Talk : เรื่องราวในฟิคอิงมาจากซีรีส์ The Sandman แต่ว่าลูซิเฟอร์ของเรื่องนี้อิงมาจากวรรณกรรม Paradise Lost ของจอห์น มิลตัน และ Demon ของมิคาอิล เลอร์มอนตอฟ (Also Lucifer is Non-binary in this story)
____________________
ปลายทางสุดท้ายของมนุษย์ที่ถูกรักโดยเทพเจ้าคือโศกนาฏกรรม
ลูซิเฟอร์ตระหนักได้เช่นนั้นเป็นครั้งแรกเมื่อครั้งเขาได้เห็นอดัมและอีฟ ณ สวนเอเดน และครั้งที่สองเมื่อเขาได้เห็นเธอ
หากพระเป็นเจ้ารักมนุษย์หนักหนา เธอผู้นั้นคงนับได้ว่าเป็นลูกคนโปรดของพระองค์ เธอมีรูปโฉมที่นับได้ว่างดงามตามมายาคติของ
เขารู้ดียิ่งในข้อนี้ เพราะเขาเองก็เคยเป็นเช่นนั้นมาก่อนในอดีตกาล ทูตสวรรค์ผู้เป็นที่รักและงามเหนือทุกสรรพสิ่งบนจักรวาล ก่อนจะร่วงหล่นสู่พิภพอนธการ ด้วยโทษทัณฑ์ที่ไม่อาจได้รับการอภัยจากพระเจ้า
เธอ
ความรู้สึกนี้ชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่อ
สาเหตุของบาปกรรมที่เลวร้ายที่สุดที่หล่อนสร้างขึ้น สิ่งนั้นคือความรักที่ไม่อาจเป็นไปได้
เสียงกระซิบ
เธอ
อนันต์คือผู้โบราณทรงเกียรติภูมิที่ถือกำเนิดดั่งสิ่งมีชีวิตแรกในจักรวาล คือเหล่าบุตรธิดาของเวลาและราตรี คือราชาและราชินีผู้ควบคุมและปกครองด้วยสิทธิ์โดยกำเนิด พวกเขามีทั้งศักดิ์ศรี ทิฐิ และอำนาจล้นเหลือที่มิอาจถูกหมิ่นเกียรติศักดิ์ศรีได้
คำว่า ไม่ ของเธอจึงไม่ใช่แค่คำปฏิเสธ แต่คือการท้าทายต่ออนันต์อย่างที่ไม่มีผู้ใดกล้าที่จะทำ
เจ้าผู้ส่องแสงใคร่สงสัยมาตลอด เหตุใดอนันต์ที่ทรงศักดิ์ยิ่งกว่าจอมปีศาจเช่นเขา ถึงได้เลือกที่จะหลงรักมนุษย์ธรรมดาที่แสนเปราะบางไร้ค่า ซึ่งไม่คู่ควรต่อการได้รับความรักแม้แต่น้อย และเหตุใดที่มนุษย์ไร้ค่าอย่างเช่นหล่อน จึงเลือกปฏิเสธแทนที่จะยอมจำนนต่อสิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่กว่าตนเป็นไหน ๆ ทั้งที่รู้ดีแก่ใจว่าจะต้องเผชิญกับแรงพิโรธของอีกฝ่าย
ชั่วขณะหนึ่งลูซิเฟอร์หวนนึกถึงชะตากรรมตัวเอง มิใช่ว่าเพราะเขาต่อต้านพระบิดาหรอกหรือ เขาจึงต้องถูกลงทัณฑ์ในนรกชั่วกัลป์เช่นนี้?
และเธอก็ต้องร่วงหล่นมาอยู่ต่อหน้าเขาด้วยเหตุผลเดียวกัน
ความรักและความเกลียดต่างกันเพียงเส้นเขตบางกั้นไว้
ดาราประกายพรึกหลุดจากห้วงภวังค์ ก่อนจะหันไปให้ความสนใจต่อมนุษย์ที่คุกเข่าใต้บัลลังก์ของเขา ริมฝีปากยิ้มเยาะราวกับเย้ยหยันโชคชะตาอันน่าสมเพชของเธอ
ความรักนำทางเจ้ามาจนถึงตอนนี้
เธอไม่ตอบ เพียงมองเขาอย่างสงบนิ่ง ไม่ตัดพ้อ ไม่ร่ำไห้อ้อนวอน และไม่ยอมจำนน
หยิ่งยโสคือบาปของเจ้าแห่งนรก ซึ่งเธอมีมันอย่างเปี่ยมล้นไม่แพ้กับตัวเขาเอง
เขาจ้องมองเธอด้วยความรู้สึกเหมือนกำลังจ้องมองเงาร่างของตัวเองที่ปรากฏในผืนน้ำและกระจก
ความภาคภูมิของมนุษย์อ่อนแอที่พยายามต่อต้านอำนาจเหนือตน ช่างยั่วเย้าให้เขาปรารถนาจะทำลายจนแหลกลาญเสียเหลือเกิน
..................................
