Saturday,9 June 2018
12:46
วันนี้วันเสาร์ สัปดาห์ที่ผ่านมาท้องฟ้าแจ่มใสปลอดโปร่ง
แต่ใจเราเบลอมาก เพราะโดนโจมตีจากอปป้าในคลาส ฮือ
________________________________
วันศุกร์นี้ เราเลือก additional class เป็นทริปไป Mt Eden กับโรงเรียน
ซึ่งคนไปเยอะมากกก เกิน40-50คนเลยย (วีคที่แล้วที่ไปมิวเซียมMOTATมีแค่ 8คนเท่านั้น!!)
Mount Eden is a suburb in Auckland, New Zealand whose name honours George Eden, 1st Earl of Auckland. It is 4 kilometres (2.5 mi) south of the Central Business District (CBD). Mt Eden Road winds its way around the side of Mount Eden Domain and continues to weave back and forth as it descends into the valley; it runs south from Eden Terrace to Three Kings. Mt Eden village centre is located roughly between Valley Road and Grange Road. The domain is accessible on foot from many of the surrounding streets, and by vehicle from Mt Eden Road. The central focus of the suburb is Maungawhau / Mount Eden, a dormant volcano whose summit is the highest natural point on the Auckland isthmus.
ขอบคุณข้อมูลจาก
https://en.wikipedia.org/wiki/Mount_Eden
ซึ่ง ความจริงเราวาดฝันคนประมาณ 10-20คน เดินสลับคุยกันทั่วถึง แต่พอไปจริงๆ
ฮือ แงงง คนเยอะวุ่นวาย ทีชเชอร์ต้อนขึ้นบัส ต้อนเดินเขาเหมือนฝูงแกะ
ตอนแรกอยู่หัวแถว แต่พอเจอเนินก็แวะหอบแฮกๆ จนรั้งท้าย
พอถึง mt จริงๆก็แยกกันถ่ายรูปเป็นก๊กๆ (เราก็แยก)
แล้ว แล้ว เราเห็นอปป้าเราก็ไปแก๊งเกาหลีเด็กเก่าแก๊งใหญ่ เข้าไม่ถึงจริงๆ
เฮ้อ สุดท้ายทริปนี้เราไม่ได้คุยกับพี่แกเลย แงงงงง
(ฮึ่ย ทำไมทุกอย่างจบเร็วขนาดนี้เนอะ เลิ้ปสตอรี่ของหนู)
ไม่สนใจก็ได้ ถ่ายรูปก็ได้ เชอะ
คนเยอะมากกกเป็นมด จะเห็นว่ารอบๆ เป็นทางเนินไปหมดเลย
เรามาถึงแล้วนะ อยากบอกว่ารัก NZ มากเลยยยยย
กลับมาที่ Mt Eden ดีกว่า คือเราเดินขึ้นเนินไปประมาณ 5-10นาที (เนินจริงๆ) ขนาดเราคิดว่าแต่งตัวมาบางแล้ว ใส่แค่เสื้อยืดกับยีนส์ ทับด้วยโค้ท ก็ยังเหงื่อออก (ไม่ต้องพูดถึงคนใส่หลายเลเยอร์เลยอ่ะ) ทั้งๆที่เป็นหน้าหนาว แต่วันนี้คืออากาศดี แดดออก ทำให้ไม่รู้สึกหนาวเท่าไหร่ และอยากบอกว่าแดดที่นี่แรงมากกก ควรพกแว่นกันแดดเลย เพราะนี่ต้องหยีตาตลอด
พอขึ้นไปถึงเราก็ได้เห็นหลุมภูเขาไฟที่มอด? เป็นหลุมลึก ใหญ่พอสมควร รอบๆหลุมเป็นเนินสูงให้เดินไปชมวิวได้รอบบบบเมืองเลย ฟากนึงเป็นวิวเมือง ฟากนึงเห็นทะเล สวยมากจริงๆ (ลืมอปป้าไปชั่วคราว)
เราใช้เวลาถ่ายรูป และบันทึกภาพ(ด้วยตา) ตัวเองอยู่พักนึงเลยแหละ
ข้างหน้าคือทีชเชอร์ที่เราไม่ได้เรียนด้วย (คนขวา)
เรากับเพื่อนเดินเกือบหัวแถวเลย เนิร์ดแมะ
หลังจากนั้นเราก็เดินลงเขากันมา เพื่อไปคาเฟ่ต่อ ซึ่งเราต้องอยู่กับโรงเรียนถึงบ่ายสามครึ่งตามกฎ
ก็เลยนั่งคุยเรื่อยๆที่คาเฟ่รอเวลาแยก ฮืออออ
สั่งน้ำมะนาวโง่ๆมา แต่ราคาคือ 5.5$ รสชาติเหมือนชเวปป๋องเขียว
ระหว่างนั้นเพื่อนไปชวนคนญี่ปุ่นมาร่วมก๊วนด้วย เพราะวันนี้เรากะจะไป fish market กัน !
