Heaven in Hiding
Jack L. & Tom GC.
เรียวนิ้วเคาะเป็นจังหวะลงบนโต๊ะห้องสืบสวนเสียจนสารวัตรดาร์ซี่มองเขาด้วยสายตาที่บอกเป็นนัยๆ ว่าช่วยหยุดทีเพราะนายตำรวจเองก็กำลังใช้ความคิดเช่นเดียวกัน ทอมขบคิดเรื่องคดีมาตลอดทั้งวัน เขาขลุกตัวไม่ยอมไปไหนนอกเสียจากสถานีตำรวจ ดูเหมือนการเกิดคดีฆาตกรรมของเหยื่อรายที่ห้าจะทำให้ผู้คนและสื่อพุ่งความสนใจมากขึ้นกว่าเดิม ในบางสื่อถึงกับเขียนข่าวคาดเดาไปอย่างไร้หลักฐาน อ้างความน่าจะเป็น...มิหนำซ้ำยังโยงมาถึงตำนานตระกูลลาวเดน
วันก่อนทอมเห็นสื่อโทรทัศน์รายหนึ่งพยายามดักรอสัมภาษณ์แจ็ค ลาวเดนหน้าบ้านพักในลอนดอน เชื่อเขาเลยว่าชายหนุ่มทายาทตระกูลลาวเดนรู้วิธีการวางตัวต่อหน้าสื่อได้อย่างชำนาญ เขาสบตาผ่านกล้อง พูดเสียงราบเรียบว่า ‘เรื่องตำนานคำสาป...มันเป็นเรื่องไร้สาระ ส่วนเรื่องคดีปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจและเจ้าหน้าที่คนเก่งเถอะครับ’
เจ้าหน้าที่คนเก่งอย่างนั้นหรือ... มองจากดาวอังคารยังรู้เลยว่าประชดเขาอยู่!
ทอมยังไม่ละทิ้งเรื่องคลางแคลงใจที่มีต่อทายาทคฤหาสน์ลาวเดน เหตุการณ์เมื่อวันก่อนโน้นคงจะพอยืนยันได้ว่าเป็นเรื่องจริงจากบาดแผลหนามกุหลาบตามตัวเขา ไหนจะรอยคราบเลือดที่เปื้อนเสื้อยืดตัวโปรดของเขาอีก ทอมส่งเสื้อตัวดังกล่าวให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้ตรวจสอบ ผลปรากฏ มันมีดีเอ็นเอมนุษย์ แน่นอน ดีเอ็นเอไม่ใช่ของเขา มันไม่สามารถระบุตัวตนเจ้าของได้เนื่องจากไม่มีข้อมูลในสารบบอาชญากร และไม่มีดีเอ็นเอเปรียบเทียบ
ทอมหยุดความคิดไว้แต่เพียงเท่านั้น หากเขาคิดว่าสิ่งมีชีวิตที่ตนลั่นไกใส่เป็นอสูรตามตำนาน ...ตำนานเรื่องทายาทตระกูลลาวเดนจะกลายร่างเป็นอสูรรูปร่างอัปลักษณ์ นั่นหมายความว่า เลือดนี่จะต้องมีดีเอ็นเอของแจ็ค ลาวเดน
เขาคงต้องหาวิธีขอตัวอย่างดีเอ็นดีจากชายคนนั้น แต่จะด้วยวิธีไหนนี่สิที่น่าปวดหัว!
ระหว่างที่ทอมยังคงคิดถึงเรื่องอสูรจนลืมเวลา สารวัตรดาร์ซี่ที่หายออกไปคุยโทรศัพท์ด้านนอกห้องสืบสวนก็กลับเข้ามาด้วยสีหน้าคร่ำเครียดยิ่งกว่าเดิม
“เบื้องบนสั่งมาว่า หากยังไม่มีความคืบหน้าของคดี ร้ายไปกว่านั้นถ้าเกิดคดีที่หก เขาจะสั่งย้ายผม...ให้ตายเถอะ!”
“อะไรนะครับ?” ทอมถอนหายใจ เหลือบสายตามองสารวัตรตัวสูงพิงไหล่เข้ากับกรอบหน้าต่าง กอดอก ก้มหน้าอย่างคนไร้หนทาง “ถ้าคุณโดนสั่งย้าย ผมก็คงโดนไล่ออก...”