หนึ่งพันปีสำหรับ
แต่หนึ่งพันปีสำหรับมนุษย์ นานเท่ากับชั่วภพชาติของการแตกดับและถือกำเนิดว่ายเวียนมิรู้จบ
นั่นคือช่วงเวลาของเธอที่ต้องถูกกักขังอยู่ในขุมนรก
จากที่เคยมีชีวิตครั้งในอดีต บัดนี้บนโลกเธอกลายเป็นเพียงตำนานเล่าขาน นิทานของสตรีสิริโฉมซึ่งได้ถูกรักและถูกสาปโดยอนันตะ มิอาจอยู่อย่างคนเป็นและคนตาย ถูกลงทัณฑ์ด้วยกรดกำมะถันอย่างทุกข์ทรมานในส่วนลึกของ
ลูซิเฟอร์คิดว่าพวกมานพช่างเล่าเรื่องได้เวอร์วังเกินจริงเสียเหลือเกิน
เหล่าปีศาจทั้งหลายรู้กันดีถึงตัวตนของสตรีผู้นับได้ว่าเป็นแขกคนพิเศษของจ้าวดินแดน หล่อนโดนจองจำก็จริง แต่มิได้ถูกทารุณกรรมเหมือนอย่างในนิทานที่คนบนพื้นพิภพบอกกล่าว หล่อนดำรงอยู่ราวกับเป็นสมบัติชิ้นสำคัญที่ถูกเก็บรักษาอย่างเข้มงวดมากกว่าจะเป็นนักโทษ มิมีปีศาจตนใดเคยได้เห็นเสี้ยวโฉมหล่อนเลยสักครั้ง นอกเสียจากจอมมารสูงสุดและราชาสุบินเท่านั้น
หล่อนดูเหมือนจะเป็นมนุษย์ที่โชคดีทีเดียว เหล่าจิตวิญญาณชั่วร้ายคิดเห็นตรงกันในเรื่องนี้ แต่นั่นเป็นความเข้าใจผิดอย่างมหันต์ เหตุเพราะพวกมันสูญเสียความเป็นมนุษย์ไปเนิ่นนานแล้ว จนไม่อาจเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงความทรมานที่แท้จริงของมนุษย์ได้
ความทรมานอันเลวร้ายต่ำทรามที่สุดสำหรับชีวิตของมนุษย์ผู้หนึ่ง นั่นคือการถูกพรากจากอิสรภาพและเจตจำนงของตนเอง
กว่าหนึ่งพันปีที่เธอต้องถูกจองจำอยู่ภายในพื้นที่สีเทาคับแคบเพียงลำพัง มิมีแสงเดือน มิมีแสงตะวัน มิมีมนุษย์คนอื่นใดนอกจากเธอผู้เดียว รุ่งแล้วค่ำเล่ากับความเงียบงันอันไร้ซึ่งตัวตนที่แผ่รัดรั้งเธอเอาไว้ไม่ต่างจากโซ่ตรวน ทุกวินาทีที่เคลื่อนผ่านไปอย่างรวดเร็วสำหรับภูตผีปีศาจ คือทุกวินาทีที่ค่อย ๆ บีบคั้นเธอให้พังทลายทีละเล็กทีละน้อยอย่างล้ำลึกถึงก้นบึ้งของวิญญาณ
ลูซิเฟอร์สดับรับฟังการแตกสลายของมนุษย์ผู้นี้เสมือนกำลังละเลียดอาหารเลิศรสด้วยความตั้งใจ ฟังเสียงกรีดร้องโหยหวน ฟังเสียงก่นด่าส่งไปถึงสวรรค์ชั้นฟ้า ฟังเสียงร่ำไห้อันสิ้นหวัง ฟังเสียงพร่ำพรรณนาถึงชีวิตที่ไม่อาจหวนคืน และความงดงามของพิภพเบื้องบนที่เธอไม่มีโอกาสได้เห็นอีกต่อไป
ทว่าเสียงเดียวที่เขาไม่เคยได้ยินเลยตลอดพันปีที่ผ่านมานี้ นั่นคือเสียงขอร้องอ้อนวอนขอการอภัยจากเธอ
ตลอดชั่วชีวิตยาวนานนับอสงไขย ได้ประจักษ์ต่อกลุ่มชนมากมายเหลือคนา คนแล้วคนเล่า วิญญาณแล้ววิญญาณเล่า การอ้อนวอนเป็นสิ่งที่จอมมารต้องพบเจอจนเบื่อหน่าย สำหรับเขาแล้ว มนุษย์ล้วนไม่แตกต่าง นอกจากไร้ค่าและอ่อนแอ ยังขลาดเขลาเหมือนกันไปหมด เมื่อสิ้นหนทางก็ไร้ซึ่งความพยายาม เอาแต่เว้าวอนภาวนาเพียงเพื่อให้ได้รับเสี้ยวส่วนความเมตตาจากผู้ที่มีอำนาจกว่าตัวเอง
เธอควรจะต้องเป็นเช่นนั้น ในเมื่อเธอก็คือมนุษย์เช่นกัน เขาคาดการณ์เอาไว้แล้ว แต่กลายเป็นว่าเขากลับคิดผิดอย่างมหันต์ ทั้งที่เขาไม่เคยผิดพลาดมาก่อนไม่ว่าจะเรื่องใดก็ตาม
ความรู้สึกหงุดหงิดระคนใคร่รู้ทำให้ผู้เป็นราชาใจจดจ่ออยู่กับแขกคนพิเศษโดยไม่รู้ตัว ด้วยความปรารถนาจะได้ยลความพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์ของเธอในท้ายที่สุด คาดหวังถึงสีหน้าสตรีผู้นั้นยาม
แต่เมื่ออีกหนึ่งพันปีผ่านพ้นไป เธอก็ยังไม่เคยเอ่ยปากอ้อนวอนต่อผู้ใดเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ลูซิเฟอร์ไม่คิดมาก่อนเลยว่าเวลาที่เคยผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็วสำหรับผู้เป็นอมตะ จะกลับกลายเป็นเชื่องช้าได้มากขนาดนี้ เมื่อตัวเองเฝ้ารอคอยต่อสิ่งที่ยังไม่เคยเกิดขึ้น หรืออาจจะไม่มีทางเกิดขึ้นเลยก็ได้