และสรุป เราได้คนญี่ปุ่นมาสองคน
เราเดินจาก britomart station ไปที่ auckland fish market เพราะอากาศไม่ร้อน เราก็เดินเรื่อยๆ แต่ถามว่าไกลไหมก็ว่าไกลอยู่นะ เดินประมาณ 20กว่านาที (ก็โฮสเราแนะนำว่าเดินได้ ไม่ไกลจากตัวเมืองอ่ะ ขอโทษเพื่อนร่วมทริปทุกคน 5555 แง )
ระหว่างทางไปฟิชมาร์เก็ต
พอถึงฟิชมาร์เก็ต โอโห แม่เจ้าโว้ย ยิ่งใหญ่อลังการม๊ากมาก(ประชด)
เล็กกว่าเซเว่นสยามกิตอีก ! อาจจะเพราะตึกหลักเค้าปิดปรับปรุงรึเปล่าไม่รู้ แต่เราไปแล้วผิดหวังมาก แง ฮือ คาดหวังความยิ่งใหญ่กว่านี้ ครึกครื้นกว่านี้ ฮืออออ
แต่เห้อ อย่างน้อยแถวนั้นก็ติดริมทะเล ให้ไปเดินชิลๆได้ แอบมองเห็นสนามบาสมีคนมาเล่นกันเจี๊ยวจ๊าว
เรากับเพื่อนๆเลยเลือกร้านนั่งสักร้าน ไปลงเอยที่ร้านชื่อ Jack Tar พนักงานน่ารักมาก
เราสั่งพิซซ่ามา 3 ถาด หารกันแค่คนละ 11$เอง ดีมาก !
มีหน้า มาการิต้า ฮาวาเอี้ยน แล้วก็ไก่&อโวคาโด้ อร่อยมากก
ส่วนเราลองเบียร์แก้วนึง น่าจะชื่อ speights beer พนง.แนะนำว่าไม่แรงมาก
ความจริงเราไม่ค่อยดื่มแอลกอฮอล์เพราะมันขม แต่แก้วนี่ไม่ค่อยขมเลย !
วันนั้นกินเบียร์เพราะอยากโชว์ว่าหนูโตแล้ว ฮั่นแน่ ข่มเพื่อนญี่ปุ่นไปอี้ก 55555
แก้วเดียวชิลๆ โอ้ะ พนักงานไม่ขอตรวจบัตรด้วยนะ เก๋ๆ
บรรยากาศหน้าร้าน
หลังจากนั้น เรายังไม่จบ มีความไปต่อกันที่ night market ตรง britomart ที่เดิมกับวีคที่แล้ว
ที่ดีคือ เดินๆอยู่ก็เจอเพื่อนจากโรงเรียนเดียวกันเต็มไปหมด
ยืนเมาท์คุยกันมั่วไปหมด เดี๋ยวคุยไทยเดี๋ยวคุยอังกฤษไม่ก็ผสมญี่ปุ่น
เราก็ชิมขนมของคนนู้นคนนี้ไปเรื่อย
เฮ้อ เป็นคืนที่ดีจัง
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in