เจ้าหน้าที่หนุ่มพึมพำกับตนเอง ขึ้นชื่อว่าคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง ต่อให้เก่งมาจากไหนก็ย่อมต้องเจอกับหนทางการสืบสวนที่ยากยิ่งทุกราย หลายต่อหลายคดีที่ในปัจจุบันยังคงเป็นปริศนา แต่สำหรับทอม อย่างน้อยที่สุดมันอาจมีความจริงบางอย่างที่ถูกปิดซ่อนแต่เราอาจกำลังมองข้ามมันก็เป็นได้ หรือเขาอาจเข้าใกล้มันโดยไม่รู้ตัว
“สารวัตรดาร์ซี่ครับ วันนี้ผมขอตัวก่อน พอดีผมนึกอะไรขึ้นได้”
“กลับไปพักผ่อนเถอะเจ้าหน้าที่คาร์นีย์ ถ้ามีเรื่องอะไร คุณก็ติดต่อผมมาได้เสมอ” ทอมพยักหน้ารับคำจากสารวัตรดาร์ซี่ ขณะนี้เป็นเวลาเย็นย่ำ แสงอาทิตย์ตัดกับเส้นขอบฟ้าสีเข้ม เขาพาตนเองขึ้นรถยนต์ส่วนตัวเร็วไว จุดมุ่งหมายคือคฤหาสน์ลาวเดน
ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน...เขาก็หลีกหนีเรื่องคำสาปตระกูลลาวเดนไม่ได้ ชายหนุ่มเดินทางกลับมาที่สก็อตแลนด์ในทันทีหลังจัดการกับงานที่คั่งค้างจนเรียบร้อย ความจริงแล้วเขาไม่สบอารมณ์ทีเดียวหลังสื่อโทรทัศน์เจ้าหนึ่งนำคลิปสัมภาษณ์ไปออกอากาศทั้งที่เขาไม่อนุญาต หากเขาจะฟ้องร้องยังทำได้แต่เพราะไม่อยากตกเป็นเป้าสายตาจนอาจถูกจับผิด การอยู่เงียบๆ แสร้งทำเป็นไม่ใส่ใจคงจะเหมาะกว่าในสถานการณ์เช่นนี้
ร่างสูงเอนกายนอนบนโซฟาตัวยาวในห้องรับแขก สายตาทอดมองแสงอาทิตย์อัสดงผ่านหน้าต่างบานใหญ่ เหตุผลที่เขาต้องกลับมาที่นี่บ่อยๆ คงเพราะความเป็นทายาทตระกูลลาวเดน... ทั้งที่เขามีอิสระแต่กลับถูกบางสิ่งเรียกร้องและนำทางให้กลับมาถูกจองจำดั่งนักโทษ ในความเงียบสงบของคฤหาสน์บางคราเขาพบว่ามันมีเสียงแว่วสาปแช่ง เสียงหัวเราะเยาะเย้ยหยัน และเสียงร้องไห้ทรมาน แจ็คยอมรับว่ามันค่อยๆ กัดกินพลังงานชีวิตของเขาลงทีละน้อย แต่เมื่อเจ้าของเรือนผมสีทองผู้เข้ามาวนเวียนในฝันปรากฏตัวขึ้น ลาวเดนหนุ่มจึงมองเห็นแสงสว่างท่ามกลางความมืดมิดขึ้นมาบ้าง
ฝันนั้นร้อนแรง เต็มไปด้วยความปรารถนา แต่อีกฝันหนึ่งกลับฉายให้เห็นใบหน้าใสซื่อ ดวงตาสีฟ้าสด เรียวปากที่พร่ำบอกสัญญา เด็กหนุ่มผู้จงรักภักดีแม้เขาอีกคนจะ...ชั่วช้าสักแค่ไหน
‘หนีไป...’
‘ไม่ท่านลอร์ดลาวเดน ผมจะไม่ไปไหน ไม่ว่าท่านจะเป็นอะไร เป็นใคร หรือเป็นอสูรร้ายก็ตาม’
“มิสเตอร์ลาวเดนคะ เจ้าหน้าที่คาร์นีย์มาขอพบค่ะ” เสียงของหญิงชราดึงเข้าออกจากภวังค์ ชายหนุ่มเผยยิ้มพึงใจ เขาคิดว่านี่มันไม่เกินความคาดหมายนัก หากเจ้าหน้าที่หนุ่มจะอุตส่าห์เดินทางมาพบเขาอีกหนในวันนี้
“ให้เขาเข้ามา” แจ็คเอ่ยอนุญาต แต่เขายังเขานอนเหยียดกายตามประสาเจ้าบ้านเช่นเดิม ได้ยินเสียงฝีก้าวของทอม กลินน์ คาร์นีย์หยุดลงในระยะที่ห่างออกไปประมาณสามก้าว เขาเฝ้ารอว่าอีกฝ่ายจะกล่าวทักทายด้วยประโยครูปแบบไหน