เป็นไปได้อย่างไรกัน
เจ้าผู้ส่องแสงรู้แจ้งในตอนนั้นเอง ว่าเธอคือปริศนาที่มีชีวิตจิตใจ คือสิ่งที่เขาไม่อาจทำความเข้าใจได้เลยสักนิดเดียว
ถึงตรงนี้ความหงุดหงิดก็แปรเปลี่ยนเป็นประหลาดใจไปเสียแล้ว และการรออะไรนาน ๆ ไม่เคยอยู่ในวิสัยของปวงอมรมาตั้งแต่แรก ที่สุดแล้วความอดทนอันน่าเบื่อหน่ายก็หมดสิ้นลง จอมปีศาจผู้หมกมุ่นต่อปริศนาที่ยังไขไม่ออก ตัดสินใจปรากฏตัวต่อหน้าเธออีกครั้งในรอบพันกว่าปี
ภายในเขตแดนลี้ลับแห่งนิรยที่มิเคยถูกเปิดเผย ม่านสีเทาจากท้องฟ้าจรดถึงพื้นดิน ที่ซึ่งไร้แสง ไร้ชีวิต ไร้ความหวัง ที่แห่งนี้คือแหล่งพำนักของอดีตสตรีที่ครั้งหนึ่งเคยงดงามที่สุดในแดนพิภพ ทว่าความงามในอดีตถูกกลืนกินด้วยความอ่อนแอและอ่อนล้า เจตะแห่งมนุษย์แปดเปื้อนด้วยสีสันมืดหม่น ทั้งยังเปราะบางไม่ต่างจากแก้วน้ำที่ว่างเปล่า จนการสัมผัสเพียงเล็กน้อยจากเขาก็อาจทำให้มนุษย์ผู้นี้พังทลายดับสูญไปตลอดกาลเลยก็ได้
ในสายตาของอดีตทูตสวรรค์ผู้ยิ่งใหญ่ สตรีผู้นี้คือตัวแทนของสวรรค์และพระเป็นเจ้าที่ไม่อาจเอื้อม การได้มองเห็นอีกฝ่ายต้องตกอยู่ในสภาพน่าสังเวชเช่นนี้ นั่นควรจะทำให้เขารู้สึกดีเสียด้วยซ้ำ แต่ทว่านี่ยังไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการอย่างแท้จริง
เขาต้องการให้เธอยอมแพ้ต่อเขา เขาต้องการให้เธออ้อนวอนต่อเขา
สตรีผู้นั้นนั่งกอดเข่าคุดคู้อยู่บนพื้น และเหม่อมองมาที่เขาโดยไม่พูดจาอันใด ราวกับว่าเวลาหลายพันปีหล่อหลอมให้เธอนิ่งเฉยประหนึ่งก้อนหินไร้ชีวิต
และสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของเขาที่สุดนั่นคือแววตาของเธอ
ภายใต้ดวงตาแดงก่ำและหยาดน้ำตาฉ่ำชื้น ผ่านลึกเข้าไปถึงนัยน์ตาสีเข้มของเธอ กลับเปล่งปลั่งด้วยความรู้สึกอันเข้มข้น ดั่งหนามที่มองไม่เห็นทิ่มแทงโดยตรงมาที่เขา
สิ่งนั้นคือความเกลียดชัง
ชิงชังต่อทุกสรรพสิ่งในโลกนี้ พร้อมที่จะแตกสลาย แต่ก็พร้อมที่ทำลายทุกอย่างไปด้วย
ลูซิเฟอร์คุ้นเคยต่อความรู้สึกเช่นนี้ดีเสียยิ่งกว่าอะไร เพราะเขาจมอยู่กับมันมายาวนานเสียจนนับไม่ได้แล้ว
เจ้าแห่งบาปชะงักงัน ชั่วขณะเดียวเท่านั้นที่เขารำลึกถึงอดีตกาลขึ้นมา เมื่อครั้งที่ถูกสวรรค์ทอดทิ้งจนตกมาสู่นรก เงาสะท้อนตัวตนของเขาในครั้งนั้นซ้อนทับได้อย่างพอดิบพอดีกับมนุษย์ตรงหน้าในยามนี้
โอ้เจ้าคงจะชิงชังราชาแห่งฝันน่าดูเลยสินะ เขาเริ่มต้นด้วยการเอ่ยเย้าแหย่
ไปให้พ้น! เธอเค้นเสียงตอบด้วยแรงทั้งหมดที่มี ทว่าออกมาแผ่วเบาราวกับกระซิบกระซาบ
อย่าปฏิเสธข้าหน่อยเลยน่า หลังจากสองพันกว่าปีที่ผ่านมาที่เจ้าใช้เวลาอยู่ที่นี่ ข้ารู้ดีจะตายว่าเจ้าดีใจแค่ไหนที่ได้พูดกับใครสักคนวันนี้
บอกข้าถึงปรารถนาของเจ้าสิ เจ้าต้องการสิ่งใด น้ำเสียงของเขาทั้งอ่อนหวานและยั่วเย้า ดั่งเช่นเมื่อครั้งที่ได้ล่อลวงให้อีฟกินผลไม้ต้องห้ามในสวนอีเดน บางทีถ้าเจ้าอ้อนวอน ข้าอาจจะให้สิ่งนั้นกับเจ้าก็เป็นได้
เธอเงียบ แต่ความเงียบของเธอมิใช่การปฏิเสธเสียทีเดียว ตรงกันข้ามเธอกำลังขบคิดถึงคำกล่าวของเขา เงามืดเคลื่อนทับบดบังเสี้ยวหน้าจนยากจะมองออกว่าสีหน้าของเธอเป็นเช่นไร อย่างไรก็ตามปีศาจร้ายก็ยังได้กลิ่นความสับสนจากหญิงสาวประหนึ่งกลิ่นบุปผาหอมฉุน เขาสูดดมมันอย่างเชื่องช้าไม่เร่งรีบ เกือบจะลิ้มรสวิญญาณอันขมขื่นของเธอได้จากปลายลิ้นตัวเอง
บูชาข้า ขานนามข้า ร้องของข้า ขอเพียงเจ้าเอ่ยปากเท่านั้น วิญญาณเจ้าจะเป็นของข้าและข้าจะเป็นทาสที่ภักดีต่อเจ้าตราบที่เจ้าสมประสงค์
