามีการจัดสรรร่วมกันดูแลป่าไม้อย่างยั่งยืน ปัญหาคือรัฐกลับมองว่าคนกับป่าไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้ เราคิดว่าปัญหานี้รัฐควรแก้ไขด้วยการแก้ปัญหาอย่างเป็นกลางไม่เลือกปฏิบัติเพียงเพราะพวกเขาเป็นชนเผ่าถ้าเขามีวิถีชีวิตอยู่ร่วมกับป่าก็ควรจะให้เขาช่วยกันดูแลป่ามากขึ้นหรือไม่ ? ควรจะจัดการกับผู้บงการขบวนการตัดไม้ทำลายป่า เจ้าหน้าที่ ที่อยู่เบื้องหลังรวมไปถึงโรงงานแปรรูปไม้ที่แปรรูปไม้ผิดกฎหมาย
ที่มาภาพประกอบ : โครงการยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยเพื่อสังคมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ,https://pantip.com/topic/37626620
สูญเสียอัตลักษณ์และวัฒนธรรม
ถึงแม้ว่าจะมีการอนุรักษ์วัฒนธรรมชนเผ่าพื้นเมืิองโดยมีการจัดทำให้คนเข้ามาศึกษาภายในหมู่บ้านของชนเผ่า แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่าการเข้ามาของความเจริญ และการแนวคิดชาตินิยม ทำให้วัฒนธรรมชนเผ่าบางอย่างสูญเสียไป ยกตัวอย่างเช่นเรื่องของภาษาซึ่งบางคนไม่พูดภาษาของเผ่าตัวเองกันแล้ว อย่างในกรณีของชาวชอง ซึ่งในปัจจุบันแทบจะไม่มีใครพูดภาษาชองกันแล้ว ทำให้วัฒนธรรม อัตลักษณ์ของชาวชองเริ่มจางหายไป ภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมาก็เริ่มเลือนหายเพราะคนรุ่นใหม่เริ่มเปลี่ยนวิถีชีวิตให้เข้ากับคนเมืองมากขึ้น
ปัญหาดังกล่าวเราคิดว่า มันเป็นปัญหาที่ควรให้ความสนใจอย่างมาก ในบางชนเผ่าอาจจะมีการอนุรักษ์อยู่ แต่ในบางกลุ่มที่มีกันอยู่น้อยก็เริ่มเลือนหายไปแล้ว เราควรมาร่วมกันอนุรักษ์เสน่ห์ของวัฒนธรรมเช่นนี้ต่อไป และยอมรับในพหุวัฒนธรรมให้มากขึ้น ยอมรับว่าประเทศไทยมีความหลากหลาย จากที่เคยได้เล่าเรียนมาเราพบว่าน้อยมากที่การศึกษาไทยจะพูดถึงเรื่องราวของชนเผ่าเหล่านี้แบบจริงจัง เพื่อให้เด็กไทยได้เข้าใจความแตกต่าง เรายึดติดกับแนวคิดชาตินิยมมากไปหรือไม่?
ถูกตีตราจากสังคมภายนอก
ปัญหาทางสังคม ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่ค่อนข้างแก้ยาก เพราะต้องเป็นการไปแก้มุมมอง ความคิด ของคนทั่วไป ที่มีภาพจำต่อชนเผ่าที่ไม่ดี อย่างเช่นการนำเสนอว่าให้โจรต้องเป็นกะเหรี่ยง หรือการนำเสนอภาพชาวเขาพูดไม่ชัด เป็นตัวตลกแบบในละคร การนำเสนอเรื่องชาวเขาเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทำลายป่า ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากต่อกลุ่มชาติพันธุ์ เราขอตั้งคำถามว่า หากพวกเขาเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือกระบวนการทำลายป่า นั่นแปลว่าพวกเขาเป็นพวกเดียวที่กระทำเลยหรือ? เราอยากให้หลายๆคนมองว่าคนดีและคนเลวมีอยู่ในทุกสังคม เพราะฉะนั้นมันไม่เกี่ยวที่ต้องเป็นชาวเขาถึงจะเกี่ยวข้องกับยาเสพติดเท่านั้น หลายๆคนในสังคมก็ล้วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดได้ทั้งนั้นถ้าหากเขาฝักใฝ่สิ่งเหล่านั้น
หรือจริงๆแล้ววาทะกรรมดังกล่าว นอกจากจะถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสร้างชาติแล้ว ยังถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเช็ดล้างความผิดจากผู้บงการตัวจริงหรือเปล่า? การสร้างภาพจำเหล่านี้ ทำให้หลายๆคนรู้สึกด้อยเมื่อต้องแสดงตนว่าตัวเองมาจากชนเผ่า
คุณเกด ชาวกะเหรี่ยงได้ให้สัมภาษกับเราถึงกรณีดังกล่าวไว้ว่า
สำหรับปัญหาทางสังคม เคยได้พบเจอมาบ้างไหม ทั้งกับตนเองหรือกับใกล้ชิด อย่างเช่นการเหยีดเชื้อชาติ?