“สบายดีนะครับ”
“ก็ดี แล้วคุณล่ะ? มีคดีฆาตกรรมเกิดขึ้น หรือเพราะคิดถึงผม ถึงได้มาที่นี่...” เพราะแจ็คยังคงสนใจบรรยากาศด้านนอกคฤหาสน์จึงไม่ทราบว่าสีหน้าของคนฟังเหวอค้างไปแล้ว วินาทีถัดมาทอมถอนหายใจ พลางกลอกตาให้กับคำถามทีเล่นทีจริง
“ผมแค่อยากมาขอบคุณมิสเตอร์ลาวเดนต่างหาก” ชายหนุ่มเลิกคิ้ว หยัดตัวลุกขึ้นนั่ง มองเจ้าหน้าที่ผมทองอย่างคนประเมินหาความจริง แจ็คหัวเราะนิดเมื่อพบว่าใบหน้าได้รูปกำลังมองเขากลับด้วยสายตาคล้ายคลึงกัน แน่นอนว่าสายตานั้นกดมองแขนขวาของเขา
สำรวจ... หยั่งเชิง... มุ่งมั่นจะค้นหาความลับ
“เรื่องอะไร”
“ก็เรื่องเมื่อสามวันก่อน เรื่องที่คุณให้ผมพักที่นี่ระหว่างรอพายุหยุดยังไงล่ะ จะเรื่องไหนอีก” กลับกลายเป็นทอมที่เผยยิ้มราวกับกุมความลับบางอย่างเสียเอง กระนั้นดวงตาสีฟ้ากลับแสร้งทำเป็นกลบเกลื่อนจุดประสงค์ลึกๆ ที่เจ้าตัวต้องการจะสื่อ แจ็ครู้ว่าหนุ่มผมทองตรงหน้ามีไหวพริบ และไม่ได้เป็นเพียงเจ้าหน้าที่น้อยประสบการณ์อย่างในประวัติการทำงานกล่าวไว้เบื้องต้น
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนเจ้าหน้าที่คาร์นีย์ยังไม่รู้ตัวว่าตนเองได้กระทำสิ่งที่นอกเหนือคดีโดยการเข้าหาผู้ต้องสงสัยเช่นเขาเป็นครั้งที่สาม
“แล้วคุณมีเรื่องอะไรให้ผมช่วยอีกไหม” แจ็คย้อนถาม หนุ่มผมทองยิ้มบางราวกับรอให้เขาพูดเช่นนั้นอยู่
“ออกไปดื่มกับผมที่บาร์ในตัวเมืองเพื่อเป็นการขอบคุณได้ไหมล่ะครับ”
ต้องใจกล้าขนาดไหนถึงชวนมิสเตอร์ลาวเดนออกมาดื่มที่บาร์ เขาสุดจะเหลือเชื่อ แต่ทอม กลินน์ คาร์นีย์ก็ออกปากชวนไปโดยไม่ตะขิดตะขวงใจ ณ ช่วงเวลานั้น แม้ว่าขณะนี้เขากำลังหนักใจ แผนการที่ไตร่ตรองมาเป็นอย่างดีช่างดูไม่เข้าท่าเลยสักนิด มิหนำซ้ำมันกลับทำให้ทอมดูเหมือนจำพวกเปลี่ยวใจ เที่ยวหว่านเสน่ห์อย่างไรอย่างนั้น เจ้าหน้าที่หนุ่มจำนนต่อหนทางอันน้อยนิด เพื่อนร่วมงานสักคนเคยกล่าวไว้ว่า เจ้าหน้าที่พิเศษภาคสนามจะต้องฉลาดเลือกหนทางที่ดีที่สุดเพื่อให้ได้มาซึ่งหลักฐานชั้นเยี่ยม
จงใช้ทุกกลวิธี...ไม่ว่าจะเป็นกลลวงที่หลอกล่อด้วยสายตา หรือเกมที่เล่นกับความคิดคนอื่นก็ตาม
บาร์เครื่องดื่มแน่นขนัดไปด้วยชาวเมืองที่ต้องการออกมาสังสรรค์ในเย็นวันหยุดสุดสัปดาห์ เสียงพูดคุยเคล้าดนตรีบรรเลงสด พวกเขานั่งอยู่ที่โต๊ะในมุมสุดของร้าน มันเป็นมุมที่แจ็ค ลาวเดนเป็นคนเลือกเอง ซึ่งไม่ผิดไปจากที่ทอมคิดไว้นัก เขาไม่อยากสุงสิงกับใคร สายตาของคนที่รู้จักนักธุรกิจหนุ่มในนามทายาทตระกูลลาวเดนดูสงสัยใคร่รู้ว่าเหตุใดชายหนุ่มผู้ไม่เป็นมิตรกับคนนอกตระกูลถึงได้ถ่อสังขารออกมาอยู่ท่ามกลางความวุ่นวาย คฤหาสน์หลังโตปราศจากเครื่องดื่มรสชาติดีขนาดนั้นเชียวหรือ