ถ้าเพียงแต่เธอตอบตกลงเท่านั้น เขาแสยะยิ้ม นัยน์ตาสีเหลืองส่องสว่างดั่งไฟนรก ความคิดของเขากำลังโลดแล่นอย่างตื่นเต้น ราวกับเส้นเลือดทุกเส้นเริงระบำภายใต้เนื้อหนังของเขาเอง ด้วยความมั่นใจเปี่ยมล้นว่าไม่มีปุถุชนใดที่สามารถปฏิเสธนายเหนือหัวแห่งบาปได้
ทว่าปฏิกิริยาของเธอกลับไม่ใช่สิ่งที่เขาคาดหวังไว้
ไม่
สายตาของเธอจ้องเขาอย่างดุร้าย ความรู้สึกเข้มข้นส่งแรงสั่นสะเทือนกดลึกเข้าไปถึงจิตวิญญาณ เขาขมวดคิ้วอย่างฉงนและอัศจรรย์ใจ ตระหนักได้ถึงอำนาจที่คาดไม่ถึงจากเธอ ด้วยคำพูดเด็ดขาดชัดเจนที่กำลังก้องกังวานสะท้อนอยู่ในอกเขา
ตอนนั้นเองลูซิเฟอร์จึงได้เข้าใจถ่องแท้ ว่าเหตุใดจอมสุบินจึงไม่อาจยอมรับการปฏิเสธนี้ได้ นั่นเพราะสิ่งที่เธอทำไม่ใช่เพียงการหมิ่นเกียรติผู้ยิ่งใหญ่เท่านั้น แต่ความไม่ยินยอมของเธอแรงกล้ามากกว่าแค่ใช้ปากพูด และมีอำนาจมากยิ่งกว่าเทพเทวาหรือปีศาจตนใดจะเอาชนะได้
เพียงคำว่า '
ด้วยถ้อยคำนี้เธอจึงไม่ยอมจำนน ด้วยถ้อยคำนี้เธอจึงต้องตกนรก
ช่างเป็นความโง่เขลาที่กล้าหาญที่สุดที่เขาเคยได้พบเจอมาเลยทีเดียว
อย่าได้รีบร้อนไป เจ้ามีเวลาอีกมากให้ขบคิด
เจ้านรกกล่าวทิ้งท้ายอย่างเย้ยหยัน ก่อนจึงยอมจากไปโดยง่าย แน่นอนว่านี่ไม่ใช่การยอมแพ้ อันที่จริงความต้องการที่จะได้ชัยชนะก่อร่างสร้างตัวอย่างแข็งแกร่งยิ่งกว่าครั้งใด ๆ เสียอีก
การถูกดูหมิ่นด้วยการปฏิเสธโดยผู้ต่ำต้อยเช่นนี้ ควรจะทำให้เขาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเสียด้วยซ้ำ ทว่าน่าประหลาดที่เขาไม่ได้รู้สึกโกรธเลยแม้แต่นิดเดียว แต่กลับเป็นความรู้สึกอย่างอื่นที่กำลังแผดเผาจิตใจของเขาไม่หยุดหย่อน และไม่มีท่าทีว่าจะมอดดับลงได้โดยง่าย
ลูซิเฟอร์ถอดถอนหายใจแล้วจึงหลับตาลง กระนั้นดวงตาของสตรีผู้ไม่มีตัวตนยังคงส่องประกายแจ่มชัดในสมอง เช่นเดียวกับคำว่า ไม่ ของเธอ เขาหวนคำนึงถึงใบหน้าสวยงามและกลิ่นหอมฉุนเป็นเอกลักษณ์ที่ยังอบอวลอยู่ไม่จางหาย ฉับพลันลำคอก็แห้งผากด้วยความกระหายอยากไร้ที่มา
ทำไมมอร์เฟียสจึงปรารถนาสตรีผู้นี้หนักหนา
เพราะเขาเองก็รู้สึกไม่ต่างกันเลย
..................................
กล่าวกันว่าในทุก ๆ หนึ่งพันปี ยามหนึ่งทิวาและหนึ่งราตรี นั่นเป็นเพียงวันเวลาเดียวเท่านั้นที่ลูซิเฟอร์จะหายตัวไป
ปวงเทวาและเหล่าปีศาจล้วนแล้วแต่ตกภายใต้ความสงสั ยเพราะมิมีผู้ใดสามารถล่วงรู้ได้เลยว่าจ้าวปีศาจคนสำคัญหายตัวไปสถิตอยู่ ณ ขอบเขตแดนใดของจักรวาล และในช่วงเวลานั้นเขาตั้งใจกระทำการอันใดอยู่กันแน่? มีเรื่องเล่าต่อกันมามากมายหลายสาเหตุด้วยกัน ตั้งแต่แผนการที่นำมาซึ่งหายนะร้ายแรง ไปจนถึงสงครามที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ แต่ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการคาดเดาไปเองทั้งสิ้น และไม่มีอะไรมากไปกว่าความลึกลับที่ถูกเล่าลือส่งต่อไปยืดยาวไม่จบสิ้น
ลูซิเฟอร์วางเฉยต่อทุกถ้อยคำ ไม่เอ่ยถึง ไม่แก้ตัว
เขามิได้ปรารถนาจะให้ชนเหล่านั้นรู้ความจริงอยู่แล้ว
เขตแดนลี้ลับแห่งนิรยคือถิ่นฐานเดียวในนรกซึ่งไม่เปิดให้ปีศาจใดเข้าไปได้ และยังเป็นถิ่นฐานเดียวที่ลูซิเฟอร์เลือกใช้ในการหลบหลี้จากความวุ่นวายสารพัดของทั้งสามโลกา นั่นเป็นเพียงเหตุผลทั่วไปที่เขาใช้กล่าวอ้างต่อตัวเอง เพราะจุดประสงค์หลักที่แท้จริงแล้ว คือบุคคลที่ถูกขังอยู่ข้างในแดนนี้ต่างหาก
เจ้าได้รู้เรื่องคนรักเก่าของเจ้าหรือยัง มอร์เฟียสนะ