" โดนเหยียดบ่อยมากค่ะ โดนว่าเป็นต่างด้าวบ่อยมากค่ะ เพราะบางครั้งเราเผลอพูดภาษาถิ่นที่เขาฟังไม่ออก เขาก็จะมองเราว่าเราว่าไม่ใช่คนไทย เอาจริงๆคือในความคิดของเกดนะคะ ละครมีส่วนนะคะเรื่องนี้เพราะเวลาถ่ายละคร ถ้ามาถ่ายเป็นคนดอย เขาจะสร้างคาเร็คเตอร์ให้ว่า คนดอยต้องพูดไม่ชัดนะ ต้องแต่งตัวสกปรกๆหน่อย คือคนมันถ้าพูดไม่ชัดมันอยู่มี่ตัวบุคคลค่ะ เพราะเกดเกิดมาเค้าพูดแต่ภาษาถิ่นกัน ภาษาไทยก็ไปเรียนเอาในโรงเรียน บางคนบอก เรามีบัตรประชาชนหรือเปล่า เข้ามาไทยทำไม ทำไมไม่กลับพม่า เขาเข้าใจว่าเราเป็นพม่า เพียงแค่เราพูดภาษาถิ่นที่เขาฟังไม่ออก เราอยู่ไทยมาตั้งแต่เกิด เป็นคนไทยมาแต่กำเนิด อยู่มาตั้งแต่บรรพบุรุษกี่รุ่นต่อกี่รุ่น แต่เราแค่เป็นชาติพันธ์ เราแค่เป็นชนเผ่ากะเหรี่ยง "
นี่เป็นเสียงหนึ่งจากชาวกะเหรี่ยงรุ่นใหม่ที่ยังคงได้รับผลกระทบจากการถูกภาพจำแบบเหมารวมในเรื่องต่างๆ และนี่เป็นอีกหลักฐานหนึ่งที่บอกว่าพวกเขาได้รับความเจ็บปวดจากการถูกตีตรา ทั้งจากสื่อและสังคม
แล้วเราควรทำยังไงหละ? ก็อย่างที่บอกว่าปัญหามันคือการที่เราต้องยอมรับความแตกต่าง ความหลากหลายให้มากขึ้น แนวคิดที่ว่าคนไทยแท้ คนไทยเทียม คนไม่ไทย ขอให้อย่าไปยึดติดเถอะ โปรดมองบุคคลอื่นๆในฐานะมนุษยชนคนหนึ่งเพียงเท่านั้นก็พอ
สุดท้ายแล้วสิ่งที่เราอยากบอกกับทุกคนก็คือ เราอยากให้ทุกคนยอมรับในความหลากหลายทางวัฒนธรรมเหล่านี้ หยุดสร้างความเจ็บปวดด้วยคำพูดหรือภาพจำที่เราเคยชิน และโปรดมองโลกด้วยมุมมองที่หลากหลาย เพียงแค่หยุดสร้างความเจ็บปวดให้พวกเขาด้วยการยอมรับในความแตกต่าง ท้ายนี้เราขอแสดงความอาลัยแก่ชาวชาติพันธุ์ที่ต้องออกมาต่อสู้ เพื่อการมีอยู่หรือเรียกร้องสิทธิให้แก่กลุ่มของตนเอง จนต้องพบเจอกับความอยุติธรรม ความรุนแรง จนนำไปสู่การเสียชีวิต เราขอแสดงความอาลัยแก่ผู้ที่จากไป และขอให้กำลังใจแก่ชาติพันธุ์ทุกคนที่กำลังต่อสู้เพื่อเรียกร้องความเท่าเทียมให้แก่ความเป็นชาติพันธุ์
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in