ความจริงแจ็ค ลาวเดนจะปฏิเสธเขาก็ยังได้ แต่ชายหนุ่มกลับตอบรับไมตรีนี้ด้วยการยอมออกมานั่งดื่มตามคำเชิญชวนแต่โดยดี ทอมรู้ว่าคนที่ได้ชื่อว่าเป็นนักธุรกิจย่อมมีแผนการซับซ้อนในสมองไม่ต่างจากเขานักหรอก เผลอๆ คงทราบดีด้วยซ้ำถึงจุดประสงค์ที่ทอมพยายามปิดซ่อนกลบเกลื่อน
สายตาของทอมจับสังเกตการเคลื่อนไหวของชายตรงหน้าเสมอ โดยเฉพาะแขนขวา...ทอมไม่แน่ใจนักว่ากระสุนที่ลั่นไกไปนั้นเป็นไปในลักษณะฝังเนื้อหรือถากผิวหนัง แต่แจ็ค ลาวเดนกลับปกติดี เขาขยับเขยื้อนแขนได้อย่างเป็นธรรมชาติดั่งคนไม่ได้รับอาการบาดเจ็บ ชายหนุ่มหันไปสั่งเครื่องดื่มกับบริกร น่ารำคาญใจที่ทอมคิดว่าทายาทตระกูลลาวเดนนั่นดูรักษามาดตลอดเวลา การพูดจาหรือสีหน้าจริงจัง กระนั้นคนคนนี้กลับดูดีจนเกือบเรียกได้ว่า สมบูรณ์แบบ
เพราะมัวแต่จ้องจนตาไม่กะพริบ เสียงทุ้มจึงกระแอมท้วง นั่นจึงทำให้ทอมรู้สึกตัว เบือนหน้าหนีนัยน์ตาสีฟ้าที่จ้องตรงกลับมาอย่างรู้ทัน
“หน้าผมมีอะไรติดหรือ คุณถึงได้จ้องตาไม่กะพริบ”
“เปล่าหรอกครับ” ทอมอ้อมแอ้มตอบ เรียวมือยกขึ้นเกาท้ายทอยแก้เก้อ
“แต่คุณน่ะ มีรอยแผลตรงแก้ม รู้ตัวหรือเปล่า ไปทำอะไรมาล่ะ” ยังมีหน้ามาถาม... เขานึก มันคือรอยแผลจากการเดินฝ่าเข้าไปในดงกุหลาบ ทอมเผยยิ้มไม่ยี่หระ ความจริงแล้วแผลที่แก้มนั่นแค่ส่วนหนึ่ง ตามแขนและเท้าของเขายังคงมีร่องรอยจากเหตุการณ์ประหลาดชัดเจน นี่จึงทำให้ทอมปักใจเชื่อว่าทุกอย่างไม่ใช่ความฝัน อสูรตัวโตที่เขาได้พบมีตัวตนจริง และบางที...มันอาจคือคนตรงหน้า
“ฟัดกับหมีมาครับ”
“พูดเป็นเล่นไป” ชายหนุ่มกลั้วหัวเราะ “ถ้าคุณฟัดกับหมีจริงๆ คุณคงไม่ได้มานั่งดื่มกับผมตอนนี้หรอก จริงไหม” ประโยคยอกย้อนจากปากแจ็ค ลาวเดนทำเอาคนฟังหัวใจหล่นวูบ แต่วินาทีถัดมาเขากลับรู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งในห้วงความคิดของทอมเต็มไปด้วยเรื่องคดีฆาตกรรมแล้ว เขายิ่งขุ่นเคืองใจ
“นั่นน่ะสิครับ ผมจะไปสู้อะไรมันได้ คงทำได้แค่ยิงปืนเปะๆ ปะๆ กระสุนจะโดนไหมก็ไม่รู้ ผมยิงปืนไม่แม่นเท่าไหร่เสียด้วย” และแล้วเสียงดนตรีบรรเลงสดก็เข้ามาแทรกกลางระหว่างบทสนทนา ต่างคนต่างเงียบจนดูเหมือนมันเป็นสถานการณ์ปกติสำหรับพวกเขา บริกรนำเสิร์ฟเบียร์สดสองแก้ววางบนโต๊ะ ไม่รอให้ใครเอ่ยอนุญาต ทอมก็คว้าแก้วเบียร์ยกขึ้นดื่มลิ้มรสชาติในขณะที่อีกฝ่ายเพียงแค่รวบแก้วไว้ในมือเท่านั้น ไม่แม้แต่จะลิ้มลอง สายตาชวนให้หน้าร้อนผ่าวไม่ละไปไหน ซ้ำยังยกมุมปากขึ้นนิดครั้นรู้ว่าเขาออกอาการสำลัก