จ้าวปีศาจรู้ว่าชื่อของราชาฝันดึงดูดความสนใจของเธอได้เสมอ เมื่อได้เห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของอีกฝ่ายทุกครั้งที่เขากล่าวถึงมอร์เฟียส ยังมีเยื่อใยอันบางเบาในความสัมพันธ์ที่พังทลายของสองคนนี้ และเขารักที่จะหยิบใช้สิ่งนี้เพื่อประโยชน์ของตัวเอง
มอร์เฟียสถูกจับตัวไปโดยพวกนักเวทชาวมนุษย์ ว่ากันว่าเขาถูกขังในห้องใต้ดินในคฤหาสน์ ถูกเอาพลังไปใช้เติมเต็มความโลภของมนุษย์มิหยุดหย่อน
ลูซิเฟอร์หัวเราะเล็กน้อย ความทุกข์ตรมของผู้อื่นนับเป็นเรื่องน่าพิรมย์สำหรับเขาอยู่แล้ว และการได้รับรู้ว่าผู้ยิ่งใหญ่ที่ยโสโอหังหนักหนา กลับลงเอยด้วยพ่ายแพ้ใต้ฝ่าเท้ามนุษย์อย่างน่าสมเพช ถือเป็นความอัปยศที่ชวนให้น่าหัวร่อที่สุด
เขาลอบมองไปที่เธออย่างเงียบงัน ดวงตาสีเหลืองอร่ามพิจารณาถี่ถ้วนกว่าทุกครั้งยามเอ่ยปาก
ดูเหมือนเวรกรรมจะเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้แม้ว่าจะเป็นอนันต์ก็ตาม สถานะของเขาไม่ต่างอะไรกับเจ้าตอนนี้เลยแม้แต่นิดเดียว แล้วเจ้าคิดเช่นไรเล่า
ในบรรดาบาปทั้งเจ็ดประการ บาปแห่งโทสะนั้นล้ำลึกและยากจะต้านทานที่สุด และไม่มีสิ่งใดจะทำให้จอมปีศาจพึงพอใจได้เท่ากับการเห็นมนุษย์กำลังจมอยู่ในห้วงแห่งบาปจนไม่อาจคู่ควรกับถิ่นที่ใดได้อีกนอกจากนรกเท่านั้น ลูซิเฟอร์นึกอยากเห็นความโกรธแค้นด้วยความรู้สึกสาสมใจจากเธอ มันแน่นอนอยู่แล้วมิใช่หรือที่เธอจะรู้สึกเช่นนั้นต่อบุคคลต้นเหตุที่ทำให้เธอต้องทรมานอย่างไร้อิสรภาพตลอดหลายพันปี
เขารู้ว่าเธอเกลียดชังโชคชะตาอันโหดร้ายที่ตัวเองไม่ได้เลือกมากแค่ไหน
จ้าวแดนฝันได้หลุดพ้นจากการคุมขังของมนุษย์แล้ว และเขากำลังเดินทางมาที่นรกในอีกไม่ช้า
นี่ถือว่าเป็นข่าวใหญ่ที่สุดของแดนนรก นับตั้งแต่ที่ถูกสร้างและถูกปกครองโดยลูซิเฟอร์
แต่ละเขตแดนของจักรวาลล้วนมีผู้ปกครองและกฎเกณฑ์ที่เป็นเอกเทศ ไม่นับว่าเป็นศัตรูแต่ก็ไม่ถือว่าเป็นมิตร ความสัมพันธ์อันเปราะบางและสุ่มเสี่ยงทำให้พวกเขาแทบจะไม่ยุ่งเกี่ยวต่อกัน น้อยครั้งนักที่ผู้ดำรงศักดิ์แห่งราชาจะย่างเข้าสู่ดินแดนของผู้อื่น หากไม่ใช่ว่ามีเหตุอันสำคัญจนกล้าเสี่ยงที่จะจุดประเด็นความขัดแย้งขึ้นมา
และสำหรับมอร์เฟียส เหตุผลสำคัญของเขาคือการทวงหนึ่งวัตถุแห่งอำนาจที่ครั้งหนึ่งเคยถูกมนุษย์ขโมยไป หมวกแห่งนิมิต ซึ่งยามนี้ถูกครอบครองโดยปีศาจชั้นสูงตนหนึ่งของนรก
แน่นอนว่าการมาเยือนครั้งนี้ไม่อาจเป็นไปได้อย่างสันติ ทั้งลูซิเฟอร์และมอร์เฟียสตระหนักรู้ดีว่าการต่อสู้จะต้องเกิดไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
ลานกว้างท่วมท้นด้วยปีศาจทั้งสูงและต่ำที่ต่างรวมตัวกันส่งเสียงเซ็งแซ่ แต่ละตนล้วนกระหายอยากและกระตือรือร้นที่จะก่อสงคราม ทว่าจอมปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ที่สถิตบนบัลลังก์กระดูกยังคงรักษาความสงบนิ่งไว้เป็นอย่างดี ในระหว่างสดับรับฟังถ้อยคำรายงานเหตุการณ์ทั้งหมดจากแม่ทัพใหญ่แดนนรก
ความคิดของลูซิเฟอร์ยากแท้หยั่งถึง แม้แต่มาซิคีนผู้เป็นทั้งชู้รักและแม่ทัพคู่ใจก็มิอาจคาดเดาได้
หล่อนคุกเข่าเคียงข้างบัลลังก์อย่างนอบน้อม ด้วยท่าทางพร้อมรับคำสั่งจากนายเหนือหัว ทว่าในขณะเดียวกันดวงตาเฉียบคมก็ไม่ลืมที่จะลอบสังเกตการแสดงออกของเทพปีศาจไปด้วย
ถึงไม่มีผู้ใดในที่นี้มองเห็น แต่หล่อนเห็นชัดแจ้ง ความขัดแย้งทางอารมณ์ปนเปจนแยกไม่ออกสะท้อนผ่านประกายตาสีเหลืองทองคู่นั้น ซึ่งวาวโรจน์อย่างน่าสะพรึงยามได้ยินนามของจอมสุบิน
นั่นคือสิ่งเดียวที่เขาต้องการอย่างนั้นหรอกหรือ
