ในที่สุดก็ได้ดูสักทีหลังจากทีรอมาตั้งแต่ช่วงล็อกดาวน์รอบก่อน Love and Monsters เป็นภาพยนตร์แนวผจญภัยหลังโลกล่มสลาย ผลงานการกำกับของ Michael Matthews เล่าเหตุการณ์หลังจากที่ชาวโลกได้พยายามยิงจรวดขึ้นไปบนชั้นบรรยากาศ เพื่อหวังที่จะทำลายอุกาบาตที่กำลังจะพุ่งชนโลก และถึงแม้ว่าโลกจะยังไม่แตกแต่สารเคมีต่างๆที่เป็นผลพวงจากการยิงจรวดขึ้นไปนั้นกลับตกลงมาสู่โลก ซึ่งเป็นสาเหตุให้สิ่งมีชีวิตจำพวกสัตว์เลือดเย็นทั้งหลายกลายร่างเป็นสัตว์ปะหลาดขนาดมหึมา และเข้าโจมตีมนุษย์จนทำให้ต้องย้ายถิ่นฐานไปอาศัยอยู่ในบังเกอร์ หรือหลุมหลบภัยเป็นชุมชนใต้ดินที่เรียกว่าโคโลนีแทน

โจล ดอว์สัน (Dylan O’Brien) ชายหนุ่มท่าทางอ่อนแอที่แทบไม่รู้จักวิธีเอาตัวรอดเลยสักนิดได้ตัดสินใจที่จะออกเดินทางเพื่อตามหาเอมี่ (Jessica Henwick) แฟนสาวที่อาศัยอยู่อีกโคโลนีหนึ่งที่อยู่ห่างออกไปราวๆ 140 กิโลเมตร ซึ่งไม่ได้เจอหน้ากันมาประมาณ 7 ปี เพื่อนๆในโคโลนีต่างก็รู้สึกเป็นห่วงโจลเพราะในโคโลนีเข้ามีหน้าที่ดูแลเรื่องอาหารการกิน รีดนมวัว และซ่อมแซมสิ่งของ อีกทั้งเมื่อเวลาที่รู้สึกหวาดกลัวเค้ายังมีอาการตัวแข็งจนขยับไม่ได้ ซึ่งดูเป็นอะไรที่ห่างไกลจากการมีชีวิตรอดเอามากๆสำหรับการออกเดินทางบนพื้นโลกเพียงลำพังเป็นเวลาเจ็ดวันด้วยสกิลการเอาตัวรอดเพียงน้อยนิด

หนังแนวเอาชีวิตรอดหลังโลกล่มสลายส่วนใหญ่มักจะมีการนำเสนอด้านมืดของมนุษย์ แต่ไม่ใช่กับเรื่องนี้ที่เลือกแสดงถึงความดีงามและมิตรภาพทั้งต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันรวมไปถึงสิ่งมีชีวิต และไม่มีชีวิตอื่นๆที่ช่วยสนับสนุนการเดินทางของโจลอยู่เสมอ ถึงแม้ว่าเขาจะมีสกิลพื้นฐานติดตัวมาไม่มากแต่เพื่อนๆในโคโลนีก็สนับสนุนอาวุธที่น่าจะใช้ได้ง่ายที่สุดสำหรับเขาไว้ป้องกันตัว

ในระหว่างทางก็ได้คนที่เชื่อมั่นในตัวเขาพร้อมทั้งช่วยสอนสิ่งต่างๆที่เป็นโยชน์อย่างมากสำหรับการเดินทางครั้งนี้ และยังได้อาศัยสัญชาตญาณที่ดีเยี่ยมของน้องหมาในการช่วยเตือนภัยสิ่งต่างๆ และไม่ว่าการเลือกออกเดินทางของโจลในครั้งนี้จะมีผลเป็นอย่างไรอาจจะสมหวังอย่างที่วาดฝันไว้หรืออาจจะไม่สมหวังก็ตาม แต่อย่างน้อยเขาก็ได้รับบทเรียนที่มีค่าและมิตรภาพที่ดีงามระหว่างการเดินทาง

เหล่าสัตว์ปะหลาดทั้งหลายในเรื่องทำออกมาได้อย่างแนบเนียน (และค่อนข้างน่าขนลุกสำหรับคนที่กลัวแมลงทั้งหลาย) ซึ่งหนังเรื่องนี้ก็ได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งที่จะถึงนี้ในสาข าBest Visual Effects อีกด้วย ในตอนแรกทาง Paramount Pictures ได้มีการวางแผนที่จะฉายในโรงตั้งแต่ต้นปีที่แล้วแต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของCOVID-19 จึงทำให้ต้องมีการปรับรูปแบบเป็น video on demand และฉายจำกัดโรงในอเมริกาในช่วงปลายปีก่อน สำหรับต่างประเทศรวมถึงประเทศไทยสามารถรับชมได้ทาง Netflix ตั้งแต่วันที่ 14 เมษายน 2021 เป็นต้นไป