“ไม่เห็นต้องรีบ ร้านยังไม่ปิดตอนนี้หรอกคุณ” ราวกับถูกผู้ใหญ่เอ็ดชอบกล ทอมวางแก้วลงพลางตวัดดวงตาคล้ายลูกแมวจ้องกลับชนิดไม่ยอมเสียหน้าซ้ำสอง
“งั้นคุณก็อยู่กับผมทั้งคืนสิ” เขาลองหยั่งเชิง ตำนานคำสาปว่าไว้... ชายหนุ่มจะกลายร่างเป็นอสูรหลังเที่ยงคืน หากเป็นจริงดั่งคำบอกเล่า แจ็ค ลาวเดนย่อมปฏิเสธเขาแน่
“ผมจะไม่ถือสา ถ้าคุณพูดออกมาเพราะแค่อยากต่อปากต่อคำกับผมน่ะ”
“นี่จะบอกให้นะ ผมรู้ตัวดีว่าพูดอะไรออกไป”
“ถ้าอย่างนั้นผมจะลองพิจารณา” เป็นคำตอบแบ่งรับแบ่งสู้ ประกอบกับท่าทางเหมือนคนถือไพ่เหนือกว่า น่าโมโห ทอมขบเขี้ยว ยิ่งอีกฝ่ายใช้สายตารุกไล่เขาเท่าไหร่ เจ้าหน้าที่หนุ่มยิ่งรู้สึกว่าตนไม่ควรยอมแพ้ เบียร์ในแก้วเขาหมดไปเสียครึ่ง แต่แจ็ค ลาวเดนกลับไม่คิดจะดื่มมัน ความจริงแล้วทอมเพียงต้องการให้ชายหนุ่มดื่มเบียร์ แค่ริมฝีปากแตะปากแก้ว เขาก็สามารถเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอได้แล้วด้วยซ้ำ ทว่ามันไม่ง่ายเลยเมื่อทายาทลาวเดนรู้เท่าทันเขาแทบจะทุกขณะที่เปล่งวาจา
“รีบคิดนะครับ คุณคงไม่มีเวลามากขนาดนั้น” ทอมเอ่ยกระเซ้า เขายิ้มในหน้าทั้งที่ความจริงเข้าใกล้อาการหัวเสียเต็มทน
“เจ้าหน้าที่คาร์นีย์ ผมจะเตือนคุณสักนิดว่าตอนนี้คุณอาจไขว้เขวไปจากคดีเพียงเพราะเรื่องตำนานคำสาปไร้สาระ” ชายหนุ่มเลิกคิ้วนิด เป็นเชิงบอกว่า...เห็นไหมล่ะ คุณไม่รู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่แน่ๆ หยุดทำตัวไร้แก่นสารเพื่อเข้าหาผมสักที แต่แจ็คเลือกใช้คำพูดตอกหน้าเขาได้เจ็บแสบดีแท้
ทอมยังไม่ลดละความพยายาม เขาไม่อยากแพ้ราบคาบในสงครามประสาทครั้งนี้
“ผมทราบหน้าที่ของตนเองดี และผมมีหน้าที่ค้นหาความจริงในทุกๆ เรื่อง”
“ความจริงบางเรื่อง...คุณก็ไม่จำเป็นต้องรู้ มีใครเคยบอกคุณไหมว่าการรู้มากมักสร้างภัยให้แก่ตัวคุณเอง” ดวงตาสีฟ้าหม่นฉาบแววติเตียน หากจะตีความคงได้คำเตือนให้ออกไปห่างๆ จากตัวชายหนุ่มนั่นแหละ เพราะไม่อย่างนั้นเจ้าหน้าที่ผู้ไขคดีอาจตกเป็นเหยื่อเสียเอง
“ขอบคุณสำหรับคำเตือนนะครับ ผมจะเก็บไว้พิจารณาเหมือนกัน”
“...ตามใจเถอะเจ้าหน้าที่คาร์นีย์ ผมจะไปห้ามในสิ่งที่คุณอยากทำได้ยังไง” ชายหนุ่มแสร้งทำเป็นยอมอ่อนข้อให้เขาและทิ้งท้ายประโยคคล้ายๆ กับการตามใจเด็กไม่รู้จักโต ไม่ทันที่ทอมจะโต้ตอบคืนด้วยซ้ำ แจ็ค ลาวเดนกลับลุกขึ้นจากที่นั่ง วางเงินสำหรับค่าเบียร์ทั้งที่เจ้าตัวไม่แตะต้องมันแม้แต่น้อย ร่างสูงกำลังจะเดินพ้นโต๊ะไปทว่าทอมกลับเอื้อมมือไปรั้งแขนทายาทลาวเดนไว้ได้ทันท่วงที ดวงตาคมชำเลืองมองพร้อมๆ กับเรียวปากที่เผยยิ้มราบเรียบ
“...”