มันไม่ใช่คำถาม แต่เป็นถ้อยคำอันเปี่ยมด้วยโทสะแรงกล้าซึ่งแทบจะแผดเผาเหล่าปีศาจที่อยู่ใกล้เคียงให้มอดไหม้ได้โดยง่าย กลุ่มวิญญาณบาปต่างรีบก้มหน้าคุดคู้ด้วยกริ่งเกรงต่อพลังอำนาจของราชา ความเงียบค่อย ๆ คืบคลานไปทั่วลานกว้างเมื่อยามนี้ไม่มีผู้ใดกล้าเอ่ยปากโวยวายแม้แต่ครึ่งคำ
ลูซิเฟอร์แค่นเสียงในลำคอด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัวยิ่งกว่าเดิม เขาคิดว่าประโยคนี้ช่างแสดงถึงตัวตนเนื้อแท้ของมอร์เฟียสได้ชัดเจนยิ่งนัก อนันต์สูงส่งผู้มองทุกสิ่งทุกอย่างเป็นสิ่งของที่ตัวเองเป็นเจ้าของ และไม่อาจทนยอมรับต่อการสูญเสียไปได้
ทว่าความฝันหลงลืมไปแล้วหรืออย่างไรกัน ว่าหน้ากากนั่นไม่ใช่สิ่งสำคัญเพียงอย่างเดียวของเขาที่ตกอยู่ที่นี่
ในเมื่อราชาแดนฝันลงมาเยือนดินแดนข้าทั้งที เห็นทีว่าข้าคงต้องจัดการต้อนรับเสียแล้ว
ถ้อยคำของลูซิเฟอร์ทำให้แม่ทัพปีศาจประหลาดใจยิ่งนัก เพราะไม่เคยเลยสักครั้งเดียวที่อีกฝ่ายจะลงมือกระทำอะไรบางอย่างด้วยตัวเองเหมือนเช่นในครั้งนี้
หล่อนตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดแปลกออกไปในตัวราชาแห่งนรก แต่ผู้ต้อยต่ำหรือจะมีสิทธิ์ตั้งข้อสงสัยต่อกษัตริย์ของตน หล่อนจึงทำได้แค่เงียบเท่านั้น
ดวงหน้าของปีศาจสาวที่ซึ่งครึ่งหนึ่งเน่าเปื่อยลึกถึงกระดูกเงยขึ้นอย่างช้า ๆ แลเห็นนายเหนือหัวซึ่งลุกจากบัลลังก์อย่างมาดหมาย ด้วยแผนในใจบางประการที่มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้
ชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น หล่อนเห็นว่าเขากำลังยิ้ม แม้จะเป็นเพียงรอยยิ้มบางเบาก็ตามที
ข้าจะทำให้เขาได้รำลึกถึงสิ่งที่ตัวเองหลงลืมไปเสียหน่อย
...............................
ควันและขี้เถ้าปลิวว่อนในอากาศ
กระดูกคนเกลื่อนกลาดเต็มผืนฉมา
เปลวเพลิงส่องประภาในความมืดมิด
ณ แดนดินที่พระเป็นเจ้าทอดทิ้ง
บทกลอนถูกสลักเหนือบานประตูเก่าแก่ที่ทำจากหินซึ่งปกคลุมแน่นหนาด้วยเถาวัลย์เน่าเสีย ท่ามกลางเหล่าวิญญาณผู้ทนทรมานซึ่งคอยส่งเสียงกรีดร้องแว่วมาเป็นระยะ เหนือขึ้นไปจากนั้นคือบันไดสูงชันและคับแคบที่ทอดตัวสูงเสียดฟ้า ทว่ายังต่ำกว่าพิภพเบื้องบนอยู่มากนัก
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่มอร์เฟียสต้องฝ่าฟันเพื่อไปให้ถึงใจกลางของนรก ที่พำนักของอดีตเทวทูตผู้งดงามและทรงพลังที่สุดแห่งจักรวาล
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกในการมาเยือนนรกสำหรับมอร์เฟียส ทว่ามีบางอย่างที่แตกต่างออกไปในครั้งนี้ ราชาแห่งฝันรู้สึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากลในทุกย่างก้าวที่เหยียบย่ำไปบนกองกระดูกและขั้นบันไดคร่ำครึ ส่วนปีศาจชั้นต่ำที่รับหน้าที่ผู้นำทางก็ไม่แม้แต่จะสนใจเขา มันก้าวล่วงหน้าไปอย่างว่องไว แล้วร่างใหญ่โตอันน่าขยะแขยงก็หายลับไปในมุมกำแพงราวว่ากับไม่เคยมีตัวตนมาก่อน
ผู้เป็นอมตะตัดสินใจหยุดฝีเท้าของตัวเองชั่วคราว ดวงตาภายใต้คิ้วหนาเข้มขยับมองไปรอบ ๆ อย่างระมัดระวัง ก่อนจะตระหนักได้ว่าเส้นทางนี้ไม่ใช่เส้นทางที่เขาเคยมา
ปีศาจมีแรงจูงใจเป็นร้อย ที่จะทำในสิ่งที่พวกมันทำ ซึ่งล้วนแต่ชั่วร้ายทั้งนั้น
และจอมสุบินรู้ว่าลูซิเฟอร์จงใจที่จะเล่นตลกบางอย่างกับเขา แต่กระนั้นเขาก็ไม่อาจหยั่งรู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปหลังจากนี้
เขาไม่รู้เลย...จนกระทั่งได้ยินเสียงกระซิบแผ่วเบาของใครคนหนึ่ง เล็ดลอดออกมาจากช่องหน้าต่างที่ถูกรัดรึงด้วยลวดหนาม
“ราชาฝัน นั่นท่านหรือ”
ถึงแม้จะกาลเวลาผ่านไปแล้วกว่าหมื่นปีก็ตาม แต่มอร์เฟียสไม่มีวันที่จะลืมน้ำเสียงของเธอไปได้แน่
ลูซิเฟอร์คิดเช่นนั้น และเขาก็คิดถูกเสียด้วย
ทุกสรรพสิ่งที่เกิดขึ้นในนรกล้วนอยู่ภายใต้การเฝ้ามองและบงการจากอดีตเทวทูตผู้สูงส่งเสมอ รวมไปถึงเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้เช่นกัน
สีหน้าเย็นชาแข็งกร้าวซึ่งกำลังสั่นไหวด้วยความปวดร้าวของเจ้าแห่งฝัน ยามได้พบเจออดีตคนรักสาวที่ถูกกักขังอยู่เบื้องหลังกำแพงอีกครั้ง นั่นถือเป็นคำตอบที่ชัดเจนยิ่งกว่าคำพูดเป็นไหน ๆ
มอร์เฟียสยังคงหลงรักสตรีผู้นี้ไม่เสื่อมคลาย
ที่ผ่านมาเหล่ามนุษย์มักจินตนาการถึงนรกด้วยความน่าสะพรึงกลัว ทว่าแท้จริงแล้วโทษทัณฑ์ที่ทรมานและโหดร้ายที่สุดของเหล่าคนบาปในขุมนรก หามิใช่ทั้งเปลวไฟร้อนหรือคมมีดแหลมคม แต่คือการต้องเผชิญหน้าต่อสิ่งที่ไม่อยากจดจำและความปรารถนาที่ไม่อาจเป็นจริงได้อีก
และทั้งหมดนี้คือการลงทัณฑ์สูงสุดที่ลูซิเฟอร์เลือกมอบให้ต่อมอร์เฟียส และต่อเธอผู้นั้น
จอมปีศาจผู้เฝ้าดูเหตุการณ์อย่างเงียบงันจากที่ห่างไกลค่อย ๆ เลื่อนสายตาไปยังหญิงสาวในห้องขัง ความรู้สึกประหลาดใจปรากฏขึ้นเมื่อได้เห็นแววตาคู่นั้นของเธอ น้ำตากำลังหลั่งไหลออกมาหยดแล้วหยดเล่า เธอสะอื้นไห้อย่างเจ็บปวดเหลือแสน ทว่าความชิงชังที่เขาเคยได้เห็นจนชินตากลับไม่มีอยู่อีกต่อไปแล้ว
คิดถึง โหยหา โศกเศร้า และยินดี อารมณ์มากมายหลั่งไหลท่วมท้นประหนึ่งสายน้ำใหญ่
ข้าภาวนาให้มีวันนี้มาตลอด นึกแล้วว่าท่านต้องมา เสียงของเธอสั่นสะท้าน และก้องกังวานซ้ำไปซ้ำมาอยู่ในความคิดของเขา ราวกับจะตอกย้ำให้เขาได้ตระหนักรู้ถึงสิ่งที่ตัวเองมองข้ามมาตลอด
ตลอดเวลาที่ถูกขัง เธอไม่เคยภาวนาเพื่อให้ได้รับการอภัยจากใคร และไม่เคยรับความช่วยเหลือจากใคร แม้กระทั่งลูซิเฟอร์เองก็ตาม นั่นเพราะสิ่งที่เธอต้องการไม่ใช่การหลุดพ้น หรือการแก้แค้น แต่เป็นการที่ได้กลับมาพบหน้ากับมอร์เฟียสอีกครั้งต่างหาก
เจ้ารักเขาอย่างนั้นเหรอ
ครั้งหนึ่งลูซิเฟอร์เคยถามหล่อนเอาไว้เช่นนี้ และบัดนี้จอมปีศาจได้รู้แล้วว่าคำตอบคืออะไร
เธอรักเขามาตลอดตั้งแต่แรก
เหตุผลเดียวที่เธอเลือกปฏิเสธความรักของมอร์เฟียส เบื้องหลังของคำว่า ไม่ ที่กล่าวออกไปนั่นไม่ใช่ด้วยการท้าทาย
แต่ในฐานะราชาของดินแดนแห่งการลงทัณฑ์ ลูซิเฟอร์ย่อมรู้ดีในเรื่องนี้มากกว่าใคร
มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่เปราะบางเกินกว่าจะรับความรักจากผู้ยิ่งใหญ่อันเป็นนิรันดร์ได้ ฉะนั้นความรักระหว่างผู้ครองฝันและมนุษย์จึงเป็นเรื่องผิดธรรมชาติที่ไม่สมควรเกิดขึ้น และการพยายามฝ่าฝืนต่อรักที่เป็นไปไม่ได้ นั่นอาจหมายถึงการพังพินาศของทั้งอาณาจักรฝันและอาณาจักรความจริง
ความฝันไม่อาจดำรงอยู่ในความจริงได้ฉันใด ความจริงก็ไม่อาจมีชีวิตในความฝันได้ฉันนั้น
ด้วยเหตุนี้ เธอจึงเลือกเก็บความลับทั้งหมดเอาไว้โดยไม่บอกใคร ยอมที่จะเป็นฝ่ายทรยศหักหลัง และยอมที่จะแบกรับความโกรธเคืองของอนันต์ไว้แต่เพียงผู้เดียว
แม้จะต้องทุกข์ทรมานยาวนานเป็นหมื่นปีในนรกภูมิ แม้จะเกลียดชังต่อชะตากรรมที่ต้องเจอมากแค่ไหน แต่ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ยังรักเขาเสมอ
น่าเศร้าที่มอร์เฟียสกลับไม่เคยได้รับรู้ถึงเบื้องหลังการเสียสละของคนรัก เขาต้องทนทุกข์เจ็บปวดต่อความไม่สมหวังในรักที่ปรารถนา จนไม่อาจทำใจยอมรับได้โดยง่าย เขาจึงไม่มีวันลืมและไม่มีวันให้อภัย จวบจนถึงตอนนี้ก็ตามที
ข้ายังรักเจ้า แต่ข้ายังไม่ให้อภัยเจ้า