“ผมชักอยากจะรู้ อะไรคือสิ่งที่คุณสนใจจริงๆ กันแน่ระหว่างการตามหาคนร้ายในคดีหรือผม”
“ตอนนี้มันนอกเวลางานแล้ว ผมไม่ใช่เจ้าหน้าที่คาร์นีย์” คนฟังโน้มตัวลงมาหา เท้าแขนข้างหนึ่งไว้กับพนักที่นั่งด้านหลังของทอม หนุ่มผมทองเม้มริมฝีปาก สบนัยน์ตาสีฟ้าในระยะประชิด
“หมายความว่า...”
“ใช่ เพราะผมสนใจคุณนั่นแหละ”
คงไม่มีใครจินตนาการออกแน่ เมื่อการพบกันครั้งที่สามของพวกเขามันจะจบลงที่...เตียงภายในอพาร์ทเม้นท์ของเขาเอง ทอมไม่รู้ว่าตนควรโทษแอลกอฮอล์หรือแผนการบ้าๆ ที่คิดขึ้นมาอย่างไม่รอบคอบ น่าหงุดหงิดที่ทุกอย่างมันเกิดขึ้นไวเป็นบ้า คล้ายกับว่าประสาทรับรู้หายไปชั่ววูบหนึ่ง หลังจากนั้นแผ่นหลังก็แนบลงกับเตียงโดยมีร่างกำยำทาบทับลงมาหาไม่ต่างจากแม่เหล็กขั้วตรงข้าม ในความชุลมุนอย่างน้อยที่สุดหากมีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ ดีเอ็นเอของแจ็ค ลาวเดนย่อมทิ้งร่องรอยไว้ที่ห้องของเขาบ้างล่ะ!
ไม่มีใครเปล่งคำพูดใดแต่กลับปล่อยให้ร่างกายตอบสนองซึ่งกันและกัน ทอมหายใจสะดุดครั้นอีกฝ่ายไล้ฝ่ามือไปทั่วเรือนร่างแม้มีเสื้อผ้าปิดกั้น ลากสำรวจเฉียดจุดสำคัญให้ใจหายเล่น ภาพความฝันหนนั้นไหลย้อนเข้ามาในห้วงความคิด ไม่อาจปฏิเสธว่าชายหนุ่มช่างเอาใจ โอ้โลมเก่งเหลือเกินจนเขาเผลอตัวอ่อนเป็นเทียนถูกไฟลน ฝ่ามือหนาหยุดลงตรงสะโพก ค่อยๆ เค้นคลึงอย่างคนมีประสบการณ์มากกว่า ความจริงแล้วไม่ใช่ว่าทอมไม่เคยมีเซ็กซ์กับใคร แต่ดูเหมือนทายาทลาวเดนและเขามีบางอย่างที่พร้อมจะดึงดูดเข้าหากันเสมอ ไหนจะภาพฝันประหลาดที่เขาตกอยู่ใต้อาณัติด้วยความยินดียินยอมนั่นอีก
เรียวนิ้วยาวลูบวนกดลงตรงส่วนเว้าโค้ง กางเกงยีนส์ที่สวมใส่ดูท่าจะเป็นอุปสรรคและน่ารำคาญ เรียวปากอิ่มเผยอระบายเสียงแห่งความอึดอัด ทุกอณูผิวร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างง่ายดาย ดวงตาสีฟ้าคู่นั้นยังคงสบมองเขานิ่งแม้ส่วนอื่นของร่างกายพวกเขาแทบจะเกี่ยวพันกันอยู่รอมร่อ ทอมเลื่อนแขนโอบรอบแผ่นหลังกว้าง ขยับตัวเข้าหา ลดช่องว่างด้วยการเบียดเสียดไม่ต่างจากลูกแมวออเซาะเจ้านาย
“คุณพอจะมีเวลาให้ผมทั้งคืนไหม?” ทอมกลั้นใจถามจากความกล้าทั้งหมดที่ยังพอหลงเหลือ ชายหนุ่มพรายยิ้มขณะใช้สายตามองเขาแทบจะทั่วร่าง... ร่างที่กำลังเบียดเสียด รั้งกอดราวกับไม่อยากให้ช่วงเวลาขณะนี้หมดไปอย่างรวดเร็วนัก
“คุณคงต้องถามตัวเองมากกว่า... ว่าคุณอยากจะอยู่กับผมทั้งคืนไหม” สิ้นประโยค เรียวปากจึงมอบรสชาติจุมพิตเร่าร้อนยิ่งกว่าใครที่ทอมเคยพบ ชักนำทุกความคิดของเขาไปเสียหมด เบียดชิดพะเน้าพะนอจนเขาเปิดโอกาสให้ชิวหานั้นได้กวาดลิ้มและซึมซับกลิ่นแอลกอฮอล์ ด้านหนึ่งของจิตใจทอมกำลังด่าทอตัวเขาเองที่ปล่อยให้ร่างกายเพลิดเพลินไปกับการถูกโอบประโลม แต่ด้านหนึ่งกลับดีใจอย่างสุขสม ทั้งมันยังเชื้อเชิญให้อีกฝ่ายป้อนสัมผัสที่เขาถวิลหา
‘ได้โปรดท่านลอร์ด’
‘เด็กดี...’