นั่นคือประโยคสุดท้ายที่มอร์เฟียสกล่าวต่อเธอ ก่อนจะเดินจากไปด้วยความเยือกเย็นเหมือนเช่นเคย สีหน้าขาวซีดเรียบเฉยดั่งรูปสลักมากกว่าจะมีชีวิต ประหนึ่งว่าไม่หวั่นไหวต่อการยั่วยุทางอารมณ์ที่ลูซิเฟอร์จงใจสร้างขึ้น
เขาทิ้งทุกความรู้สึกที่เคยมีไว้ข้างหลัง ทิ้งมันเอาไว้กับสตรีในห้องขังที่ยังคงร่ำร้องไห้เหมือนจะขาดใจ
ข้าจะไม่ยอมสิ้นหวัง ท่านได้ยินหรือไม่ ข้าจะไม่ยอมสิ้นหวัง
หญิงสาวกำมือแน่นกับกรงลวดหนามจนเกิดแผลเหวอะหวะเลือดไหลชุ่มโชก
มอร์เฟียส
เธอเรียกหาเขา เธอขอร้องเขา แต่ไม่มีการตอบรับจากเขาเลยสักครั้งเดียว
เสียงร่ำไห้จากจิตวิญญาณมนุษย์ที่แตกร้าวนั้นสะท้อนบาดลึกไปถึงกระดูก สตรีผู้เคยได้ชื่อว่างดงามนักหนายามนี้ช่างมีสภาพอดสูน่าเวทนานัก เธอซบหน้าลงกับผนังสกปรกอย่างศิโรราบ สิ้นไร้ซึ่งความหยิ่งทะนงภาคภูมิที่เคยมี ดั่งว่าการลาจากของชายคนรักได้พรากเอาสิ่งสุดท้ายที่เธอมีจากไปด้วย
ผ่านช่วงเวลาที่ยาวนานนับหมื่นปี ในที่สุดลูซิเฟอร์ก็ได้เห็นความพ่ายแพ้ของเธอแล้วในวันนี้ สำหรับจอมปีศาจผู้ชมชอบต่อความเจ็บปวดของผู้อื่น เขาควรจะพึงพอใจที่ได้เห็นผลลัพธ์ที่ตัวเองปรารถนามาตลอด
มันควรจะต้องเป็นอย่างนั้นมิใช่หรือ ทว่าทำไมเขากลับรู้สึกเจ็บปวดไปกับเธอด้วยเล่า?
เจ้าผู้ส่องแสงหลับตาลง ราวกับไม่ต้องการจะมองเห็นภาพของเธอที่กำลังคร่ำครวญอีกต่อไป แต่นั่นไม่ช่วยอะไรเลย แม้กระทั่งในความคิดและจิตใจ เขาก็ยังคงมองเห็นเธอชัดเจน เธอที่กำลูกกรงลวดหนามแน่นเสียจนมือทั้งสองข้างมีแต่เลือด เธอที่ร้องไห้จนลูกตาสีแดงก่ำ เธอที่เอาแต่ขานนามถึงชายผู้นั้นที่ไม่หันกลับมา
เพราะปีศาจไม่เคยหลั่งน้ำตา จึงมิอาจเข้าใจความโศกเศร้าของมนุษย์
แต่ปีศาจนั้นมีความริษยา และปีศาจเข้าใจในรักเท่ากับที่รู้จักชิงชัง
ลูซิเฟอร์แตะมือลงบนหน้าอกของตัวเอง ทุกขณะที่น้ำตาไหลจากดวงตาของสตรีผู้นั้น เสมือนมีบางสิ่งงอกเงยและบีบรัดแน่นอยู่ในอกเขา บางสิ่งที่คุกรุ่นด้วยโทสะและหนาวสั่นด้วยโศกศัลย์ ซึ่งนับแต่จะมากขึ้นและมากขึ้นเรื่อย ๆ
สิ่งนี้นะหรือคือความริษยา
เขากำลังริษยา ทั้งต่อความรักที่เธอมีให้กับมอร์เฟียส มากล้นเสียจนยอมทรมานเป็นหมื่นปีเพื่อชายผู้เดียว ทั้งต่อเจ้าสุบินผู้เลือกที่จะทอดทิ้งเธอไป และไม่คู่ควรได้รับความรักจากเธอเลยแม้แต่น้อย
เพราะรักนั้นเขาจึงริษยาเ พราะรักนั้นเขาจึงปรารถนาจะครอบครองรักไว้แต่เพียงผู้เดียว
เสียงร่ำร้องของเหล่าปีศาจตนอื่นบอกให้รู้ว่าผู้มาเยือนกำลังใกล้เข้ามาทุกที ทว่าลูซิเฟอร์ยังคงนิ่งเฉยบนบัลลังก์อันเงียบงันและหนาวเย็น เขาเงยหน้าขึ้นอย่างเชื่องช้า จ้องมองเบื้องบนแดนนรกที่ปกคลุมด้วยควันจากเปลวไฟที่ดำมืดดั่งรัตติกาล สายตาแข็งกร้าวราวกับท้าทายไปถึงพระผู้สร้างที่ดำรงตนเหนือสรวงสวรรค์
ไม่ว่าราชาฝันจะประสงค์สิ่งใด และไม่ว่าอีกฝ่ายจะได้มันไปหรือไม่ สงครามจะต้องเกิดขึ้น และมอร์เฟียสจะต้องพ่ายแพ้หมดรูป
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น
หากปลายทางสุดท้ายของมนุษย์ที่ถูกรักโดยเทพเจ้าคือโศกนาฏกรรม แล้วปลายทางสุดท้ายของปีศาจที่หลงรักมนุษย์จะเป็นเช่นไร
สำหรับลูซิเฟอร์ นั่นคือคำถามที่เขามีคำตอบชัดเจนอยู่แล้ว
เพียงเพื่อเธอ เขาจะไม่ยอมสูญเสียไป เพียงเพื่อเธอ เขาสาบานจะแก้แค้นต่อทุกสรรพสิ่งและทุกภพแดน
หากเรื่องราวเหล่านี้จะกลายเป็นอีกหนึ่งโศกนาฏกรรมของเขาเอง เขาก็ยังยืนยันที่จะทำเพื่อเธอ
แม้จะต้องถูกสาปส่ง แม้จะต้องพินาศย่อยยับก็ตาม
________________________
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in