ทอมหลับตานึกถึงภาพฝันครั้งก่อน กระแสไหลเวียนโลหิตเขาแล่นพล่าน มโนภาพหรือจะสู้การเคลื่อนไหวกายที่กำลังเกิดขึ้นจริง เสื้อยืดตัวบางเลิกขึ้นจนเผยให้เห็นช่วงเอวคอด แน่นอนว่ามันถูกตีตราจองด้วยฝ่ามือจากอีกคน โอบกอด ไล้ลูบพิสูจน์ผิวพรรณดั่งคนกำลังชื่นชมศิลปะ แม้หัวสมองใกล้จะขาวโพลนเต็มทนแต่เจ้าหน้าที่หนุ่มยังพยายามครองสติไว้ส่วนหนึ่งว่าเขายังมีสิ่งติดค้างใจและต้องจัดการให้เสร็จสรรพ ส่งเรียวมือสางไปตามเส้นผมซอยสั้นสีน้ำตาลอ่อน ค่อยๆ ไต่นิ้วตามเนินท้ายทอย...หากเขาจิกนิ้วเพื่อสร้างบาดแผลเพียงนิด ดีเอ็นเอจะคงอยู่ภายในซอกเล็บของเขา
ทว่า...
“อ๊ะ...” กายบางลอยหวืดขึ้นจากเตียงเพียงเพราะแขนแกร่งโอบอุ้มร่างทั้งร่าง ขาเรียวเผลอเกี่ยวรอบสะโพกโดยอัตโนมัติ แจ็คอมยิ้มขำขณะมองเห็นสีหน้าตื่นตระหนกของเขา
“อากาศร้อน...ผมว่าเราไปที่ห้องน้ำดีกว่า”
อย่าบอกนะว่าหมอนี่รู้ทันเขาอีกแล้ว!
ทอมเบิกตานิดขณะถูกอุ้มเข้าไปยังห้องน้ำขนาดคับแคบ เท้าเล็กแตะสัมผัสพื้นที่ใต้ฝักบัวจากนั้นไม่นานสายน้ำเย็นๆ ก็สาดชุ่มไปทั้งร่าง เขาหวิดจะออกปากโวยวายหากแต่ริมฝีปากเป็นอันเงียบสนิทเพราะทายาทแห่งลาวเดนเป็นคนทำให้เขาเงียบเสียงเสียเองด้วยอวัยวะเดียวกัน ไฟอารมณ์ไม่ได้มอดดับลงตามกระแสน้ำ หนำซ้ำมันกลับทวีอุณหภูมิ เสื้อผ้าเปียกปอนได้รับการปลดเปลื้องทีละชิ้น จะว่าไปแล้ว เขาเองต่างหากที่กำลังถูกปอกเปลือก จวบจนเขาแทบไม่เหลือสิ่งใดปกปิด ตรงกันข้าม...ชายหนุ่มยังคงไว้ซึ่งเสื้อเชิ้ตสีเข้มแนบลำตัว กางเกงผ้าสแล็คปลดซิปลงเท่านั้น
ไม่ยุติธรรม!
แต่ทอมสู้พละกำลังของเจ้าของร่างใหญ่ไม่ได้เลย แจ็ค ลาวเดนเบียดกระชับพื้นที่ระหว่างพวกเขาจนแผ่นหลังบางแนบกับผนังห้องน้ำ แขนข้างหนึ่งสอดเข้าใต้ขาพับ พยุงร่างเขาไว้ได้อย่างเหมาะเจาะ ส่วนมือที่ว่างเวียนวนหยอกเย้าสะโพกเขาอย่างไม่กริ่มเกรง ทอมกลั้นลมหายใจไปเกือบชั่ววินาทีเมื่อรู้ว่าช่องทางด้านหลังกำลังถูกรุกรานด้วยปลายนิ้วที่สอดแทรกกดแตะหาจุดกระสันซ่านซึ่งจะทำให้เขาเปล่งเสียงวอนขอ
และแจ็คทำมันสำเร็จ
“ได้โปรดมิสเตอร์ลาวเดน”
“ไม่คิดว่าคุณจะว่าง่าย... เด็กดี”
แสงแดดอบอุ่นกระทบเปลือกตา คนที่ยังไม่ยอมถูกปลุกเพราะความเหนื่อยอ่อนจากการใช้ร่างกายในกิจกรรมอย่างว่าขยับกายหลีกหนี เรียวหน้าซุกลงบนหมอน...
เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นนะ...
ใช่... เขามีเซ็กซ์กับแจ็ค ลาวเดนเพราะแค่ต้องการหลอกล่อเพื่อเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ ผลสุดท้ายเขาดันพลาดท่า เผลอไผลไปตามอารมณ์ความรู้สึกที่ถูกชักนำ แผนการล้มเหลว และตัวเขาเองที่หลอมละลายไปกับทุกสัมผัสที่อีกฝ่ายปรนเปรอ เหตุการณ์สิ้นสุดตรงไหนทอมจำไม่ได้แม่นนัก รู้ตัวอีกทีภาพก็พร่าเลือน แถมเขายังไปสู่ฝั่งฝันเสียหลายยก
“อื้อ...” ปวดตัวชะมัด ทอมนึกสบถพลางลืมตามองบรรยากาศยามสายโด่ง ห้องพักของเขา...และ
“คุณ!” แจ็ค ลาวเดนกำลังยิ้มขำขณะนั่งพิงศีรษะอยู่กับหัวเตียง ชายหนุ่มยังคงสวมเสื้อเชิ้ตสีเข้มตามเดิม แต่เส้นผมนั้นไม่ได้ถูกเซตให้เป็นทรงเนี้ยบ เรียวนิ้วยาวเกี่ยวลูบแพรเส้นผมสีทองของเขาอย่างเบามือก่อนจะไล้ลงมาหยุดที่ริมฝีปากอิ่ม ดวงหน้าหล่อจัดโน้มเข้ามาใกล้ แตะจูบเพื่อเป็นการยืนยันว่านี่ไม่ใช่ความฝัน
“บอกแล้วไงว่าผมมีเวลาอยู่กับคุณทั้งคืน อรุณสวัสดิ์เจ้าหน้าที่คาร์นีย์ อ่อ...ไม่สิ อรุณสวัสดิ์ทอม”
คฤหาสน์ลาวเดนได้รับการปรับปรุงซ่อมแซมไปได้มาก แต่คนงานกลับร่อยหรอลงจนน่าใจหาย ชายหนุ่มเปิดประตูลงจากรถยนต์ส่วนตัว ขณะเดียวกับที่หัวหน้าคนงานทักทายเขา
“สวัสดีครับมิสเตอร์ลาวเดน คุณไปไหนมาแต่เช้า”
“ผมเพิ่งจะกลับมาที่คฤหาสน์” เขาตอบก่อนจะถามไถ่ความคืบหน้าเกี่ยวกับการปรับปรุงพื้นที่ “แล้วเป็นอย่างไรบ้าง เหลือตรงไหนที่ยังไม่สมบูรณ์อีก คุณแมททิว”
“เหลือบางห้องภายในคฤหาสน์ที่ต้องปรับปรุง แล้วก็สวนอีกนิดหน่อยครับ แต่คนงานของเราหายหน้าหายตาไปซะมาก ทั้งจากเหตุที่คุณก็รู้ว่าคืออะไร และพวกเขากลัวที่จะทำงานที่นี่อีก” หัวหน้าคนงานทอดถอนหายใจอย่างเสียไม่ได้
“ประกาศรับสมัครคนงานเพิ่มได้ ผมไม่เกี่ยงหรอก เดี๋ยวผมเพิ่มค่าจ้างให้พวกคุณที่ยังเหลืออยู่ด้วย ขอแค่มันเสร็จทันกำหนดการเปิดก็พอ” ชายหนุ่มเสนอแนวทางที่พอจะเป็นไปได้ จากนั้นจึงเดินเข้าไปภายในคฤหาสน์ หญิงชราผู้เป็นแม่บ้านประจำตระกูลยังคงปฏิบัติหน้าที่อย่างขันแข็งตามเดิม พลางเอ่ยถาม
“จะรับอาหารเช้าไหมคะ”
“ไม่ล่ะ ขอบคุณ ผมอิ่มแล้ว” อันที่จริงจะว่าอิ่มท้องก็ไม่เชิง อิ่มกายน่าจะใกล้เคียง แจ็คเผยยิ้มอารมณ์ดีครั้นหวนนึกถึงใบหน้าหลากอารมณ์จากทอม กลินน์ คาร์นีย์เมื่อยามเห็นเขายังคงเอนกายอยู่บนเตียงเดียวกัน นั่นแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้หายไปไหน...ไม่ได้หลบหนีกลับมายังคฤหาสน์ลาวเดนเพื่อซ่อนร่างต้องสาป...
บางทีเจ้าของเรือนผมสีทองอาจไม่ทราบไม่ก็หลงลืม... ว่าเมื่อคืนเป็นคืนเดือนมืด
คืนแห่งอิสรภาพที่มีเพียงน้อยนิด...
คืนที่เขาจะไม่กลายร่างเป็นอสูร
TBC
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in